ผู้นำสิงคโปร์เผยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่กระทบเศรษฐกิจมากกว่าโรคซาร์สเมื่อ 17 ปีก่อน
นายกรัฐมนตรีลี เซียง หลง แห่งสิงคโปร์ กล่าวระหว่างเยี่ยมขวัญคนทำงานที่สนามบินชางงี ด่านหน้าสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในวันนี้ ( 14 ก.พ.) ว่า ผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์ สูงกว่าโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง ( โรคซาร์ส ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สองสามไตรมาสข้างหน้าจะยิ่งสำคัญ เพราะสิงคโปร์จะต้องต่อสู้กับการระบาดหนักหน่วงมาก
“เวลานี้ก็ร้ายแรงมากกว่าโรคซาร์สแล้ว และเศรษฐกิจในภูมิภาคก็เชื่อมโยงระหว่างกันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะจีน เป็นปัจจัยสำคัญต่อภูมิภาคมากกว่าในคราวนั้น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าเราจะเข้าภาวะถดถอหรือไม่ แต่มันเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของเราจะกระทบ”
ครั้งโรคซาร์สระบาด เมื่อมีนาคม 2546 สิงคโปร์ใช้เวลา 5 เดือนหรือถึงเดือนกรกฎาคมในปีเดียวกัน จึงกำจัดโรคได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีลี กล่าวว่า เขาคิดว่าเร็วมาก แต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนั้น
สิงคโปร์กำลังพยายามอย่างหนักที่จะสกัดกั้นโรคไวรัสโคโรน่า 19 หรือ โควิด-19 ยอดผู้ติดเชื้อเวลานี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แตะ 58 คนแล้ว ผ่านการแพร่เชื้อกระจุกตัว 5 กลุ่ม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นภาคหนึ่งที่กระทบหนักสุด รัฐบาลเตรียมรับสภาพนักท่องเที่ยวร่วง 25-30% ในปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง