สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อ 23 ม.ค. สำนักข่าว CNA สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเชื้อโรคใหม่ชนิดนี้
ดร. หว่อง เฉิน ซ่ง ที่ปรึกษาศูนย์โรคติดต่อแห่งชาติของสิงคโปร์ (เอ็นซีไอดี ) บอกแชนแนล นิวส์ เอเชีย ว่า สัปดาห์แรก คือช่วงเวลาที่ไวรัสในระบบทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อ อยู่ในระดับสูงสุด ซึ่งหมายความว่า ผู้ป่วยจะมีสารคัดหลั่งจากจมูก และปาก เวลาไอ พูดหรือจาม จากนั้น ระดับไวรัสจะลดลงในสัปดาห์ที่สอง จึงหมายความว่า ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อมากที่สุดในสัปดาห์แรก นี่จึงเป็นที่มาของคำแนะนำของทางการที่ว่า หากมีอาการ ให้รีบไปตรวจ
ข้อมูลจีนเผยผู้ติดเชื้อถึง 1 ใน 3 อาจเป็น "พาหะเงียบ"
“หากได้รับคำสั่งให้อยู่บ้าน หรือขอให้อยู่บ้านตามใบสั่งแพทย์ ก็ขอให้อยู่บ้าน หลีกเลี่ยงการติดต่อผู้อื่นโดยไม่จำเป็น”
ส่วนอาการไม่รู้รสอาหาร ที่ผู้เชี่ยวชาญอังกฤษเพิ่มเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกอาการของโรคโควิด-19 ดร.หว่อง กล่าวว่า พบคนไข้จำนวนหนึ่งในสิงคโปร์ที่มีอาการเช่นนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลในภาพรวมชัดเจน
สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อใหม่ 49 รายวานนี้ ( 24 มี.ค.) ยอดสะสม 558
ผู้ติดเชื้อใหม่ส่วนใหญ่ 32 ราย เป็นเชื้อนำเข้า จากนักเดินทาง แยกเป็นชาวสิงคโปร์หรือผู้พำนัก 25 ราย อีก 5 รายเป็นผู้ถือวีซ่าระยะยาว ล่าสุด รัฐบาลประกาศว่า ผู้พำนักสิงคโปร์หรือถือวีซ่าระยะยาว ที่ยังยืนกรานไปต่างประเทศแม้รัฐบาลเตือน จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเต็มจำนวน หากป่วยโรคโควิด-19 เข้ารพ. หลังจากพบว่า ยังมีคนเดินทางออกนอกวันละประมาณ 1,000 คน เสี่ยงกลับมาแพร่เชื้อ
ส่วนผู้ที่ถือวีซ่าทำงาน หรือผู้ติดตามที่ออกจากสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. อาจจะได้รับการพิจารณาให้เข้าประเทศเป็นลำดับหลัง อาจเข้าประเทศได้ช้ากว่าเดิมเวลากลับสิงคโปร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง