ประชาสัมพันธ์

ประชุมคกก.นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 11/2562

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 11/2562     



                                                      
    
    
          การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 11/2562 วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ กพอ. เป็นประธาน    ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้า การดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  มีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้

 

 

          1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 
          ที่ประชุม กพอ. พิจารณาเห็นชอบ ตามคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ประชุมครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2562 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ 
          1.1 แผนการส่งมอบพื้นที่ รื้อย้ายสาธารณูปโภค และกรอบวงเงินที่จำเป็น ให้หน่วยงานที่ขอรับจัดสรรงบประมาณในการรื้อย้ายเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเริ่มการก่อสร้าง ส่วนแผนการก่อสร้างทดแทนกลับคืนหลังรื้อย้าย ที่ประชุม กพอ. ให้ กบอ. มอบหมายคณะทำงานส่งมอบพื้นที่ และทำรายละเอียดให้เสร็จภายใน ม.ค.63  
          1.2 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล คณะกรรมการบริหารสัญญา และโครงสร้างการบริหารจัดการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อบริหารสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะช่วงเริ่มโครงการฯ ที่เน้นการออกแบบและการก่อสร้าง เป็นหลัก 

 

 

ประชุมคกก.นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 11/2562

 


          2. แผนการยกระดับบริการสาธารณสุขในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 
          2.1 เห็นชอบแผนยกระดับการบริการสาธารณสุขในพื้นที่ อีอีซี โดยมีหลักการ 3 ด้าน 14 โครงการ ได้แก่ 
          1.) จัดทำข้อมูลชุดเดียวกัน สำหรับพัฒนาระบบข้อมูลให้ครอบคลุมในพื้นที่ 
          2.) รัฐและเอกชนร่วมทุน โดยเป็นการลงทุนระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชนในพื้นที่ โดยจัดทำการบริการในโรงพยาบาลให้คล่องตัว เพื่อความสะดวกของประชาชน 
          3.)  เครือข่ายเดียว ระบบเดียว บริการรัฐแนวใหม่อาศัยการทำงานบนความร่วมมือของเครือข่ายภาครัฐสังกัดต่างๆ อปท. และเอกชน โดยใช้ทรัพยากรบุคคล และทรัพยากรอื่นร่วมกัน 


          3.  การจัดการขยะในพื้นที่อีอีซี สู่ต้นแบบการกำจัดขยะอย่างยั่งยืน 
          กพอ. ได้พิจารณา สถานการณ์ปริมาณขยะมูลฝอยในพื้นที่อีอีซี ที่คาดว่าเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณ 4,200 ตัน/วัน ในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 6,800 ตัน/วัน ในปี 2580 แต่ปัจจุบันยังขาดการบริหารจัดการ และขยะที่เกิดขึ้นก็ปริมาณมากขึ้นทุกวัน ซึ่งหากยังใช้การฝังกลบแบบเดิม นอกจากขยะไม่ย่อยสลายแล้ว ก็ยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งต้องหาพื้นที่เพิ่ม เพื่อรับรองปริมาณขยะที่สูงถึง 1.66 ไร่/วัน 


          ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการขยะในพื้นที่อีอีซี เกิดขึ้นอย่างประสิทธิภาพและยั่งยืน จึงเสนอกรอบแนวทางขยายผลต้นแบบของระยองโดยบริหารจัดการอย่างเป็นระบบในพื้นที่เป้าหมายครอบคลุม 3 จังหวัด อีอีซี เพิ่มอีก 6 แห่ง ซึ่งสามารถกำจัดขยะมูลฝอยทั้งรายวัน และขยะสะสมรวม 6,000 ตัน/วัน สามารถผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะได้ประมาณ 120 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถกำจัดขยะที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวันและกำจัดขยะที่สะสมได้กว่า 5.57 ล้านตัน ในพื้นที่ อีอีซี ให้หมดไปภายใน 12 ปี 

 


          โดยที่ประชุมได้มีมติดังนี้
          1) ให้ สกพอ.ประสานจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการบริหารจัดการขยะในพื้นที่อีอีซี ต้นแบบการกำจัดขยะอย่างยั่งยืน ทั้งขยะบก บนเกาะ และในทะเล ให้เสร็จภายใน 3 เดือน โดยให้กลุ่มบริษัท ปตท. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เข้าร่วมศึกษา  
          2) ให้จังหวัดในพื้นที่อีอีซี เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งโรงงานขยะ และโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะ 
          3) ให้กระทรวงพลังงานพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะ ในพื้นที่อีอีซี 


          4. การพัฒนาบุคลากรตามแนวทางอีอีซี โมเดล 
          ที่ประชุม กพอ. เห็นชอบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินงานการพัฒนาบุคลากร ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้ 
          4.1 ความคืบหน้าการพัฒนาบุคลากรในอีอีซี ใน 2 ปี โดยใช้หลักการ Demand Driven มี 2 รูปแบบ 
          1.)  EEC Model Type A : เอกชนร่วมจ่าย 100% 
มีสถาบันอาชีวศึกษาในพื้นที่เข้าร่วม 12 สถาบัน โดยปีการศึกษา 2562 มีนักศึกษาในระบบ 1,117 คน และมี MOU ร่วมกับผู้ประกอบการในอีอีซี พัฒนากำลังคนทั้งในระดับอาชีวะและปริญญาตรี จำนวน 44,000 คน
          2.) EEC Model Type B เอกชนร่วมบ้าง 10-50%
          ผู้ประกอบการมีส่วนร่วม ในการพัฒนาหลักสูตรจัดการเรียนรู้บางส่วน และรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน แต่ไม่ประกันการจ้างงาน โดยกลุ่มนี้มีการผลิตกำลังคนใน 36 วิทยาลัย รวม 5,100 คน และจะขยายให้ครอบคลุม 48 วิทยาลัยในภาคตะวันออก
          4.2 แนวทางการสนับสนุนบัณฑิตอาสา เพื่อกระจายโอกาสสู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างอนาคตให้บัณฑิตอาสาในพื้นที่ อีอีซี : เปิดรับสมัครคัดเลือกบัณฑิตระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 3 ปี จำนวน 120 คน เพื่อฝึกอบรม 2 เดือนและทำงานในพื้นที่ อีอีซี ของ 30 อำเภอ โดยทำงานร่วมกันระหว่าง ม.บูรพาและมหาลัยเครือข่าย ซึ่งคาดว่าจะได้บัณฑิตอาสารุ่นแรก ภายในเดือนมกราคม 2563 ประมาณ 30 คน จาก 3 จังหวัด ในอีอีซี 
          4.3 แนวทางการปรับฐานภาษาอังกฤษของนักเรียนอาชีวศึกษา ในอีอีซี (อาชีวะอินเตอร์) พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในสถาบันอาชีวศึกษาของรัฐในพื้นที่ อีอีซี จัดการเรียนแบบ Content Language Integrated Learning (CLIL)  เพื่อยกระดับศักยภาพของนักเรียนให้ทัดเทียมสากล สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษในวิชาชีพได้อย่างมั่นใจ และทำงานได้ค่าตอบแทนสูง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ