เมกะโปรเจ็กต์ "คมนาคม" เค้ก-ของแสลง-เผือกร้อน

เมกะโปรเจ็กต์ “คมนาคม” เค้ก-ของแสลง-เผือกร้อน

                   เห็นโฉมหน้า ครม.ใหม่แล้ว มีเซอร์ไพรส์อยู่บ้าง อย่าง “หม่อมเต่า ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล” ที่ถูกส่งไปคุมกระทรวงแรงงาน แทนที่จะไปอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก็น่าจะใช้โอกาสนี้ยกระดับ “อัพเกรด” การทำงานของกระทรวงนี้ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา มีความเป็น “อินเตอร์” อวดชาวโลกเขาบ้าง

                   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารต่างๆ เพื่อขอทำงานในเมืองไทยของผู้บริหารระดับสูง ซีอีโอ ของต่างชาติดูยากเย็นแสนเข็ญเป็นภาษาไทยอีกต่างหาก หาคนเซ็นก็ลำบาก ดูยุ่งยากไม่มีความเป็นสากลเหมือนฮ่องกง สิงคโปร์ คนวงในรู้ดี แต่ไม่มีใครกล้าบ่นดังๆ และสุดท้ายก็ต้องเสียเงินจ้างบริษัทเข้ามาเดินเรื่องให้ เพื่อความสะดวกดูขัดกับนโยบายเปิดประตูรับต่างชาติมาลงทุน ฉะนั้นอย่าให้มาตกม้าตายตรงเรื่องไม่เป็นเรื่อง “อายเขา” ไหนๆ ก็ได้รมต. “ดีกรี” เป็นถึงอดีตปลัดการคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติ อย่าให้เสียของ กระทรวงนี้ไม่ใช่มีแต่แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานก่อสร้างเท่านั้น

                   กระทรวงที่ฮือฮาก็ต้องกระทรวงเกษตรฯ มีรัฐมนตรีถึง 4 คนจาก 4 พรรคการเมือง 4 นโยบาย ไล่เลียงมีชื่อ “ผู้กองมนัส-ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า”จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกส่งไปนั่งรัฐมนตรีช่วยด้วย นอกจากนี้ยังมี “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” พรรคภูมิใจไทย “ประภัตร โพธสุธน” พรรคชาติไทยพัฒนา ส่วน “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ

                   มองโลกในแง่ดีคงช่วยกันทำงาน คนละไม้คนละมือสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย ที่เป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศให้ลืมตาอ้าปาก ถีบราคาสินค้าเกษตร ข้าว ยางพารา ปาล์ม เงาะ ทุเรียน มังคุด ให้แพงขึ้นแต่หาก “ขัดขากันเอง” ก็คงเละ! ไม่เป็นท่า เพราะแค่ได้ยินว่ามี รมต. 4 คนข้าราชการทั้งกระทรวงยังถึงกับสยองทำตัวไม่ถูก

                   ช่วงนี้เลยต้องติดตามข่าวสารกันใกล้ชิด ลุ้นว่ารมต.คนไหนจะมาคุมกรมไหน ขรก.ตัวเล็กคงไม่เดือดร้อนแต่ระดับอธิบดี ผอ. ปลัดกระทรวง เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ และฮั่นแน่! ไม่ยักรู้ว่ากระทรวงนี้มีงบประมาณปีละไม่ตํ่ากว่าแสนล้านบาท ปีที่แล้วได้ถึง 1.08 แสนล้านบาท  ส่วนใหญ่เป็นงบเกี่ยวกับเรื่องนํ้า สร้างเขื่อน ชลประทาน อะไรทำนองนั้น

                   ที่น่าจับตา อีกกระทรวงก็ “คมนาคม” ในอุ้งมือพรรคภูมิใจไทย ซึ่ง “รองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ถึงกับเอ่ยปากฝากให้ผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ให้ต่อเนื่องอย่าให้ชะงัก เพราะในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ดี ต้องอาศัยแรงผลักจากภายใน การลงทุนในประเทศซึ่งก็ไม่ง่าย แถมกำลังซื้อในประเทศก็อ่อนแรง เจอพิษค่าเงิน และ ส่งออก ท่องเที่ยวเริ่มเห็นอาการชัดว่ากำลัง “ซวนเซ” รัฐบาลใหม่จึงต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่นกันอย่างด่วนจี้

                   กลับมากระทรวงหูกวางภายใต้บังเหียนภูมิใจไทย ที่ส่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” มาคุมเมกะโปรเจ็กต์หลายแสนล้านบาท ซึ่งมีทั้ง เค้กอันโอชะ-ของแสลง-เผือกร้อน และแม้กระทั่งเรื่องกระจิ๊บกระจ้อยสาระพัดโครงการไล่ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ถนนหนทาง ทางคู่ รถไฟฟ้า เครื่องบิน ยันช่องฟาสต์แทร็กในสนามบินที่ล้วนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงนี้ทั้งสิ้น

                   บางโครงการก็เดินหน้ามาไกล โดยเฉพาะระบบรางที่ถูกเข็นให้เดินหน้าเกือบทั้งหมดสำหรับรถไฟฟ้าในเมือง เหลือบางส่วนที่มีไทม์ไลน์รอประมูล และรางคู่ของ รฟท.อีกหลายโครงการ รวมๆ กันแล้วก็อีกหลายแสนล้านบาท แต่โครงการที่รัฐบาลที่แล้วไม่กล้าฟันธง กลัวข้อครหาหรืออะไรไม่ทราบ ทั้งที่ช่วงแรกๆ “รองนายกฯสมคิด”ยํ้าหลายรอบกับดีดีการบินไทย “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” และประธานบอร์ด“เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ให้ซื้อฝูงบินให้จบโดยเร็ว

                   ขณะนั้นถึงขั้นทั้งขู่ ทั้งปลอบ และจะปลดหากแผนล่าช้า  ตามแผนจะซื้อฝูงบินใหม่ 28 ลำมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท เรื่องก็ผ่านทั้งสภาพัฒน์ กระทรวงคมนาคมแล้ว รอเข้าคิว ครม.เคาะ แต่รัฐบาล “คสช.” ก็ไม่กล้านำเสนอ ครม. “บีไฮด์เดอะซีน”เรื่องนี้จึงน่าติดตามว่ารัฐบาลใหม่จะชักเข้า-ชักออก หรือยื้อไปสักแค่ไหน

                   นอกจากนี้ในอุ้งมือของกระทรวงคมนาคม ก็ยังมีของแสลงเผือกร้อนอย่าง ค่าโง่ โฮปเวลล์ 2.6 หมื่นล้านบาทรวมดอกเบี้ย ของ รฟท. ก็ยังเคลียร์ไม่จบ แต่ที่ร้อนกว่าและกำลังร้อนฉ่า ก็คือการจ่อต่อสัญญาสัมปทานกับ BEM อีก 30 ปีแลกกับค่าโง่ ทางด่วนฯ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยร่วม 6 พันล้านบาท ที่กำลังร้อนเป็นไฟไปทั้งสภาเมื่อถูกยกขึ้นมาเป็นวาระร้อนฉะกันกลางสภา

                   ถึงขั้นรมช.คมนาคม “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” ต้องรีบออกแถลงด่วน ก่อนทิ้งทวนเก้าอี้รมต. ไล่ยาวว่า เป็นการทำตามมติ ครม. เพื่อยุติข้อพิพาท ที่เกิดจาก 2 คดีคือสร้างทางแข่งขันและไม่ขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทาน ที่พอกพูนมาหลายรัฐบาลทับถมกันจากหลายคดีคิดเป็นค่าเสียหายราว 1.3 แสนล้านบาท และโอกาสแพ้สูงจึงต่อรองตัดเหลือ 5.9 พันล้านบาทต่อสัมปทาน 15 ปีไม่ใช่ 30 ปี โดย BEM จะสร้างทางด่วน 2 ชั้น จากประชาชื่น-อโศก อีก 17 กม.กลายเป็นหนังคนละม้วน เรื่องนี้จบง่ายหรือยากต้องดูกันต่อ แต่ที่แน่ๆ น่าเป็นมวยถูกคู่ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับช.การช่าง เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ยังไงไม่รู้ แต่เอาเป็นว่างบประมาณปี 2562 กระทรวงคมนาคมมีเงินหน้าตักอยู่ราว 2 แสนล้านบาทงบปี2563ยังไม่เคาะแต่ไม่น้อยกว่าชัวร์                       

                   แย่งเก้าอี้เสร็จ คิวต่อไปเป็นการหา “เงิน” หางบประมาณ มาสนองนโยบายตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องประชานิยม ซึ่งต้องมีเงินถุง-เงินถังมาจับจ่ายใช้สอย เอาใจชาวบ้าน หาเงินไม่ได้ก็จบเห่! และคงร้อนไปถึงเก้าอี้ ระดับบิ๊กข้าราชการในกระทรวงที่ต้องสนองนโยบายบรรดานายๆ ท่านๆ ทั้งหลายให้ทันท่วงทีทำไม่ได้ เก้าอี้มีสะเทือน! สนองไม่ทันใจ เก้าอี้มีเสียว มีเด้ง แน่นอน เชื่อขนมกินได้

                   นํ้าหวาน-ณพวงศ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ประธานบริหาร บริษัท วงศ์กุลศรา เอสเตทฯ เตรียมเปิดคอมมิวนิตีมอลล์รูปแบบใหม่สำหรับครอบครัว  “แบมบีนี่ วิลล่า”ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท   26 ใกล้พระราม 4 วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.00 น.