ข่าว

จับสัญญาณปักกิ่ง หลังเลือกตั้งท้องถิ่นฮ่องกง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับสัญญาณปักกิ่ง หลังเลือกตั้งท้องถิ่นฮ่องกง ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยชนะท่วมท้น เขย่าเก้าอี้ "แคร์รี หล่ำ"กับการเปลี่ยนผู้นำฮ่องกงใหม่ในอีก3 ปี หรือเร็วกว่านั้น

 

 

               การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.2562 ที่เป็นมาตรวัดถึงการสนับสนุนรัฐบาลภายใต้การนำของ “แคร์รี หล่ำ” ผู้สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่ง ปรากฏผลออกมาแล้วว่าผู้สมัครค่ายประชาธิปไตยคว้าชัยชนะไปอย่างถล่มทลาย เป็นการส่งสารชัดเจนว่าประชาชนสนับสนุนข้อเรียกร้องของขบวนการประท้วงที่ยืดเยื้อมานานหลาย 6 เดือน สิ่งที่่น่าจับตามองต่อไปคือ “ปักกิ่ง” จะเดินเกมอย่างไรหลังจากนี้

               อ่านข่าว :  ม็อบฮ่องกงระวัง...ใกล้จุดเดือด


               ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 การเลือกตั้งสภาท้องถิ่น 452 ที่นั่งใน 18 เขต ผู้สมัครฝ่ายประชาธิปไตยได้ 388 ที่นั่งเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ 263 ที่นั่ง ขณะที่นักการเมืองหน้าเก่าได้เพียง 59 ที่นั่ง ผู้สมัครอิสระได้ 5 ที่นั่ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4.13 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 7.4 ล้านคน ออกไปใช้สิทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 71% พรรคการเมืองสนับสนุนปักกิ่งเจ็บหนัก แพ้เลือกตั้ง 155 คน จาก 182 คน

 

               สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าววานนี้ หลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ที่กรุงโตเกียวว่า ขอให้รอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะดีกว่า

 

               “แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ฮ่องกงก็เป็นส่วนหนึ่งของจีน เป็นเขตบริหารพิเศษแห่งหนึ่งของจีน ความพยายามป่วนหรือทำลายความมั่งคั่งและเสถียรภาพของฮ่องกง จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ”

 

               เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นรายหนึ่งเผยว่า โทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวกับหวังอี้ว่า เขากังวลมากเรื่องสถานการณ์ในฮ่องกง การเปิดกว้างและเสรีจะทำให้ฮ่องกงมั่งคั่งรุ่งเรืองต่อไปภายใต้ตัวแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ


           

 

 

          ส่วนที่ปักกิ่ง เกิ้ง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศแถลงข่าวตามปกติ ระะบุ “รัฐบาลจีนสนับสนุนแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอย่างเต็มที่ รวมทั้งสนับสนุนตำรวจและกระบวนการยุติธรรมฮ่องกง ที่ลงโทษพฤติกรรมรุนแรงผิดกฎหมาย การแก้ปัญหาของรัฐบาลจีนก็เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ป้องกันไม่ให้ความมั่นคงและผลประโยชน์จากการพัฒนาดำเนิน รวมถึงตัวแบบหนึ่งประเทศ สองระบบต้องสะดุดลง”

 

               ก่อนหน้านั้น รัฐบาลฮ่องกงออกแถลงการณ์ของ แคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษว่า รัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และตอบสนองอย่างจริงจัง

 

               ทั้งนี้ ตลอดเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ขบวนการประชาธิปไตยฮ่องยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อจากรัฐบาล หนึ่งในนั้นคือขอให้จัดเลือกตั้งผู้บริหารโดยตรง และเปิดสอบสวนที่ตำรวจทำร้ายประชาชน

 

 

จับสัญญาณปักกิ่ง  หลังเลือกตั้งท้องถิ่นฮ่องกง

                                                นางแคร์รี หล่ำ 

             แต่ แคร์รี หล่ำ  ปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านั้นอ้างว่าได้ใคร่ครวญอย่างรอบคอบแล้ว พร้อมทั้งอ้างเสมอมาว่า ผลการเลือกตั้งจะชี้ให้เห็นว่าชาวฮ่องกงส่วนใหญ่สนับสนุนรัฐบาลของเธอและยุติการประท้วงเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะทั้งหมด 18 เขต ที่แต่เดิมเคยเป็นพื้นที่ของผู้สมัครฝ่ายสนับสนุนจีน หล่ำจึงแถลงว่า รัฐบาลเคารพผลการเลือกตั้ง และยอมรับความจริงที่ว่าประชาชนไม่พอใจกับสภาพสังคมในปัจจุบัน และปัญหาที่ฝังรากลึกอื่นๆ แต่หล่ำไม่ได้กล่าวชัดเจนว่าเป็นปัญหาใด และไม่ได้เผยรายละเอียดว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ได้ท่ีเรียกร้องให้เธอทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงทันที

 

              “ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้วิธีการอย่างสันติที่สุดแล้ว เพื่อบอกให้รัฐบาลทราบว่าเราไม่ยอมให้ฮ่องกงกลายเป็นรัฐตำรวจและรัฐบาลอำนาจนิยม รัฐบาลต้องกล้ารับฟังความเห็นของประชาชน” พรรคแรงงาน ซึี่งอยู่ในฝ่ายหนุนประชาธิปไตยกล่าวและว่า ผลการเลือกตั้งคือหยาดเหงื่อ เลือด และน้ำตาของผู้ประท้วง

 

              ส่วนชาวเน็ตที่เข้าไปคุยกันในเว็บยอดนิยมใช้สำหรับนัดการไปประท้วง เชิญชวนประชาชนออกมาเดินขบวนในวันอาทิตย์ 1 ธ.ค. เพื่อกดดันรัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง

 

              กว่าจะมีวันนี้ ชาวฮ่องกงหลายล้านคนต้องลงถนนต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีน ที่ระบบตุลาการไม่โปร่งใส แม้สุดท้ายรัฐบาลฮ่องกงจะเพิกถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป ก็ไม่อาจหยุดยั้งอารมณ์ของมวลชนได้ กลายเป็นข้อเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตยที่กว้างขวางยิ่งขึ้น จุดชนวนการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง

 

              จริงๆ แล้วสภาท้องถิ่นไม่ได้มีอำนาจมากนัก ดูแลแค่ปัญหาระดับชุมชน เช่น การเก็บและรีไซเคิลขยะ จัดเส้นทางรถเมล์ แต่การประท้วงทำให้การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นครั้งนี้มีความหมายกว่าในอดีต

 

              “ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการปฏิวัติ สะท้อนถึงการไม่เอารัฐบาลฮ่องกงและนโยบายที่ปักกิ่งมีต่อฮ่องกง” วิลลี หล่ำ นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวและว่า ผลการเลือกตั้งอาจเร่งให้ปักกิ่งปลดแคร์รี หล่ำออกจากหัวหน้าคณะบริหาร แต่ก็อาจทำให้วิกฤติขยายวงออกไปได้ด้วย

 

              “ผู้ประท้วงจะมองว่าชัยชนะถล่มทลายแบบนี้คืออาณัติจากประชาชน พวกเขาอาจต่อสู้หนักขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันปักกิ่งก็ไม่มีวันยอม ความไม่พอใจจะยิ่งพอกพูน” นักวิเคราะห์กล่าวกับเอเอฟพี

           

 

 

             ส่วนไต้หวันที่จีนอ้างว่าเป็นมณฑลหนึ่งของตน สำนักประธานาธิบดีแถลงแสดงความชื่นชมและสนับสนุนผลการเลือกตั้ง ระบุ การเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงเจตนารมณ์อันสมบูรณ์ของชาวฮ่องกง ว่าต้องการเสรีภาพและประชาธิปไตย

 

 

จับสัญญาณปักกิ่ง  หลังเลือกตั้งท้องถิ่นฮ่องกง

              นักวิเคราะห์หลายรายเผยกับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า ผลการเลือกตั้งถือเป็นสัญญาณเตือนต่อรัฐบาลปักกิ่งและฮ่องกงไปพร้อมๆ กัน

 

              แอนโธนี เจิ้ง ปิง เหลียง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเคหะ เผยว่า ปักกิ่งควรหาแนวทางใหม่ยุติความวุ่นวายในฮ่องกง หลังจากนักการเมืองค่ายหนุนปักกิ่งแพ้ยับ ทางเลือกหนึ่งที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังคือสอบสวนหาความเสียหายทั้งหมดจากเหตุไม่สงบ

 

              เรย์ ยิป คิน แมน อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จากซิตี้ยูนิเวอร์ซิตี้ กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งต้องตัดสินใจว่า จะปลดแคร์รี หล่ำหรือไม่

 

              หลี เสี่ยวปิง ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายปักกิ่งต่อฮ่องกง จากมหาวิทยาลัยหนานไค่ เมืองเทียนจิน เห็นด้วยว่ารัฐบาลกลางจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ในฮ่องกงเสียใหม่ คำนึงถึงการปฏิบัติได้จริงมากขึ้น ปักกิ่งต้องพยายามมากกว่าเดิมเอาชนะใจชาวฮ่องกง แต่การตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวนไม่ได้น่าจะปลดชนวนวิกฤติฮ่องกงได้

 

              อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยได้คะแนนเสียงท่วมท้น ส่อเค้าว่าพวกเขาจะมีพลังมากขึ้นในการเลือกตั้งหัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงครั้งต่อไปใน 3 ปีข้างหน้า

 

              กล่าวคือคะแนนเสียงที่ได้จากสภาท้องถิ่น ทำให้ ค่ายประชาธิปไตยได้ 117 ที่นั่งจาก 1,200 ที่นั่งในคณะกรรมการเลือกผู้บริหารฮ่องกง ถือว่าเป็นตัวเลขไม่น้อยเลยเมื่อไปรวมกับ 325 เสียงที่ได้อยู่แล้ว ฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยจึงอาจเป็นตัวตัดสินการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกงครั้งหน้าก็ได้

            ขอบคุณที่มา เวบไซด์กรุงเทพธุรกิจ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ