แสวงหาประโยชน์กับความโอบอ้อมของผู้คน สตรีมะกันเป็นตุเป็นตะป่วยมะเร็งหายาก คนสงสารลงขันบริจาคหลายแสน
เจสซิกา คอร์เนล สมิธ สตรีวัย 32 ปี จากเชสเตอร์ เคาน์ตี รัฐเพนซิลวาเนีย อ้างว่าป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดหายาก และ เปิดเพจระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยค่ารักษาพยาบาล ผ่านเฟซบุ๊กและเวบไซต์ GoFundMe
โดยเธอร่ายยาวบนเพจทั้งสองว่า เธอต้องดิ้นรนหาค่ารักษาตัว ค่าเดินทาง จ่ายค่าเลี้ยงดูลูก และขาดงาน ผู้คนที่อ่านแล้วเกิดความเห็นใจ จึงเริ่มบริจาคเงินให้ แต่แล้ว เรื่องแดงขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน เพื่อนของสมิธ เข้าแจ้งความเป็นคนแรกกล่าวหาว่าเธอคนนี้แสร้งป่วยมะเร็ง ตำรวจจึงเปิดการสอบสวน
อีกหนึ่งเดือนต่อมา สามีของสมิธเองเข้าแจ้งตำรวจอีกคนว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นมะเร็ง และมีประกันสุขภาพของนายจ้าง ค่ารักษาพยาบาลที่เธอต้องออกเองตามประกันจำนวนไม่ถึง 1,250 ดอลลาร์ ไม่ใช่หลักหมื่นอย่างที่เธอกล่าวอ้างเพื่อขอความเห็นใจ
สามียังแฉหมดเปลือกว่า เคยได้ยินภรรยาของตัวเอง ดัดเสียงอ้างเป็นพยาบาล โทรศัพท์บอกนายจ้างว่า ต้องลาหยุดระหว่างพักฟื้นจากการบำบัดมะเร็ง และไม่ใช่ครั้งเดียวที่สมิธกุเรื่องเพื่อขอลา เมื่อไม่นานมานี้ เธอถึงกับอ้างว่าพ่อเสีย แต่นายจ้างมาทราบภายหลังว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันด้วยซ้ำ
สมิธ ถูกจับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาและถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ด้วยการปลอมแปลง ต้มตุ๋น และรับทรัพย์สินที่ได้จากการขโมย หลังจากทางการพบว่าเงินบริจาคที่ได้มา ถูกโอนเขาบัญชีธนาคาร
ไมเคิล นูน ผู้ช่วยอัยการ เชสเตอร์ เคาน์ตี กล่าวกับซีบีเอสว่า สมิธแสวงหาประโยชน์กับความใจดีของคน ด้วยการโกหกว่าเป็นมะเร็ง ทั้งยังโกหกว่าพ่อของตัวเองเสียชีวิตเพื่อให้ได้วันลางานเพิ่ม
โฆษกเวบไซต์ระดมทุน GoFundMe ออกแถลงการณ์ผ่านเวบไซต์ พีเพิล ย้ำว่า การใช้เวบไซต์ในทางที่ผิดแบบนี้เกิดขึ้นน้อยมาก พร้อมยืนยันว่า เงินบริจาคทุกดอลลาร์ที่นำไปใช้ผิดทาง จะคืนให้กับผู้บริจาคเต็มจำนวน
สมิธจะต้องไปขึ้นศาลเพื่อไต่สวนเบื้องต้นก่อนเปิดการพิจารณาคดีในสัปดาห์หน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง