แอนติบอดีเป็นบวกไม่ควรถูกนำมาเป็นเกณฑ์ ไม่รับประกันรอดติดเชื้อ โควิด-19 ซ้ำ

27 พฤษภาคม 2563 แนวทางฉบับใหม่ว่าด้วยการทดสอบแอนติบอดีของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ผลตรวจแอนติบอดีไม่ควรถูกนำมาพิจารณาในการอนุมัติให้ผู้คนเดินทางกลับไปทำงาน

CDC กล่าวว่า การตรวจแอนติบอดีอาจมีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจระบาดวิทยาของไวรัสในประชากรทั่วไป และระบุกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ โดยสามารถตรวจสอบว่าบุคคลที่รับการทดสอบนั้นเคยติดเชื้อหรือไม่ แม้จะไม่แสดงอาการใดก็ตาม ต่างจากวิธีการตรวจไวรัสโดยตรง ซึ่งสามารถตรวจได้เฉพาะบุคคลที่มีการติดเชื้อรุนแรง

“แอนติบอดีในร่างกายมนุษย์บางคนสามารถตรวจพบภายในสัปดาห์แรกที่เริ่มมีอาการป่วย” CDC เปิดเผย

CDC เสริมว่า การมีอยู่ของแอนติบอดีอาจช่วยลดการติดเชื้อในมนุษย์ และป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังคงขาดข้อมูลที่ชัดเจน และไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าผู้ที่มีแอนติบอดีจะได้รับการคุ้มกันจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ซ้ำ ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19

CDC ระบุเพิ่มเติมว่า “ผลทดสอบแอนติบอดีไม่ควรถูกนำมาใช้ในการจัดกลุ่มการพำนักร่วมกัน หรือการรวมตัวของผู้คนในสถานที่ต่างๆ อาทิ โรงเรียน หอพัก หรือเรือนจำ รวมถึงการอนุมัติให้ผู้คนกลับไปทำงานด้วย”

นอกจากนี้ CDC อธิบายว่า เราไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าบุคคลที่ได้รับการยืนยันว่ามีผลทดสอบแอนติบอดีเป็นบวกจะมีภูมิคุ้มกัน และไม่อาจติดเชื้อได้ในอนาคต

อ่านข่าว - "ลาว" ผ่อนข้อจำกัด โควิด-19 ไฟเขียวประชาชนเข้า - ออกประเทศได้แล้วขณะนี้

(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่การแพทย์เก็บตัวอย่างเลือด ณ ศูนย์ทดสอบแอนติบอดีโรคโควิด-19 ของรัฐนิวยอร์ก ที่ตั้งอยู่ในย่านบรู๊กลิน นิวยอร์ก สหรัฐฯ วันที่ 25 เม.ย. 2020)

CR : xinhuathai.com