ผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศล็อคดาวน์กรุงมะนิลา จำกัดการเดินทางเข้าออก ปิดรร.
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แถลงทางสถานีโทรทัศน์วานนี้ ( 12 มี.ค.) ประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์เมืองหลวง หลังทางการสาธารณสุขยกระดับเฝ้าระวังโควิด-19 เป็นระดับสูงสุด โดยตามแผนการนี้ ประชากรกว่า 12 ล้านคนที่อาศัยใน เมโทร มะนิลา (เขตปริมณฑลรวมเมืองหลวง) จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า-ออก ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางเรือ “เป็นการชั่วคราว” ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 15 มีนาคม ถึง 14 เมษายน
หลังการแถลง นายซัลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกประธานาธิบดี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่ได้ถึงกับเป็นการล็อคดาวน์แบบสิ้นเชิง รถไฟยังให้บริการตามปกติ แต่กระทรวงคมนาคมจะออกคู่มือเพื่อให้แน่ใจว่าคนบนรถไฟจะต้องอยู่ห่างกันมากพอเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งแนวทางเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อแนะนำที่คณะทำงานเฉพาะกิจรับมือโรคติดต่อของฟิลิปปินส์เสนอ และประธานาธิบดีดูเตร์เตอนุมัติ และอาจออกเป็นคำสั่งประธานาธิบดี มีผลบังคับใช้ 30 วัน แต่จะประเมินทุก 7 วัน
ส่วนโรงเรียนทั่วกรุงมะนิลา ให้ปิดการเรียนการสอนถึง 12 เมษายน ประธานาธิบดีดูเตร์เต จะสั่งการให้ตำรวจและทหาร สอดส่องให้แน่ใจว่านักเรียนจะต้องอยู่บ้าน
นอกพื้นที่เมโทร มะนิลา ประธานาธิบดีดูเตร์เต เห็นพ้องให้ทางการท้องถิ่นดำเนินมาตรการกักกันตามดุลพินิจ แต่คำแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจสำหรับชุมชน คือหากมีการยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 2 คนจากสองครัวเรือน ให้กักกันทันที ส่วนเทศบาลและเมือง ให้กักกันเมื่อพบว่ามีอย่างน้อย 2 คนจากสองชุมชนติดเชื้อ ขณะที่จังหวัดให้กักกันเมื่อมีอย่างน้อย 2 คนจาก 2 เทศบาลหรือเมืองติดเชื้อ
ส่วนงานในฝ่ายบริหาร จะระงับไว้จนถึง 12 เมษายนเช่นกัน ยกเว้นส่วนงานหลักที่จะต้องให้บริการประชาชน ฝ่ายตุลาการและนิติบัญญัติ ก็ขอให้ยึดหลักเดียวกัน
งานในภาคเอกชน รัฐบาลแนะนำให้บริการจัดแบบยืดหยุ่น
อีกมาตรการคือ ห้ามการชุมนุมประท้วงหรือการชุมนุมคนหมู่มาก ซึ่งนิยามว่าเป็นการจัดงานทั้งแบบวางแผนล่วงหน้าหรือเฉพาะกิจที่การเข้าร่วมของคนจำนวนมาก อาจกระทบการวางแผนและทรัพยากรของชุมชน
ประธานาธิบดีดูเตร์เต กล่าวว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งห้ามหรือทำร้ายเจ้าพนักงานบังคับใช้กฎหมาย จะถูกแจ้งข้อหาอาญา ขณะย้ำว่า มาตรการใหม่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เหมือนกฎอัยการศึก ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของเขา หรืออำนาจตำรวจกับทหาร การเชื่อฟังคำแนะนำเพื่อประโยชน์ของทุกคนเอง เพราะนี่คือวิกฤติที่กำลังลุกลามในประเทศเวลานี้
ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อ 52 ราย เสียชีวิต 5 ราย แม้ยังไม่มากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แต่ทางการฟิลิปปินส์ห่วงว่าการสกัดกั้นตั้งแต่ก่อนเชื้อเข้าไปในชุมชนที่มีประชากรหนาแน่ของมะนิลา น่าจะช่วยให้ควบคุมได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง