ข่าว

สิงคโปร์สั่งกักตัว 14 วันหากเดินทางจากไทย-อาเซียนกับ3 ประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจอเคสนำเข้าไม่หยุด สิงคโปร์เพิ่มความเข้ม ใครเดินทางจากอาเซียน  ญี่ปุ่น อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์  ต้องกักตัว 14 วัน 

 

                           กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แจ้งว่า นับตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันนี้ ( 16 มี.ค.) คนที่เดินทางเข้าสิงคโปร์โดยมีประวัติเพิ่งไปประเทศอาเซียน ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ในระยะ 14 วัน จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งอยู่บ้าน หรือที่พัก  (  Stay-Home Notice ) 14 วัน 

 

สิงคโปร์ห่วงอังกฤษไม่พยายามคุมโรค หวั่นติดเชื้อพุ่ง

 

                           มาตรการนี้ครอบคลุมผู้เข้าประเทศทุกราย รวมถึงผู้พำนักในสิงคโปร์ ผู้ถือวีซ่าระยะสั้นและระยะยาว แต่ไม่รวมถึงชาวสิงคโปร์กับมาเลเซียที่เดินทางเข้าออกช่องทางเรือและทางบก ในส่วนนี้จะเป็นข้อตกลงแยกต่างหากที่อยู่ระหว่างหารือกับมาเลเซีย  

                           ช่วง 3 วันที่ผ่านมา สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 รายใหม่ 25 ราย กว่า 2 ใน 3 เป็นเคสนำเข้า และ 90% ในเคสนำเข้า เป็นชาวสิงคโปร์และผู้ถือวีซ่าระยะยาวที่กลับจากต่างประเทศ 

                           ผู้ที่เดินทางจะต้องมีหลักฐานยืนยันด้วยว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งกักตัว 14 ที่ไหน เช่น ห้องพักโรงแรมที่จองไว้เป็นเวลา 14 วัน หรือสถานที่พำนักของตัวเองหรือของครอบครัว และจะต้องอยู่ในที่พักของตนตลอดเวลา 14 วันหลังจากเข้าสิงคโปร์ อีกทั้งอาจจะถูกสวอบ หรือเก็บตัวอย่าง ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ต่อให้ไม่มีอาการก็ตาม 

 

 

 

                           ส่วนผู้ที่ถือวีซ่าระยะสั้นที่เป็นชาวอาเซียน จะต้องกรอกข้อมูลสุขภาพที่สำนักงานสิงคโปร์ในต่างประเทศ ( Singapore Overseas Mission ) ในประเทศที่มา ก่อนออกเดินทาง และเอกสารข้อมูลนี้จะต้องผ่านการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนจึงจะเดินทางได้ และผู้เดินทางจะต้องแสดงเอกสารการอนุมัติที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง  จึงขอแนะนำให้ได้เอกสารครบทั้งหมดก่อน ไม่เช่นนั้นอาจถูกปฏิเสธเข้าเมือง 

 

                           นายลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาแห่งชาติของสิงคโปร์ กล่าวว่า การเพิ่มความเข้มงวด นอกจากเพื่อลดการเติมเชื้อนำเข้า ยังเพื่อรับมือการเดินทางโดยมีวัตถุประสงค์ใช้บริการทางการแพทย์ เพราะในช่วงเวลานี้ ระบบสาธารณสุขประเทศตึงตัวแล้ว และต้องให้ความสำคัญอันดับแรกกับการช่วยเหลือชาวสิงคโปร์ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ