ไวรัสที่ติดจากเห็บกัด คร่าชีวิตชาวจีนแล้ว 9 ราย ติดเชื้ออีก 60 รายในช่วง 6 เดือน ผู้เชี่ยวชาญชี้แพร่จากคนสู่คนได้
สื่อทางการจีนรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกชา นามสกุล หวัง วัย 65 ปี ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ล้มป่วย มีไข้สูง 40 องศาเซลเซียส และไอไม่หยุด หลังถูกนำตัวส่งรพ.ประชาชนเจียงซู แพทย์พบว่าเธอมีเชื้อไวรัสก่อโรค SFTS ( Severe Fever with Thrombocytopenia Syndrome ) หรือ กลุ่มอาการไข้สูงและเกล็ดเลือดต่ำ ที่มีเห็บเป็นพาหะ หลังรักษานาน 1 เดือน จึงออกจากรพ.ได้
โรงพยาบาลระบุว่า สตรีคนดังกล่าว เป็นผู้ป่วย SFTS รายที่ 37 แล้วในมณฑลเจียงซู ในปีนี้ และโกลบอลไทมส์ สื่อทางการจีน รายงานว่า นอกจากเจียงซูแล้ว ยังมีมณฑลอันฮุย ทางตะวันออก ที่พบผู้ติดเชื้อ 23 ราย เสียชีวิต 5 รายนับจากเดือนเมษายน และเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
ไวรัสโรค SFTS ไม่ใช่ไวรัสใหม่ อยู่ในตระกูล bunyavirus พบครั้งแรกในมณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางและมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกในปี 2552 ยังไม่มีวัคซีนหรือตัวยารักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด อาการแรกเริ่ม ได้แก่ อ่อนเพลียและไข้สูง ไม่อยากอาหารบางครั้ง บางรายมีผื่นแดง เกล็ดเลือดต่ำ และเม็ดเลือดขาวต่ำ ในกรณีไม่รุนแรง อาจหายได้เอง แต่ในกรณีรุนแรง อาจทำให้อวัยวะล้มเหลว อัตราการตายอยู่ระหว่าง 1-5%
ช่องทางติดเชื้อหลักคือถูกเห็บกัด แต่ เฉิง จือฟาง นักไวรัสวิทยาและผู้อำนวยการสำนักงานโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลในสังกัดคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง กล่าวว่า ไวรัส SFTS แพร่จากคนสู่คนได้ผ่านเลือด มูกทางเดินหายใจและบาดแผล ยกกรณีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเมื่อ 3 ปีก่อน ที่แพร่เชื้อต่ออีก 16 คนจากการสัมผัสแตะต้องศพ เพราะผู้ตายมีเลือดออกจากการติดเชื้อรุนแรง
การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่เห็บแพร่พันธุ์มากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจเกิดการแพร่ระบาดแบบจำกัดได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง