โจ ไบเดน กวาดคะแนนการเลือกตั้งหยั่งเสียงใน 7 รัฐ รวมเมืองหลวง กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 เศรษฐกิจหยุดชะงัก และการประท้วงกรณี จอร์จ ฟลอยด์ โดยล่าสุดโพลล์ชี้ความนิยม แซงหน้า โดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อวันศุกร์ (5 มิถุนายน 2563) สำนักข่าวเอพี (Associated Press) ประมาณการว่า โจ ไบเดน (Joe Biden) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านเกณฑ์การเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต เป็นคู่ชิงครองทำเนียบขาวกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในปีนี้
สำนักข่าวเอพี คาดการณ์ว่า โจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงคนเดียวของพรรคเดโมแครตและน่าจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง อาจกวาดคะแนนเสียงของผู้แทนได้ถึง 1,993 เสียงจากการประชุมพรรคการเมืองเพื่อเลือกผู้สมัครประธานาธิบดี มากกว่าเกณฑ์ 1,991 เสียงที่ตั้งไว้
ข้อสันนิษฐานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน กวาดคะแนนการเลือกตั้งหยั่งเสียงใน 7 รัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันอังคาร (2 มิ.ย.) ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังอยู่ระหว่างการนับคะแนน เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอนต์ ที่ประกาศหยุดการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีไปตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ยังคงอยู่ในบัตรลงคะแนน ได้รับคะแนนเสียงไปไม่ถึงร้อยละ 15 ในการโหวตหลายครั้ง ส่งผลให้ โจ ไบเดน ได้ผู้แทนลงคะแนนไปครองมากขึ้น
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมแข่งขันกับกลุ่มผู้สมัครที่มากความสามารถที่สุดกลุ่มหนึ่งที่เดโมแครตเคยมีมา ผมยินดีที่จะบอกว่าเรากำลังเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป” โจ ไบเดน แถลงเมื่อคืนวาน (5 มิ.ย.)
“ผมจะใช้เวลาตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 พ.ย. ต่อสู้เพื่อคะแนนเสียงของคนอเมริกันทั่วทั้งประเทศอันยิ่งใหญ่นี้ เราจะได้คว้าชัยชนะในการต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของชาติไปด้วยกัน และเมื่อเราสร้างเศรษฐกิจของเราขึ้นมาใหม่ ทุกคนจะก้าวเดินไปพร้อมกัน” โจ ไบเดน กล่าว
การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ ถูกโรคระบาดจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) โจมตีจนเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก และการประท้วงต่อต้านความอยุติธรรมทางเชื้อชาติปะทุขึ้นและแผ่ขยายไปทั่วประเทศ หลังจาก จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำ เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจผิวขาวจับกุมในมินนิแอโพลิส
“นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในประวัติศาสตร์อเมริกา และการเมืองที่โกรธแค้นและก่อให้เกิดความแตกแยกของของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่อาจให้คำตอบได้” โจ ไบเดน กล่าวตอบโต้ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขู่ว่าจะใช้กองกำลังทหารมาปราบปรามความไม่สงบ
“ประเทศกำลังร้องไห้ให้กับความเป็นผู้นำ ความเป็นผู้นำที่สามารถรวมเราให้เป็นหนึ่ง ความเป็นผู้นำที่สามารถพาพวกเราทุกคนไปพร้อมกันได้” อดีตวุฒิสมาชิกวัย 77 ปี จากเดลาแวร์กล่าว “ตอนนี้ เราต้องการเศรษฐกิจที่เหมาะกับทุกคน ตอนนี้ เราต้องการงานที่จะสร้างเกียรติและศักดิ์ศรี ตอนนี้ เราต้องการความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน และโอกาสที่เท่าเทียมกัน สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ตอนนี้ เราต้องการประธานาธิบดีที่ใส่ใจการเยียวยาพวกเรา”
ยังมีการเลือกตั้งหยั่งเสียงที่จะจัดขึ้นในอีก 8 รัฐ และดินแดน 3 แห่งในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่พรรคเดโมแครตจะจัดการประชุมระดับชาติในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในเดือนสิงหาคม ซึ่ง โจ ไบเดน จะเข้ารับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งวุฒิสภาสหรัฐฯ มาเป็นเวลา 36 ปี ก่อนมาเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2009 เป็นเวลาสองสมัยในยุคของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา
ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่สาม เขาให้คำมั่นว่าจะเลือกผู้ร่วมหาเสียงเป็นผู้หญิง ซึ่งตัวเลือกที่มีแนวโน้ม ได้แก่ วุฒิสมาชิก คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) จากรัฐแคลิฟอร์เนีย , เอมี โคลบูชาร์ (Amy Klobuchar) จากรัฐมินนิโซตา และ เอลิซาเบธ วาร์เรน (Elizabeth Warren) จากแมสซาชูเซตส์ พวกเธอทุกคนเคยเป็นคู่แข่งของเขาจากสายเดโมแครตในระหว่างการเลือกตั้งครั้งนี้
โพลล์การสำรวจล่าสุดของเว็บไซต์เรียลเคลียร์โพลิทิกส์ (Real Clear Politics) เผยว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คะแนนความนิยมของ โจ ไบเดน แซงหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งในการสำรวจระดับชาติและเวทีระดับรัฐส่วนใหญ่ ทั้งนี้ วันเลือกตั้งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.
อ่านข่าว - ทรัมป์ สั่งถอนทหารประจำการส่วนหนึ่งออกจากเยอรมนีหลัง แมร์เคิล ยกเลิกร่วม จี7
ข่าวที่เกี่ยวข้อง