เที่ยวเปลี่ยนชีวิตสตรีพบตัวเองเป็นมะเร็งผ่านกล้องจับความร้อน

บัล กิลล์  สตรีชาวอังกฤษจากเมืองเบอร์เชอร์ เดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวที่ พิพิธภัณฑ์กล้องถ่ายรูปและภาพลวงตา Camera Obscura and World of Illusions ที่เมืองเอดินเบอะระ แคว้นสก็อตแลนด์ เมื่อเดือนพฤษาคม
 

 

 

เมื่อเข้าไปในห้องถ่ายภาพความร้อน ( thermal camera ) หนึ่งในจุดยอดฮิตของผู้ไปเยือนที่นั่น เธอกับครอบครัวก็เล่นโบกไม้โบกมือและมองไปที่ภาพถ่ายความร้อนในร่างกาย กิลล์สังเกตเห็นแผ่นความร้อนอยู่เหรือทรวงอกด้านซ้าย เธอคิดว่าแปลกเพราะคนอื่นไม่มีเหมือนเธอ จึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บไว้

 

เมื่อกลับบ้านมาดูภาพถ่ายจากทริปท่องเที่ยว เห็นภาพถ่ายความร้อนอีกครั้ง จึงค้นหาข้อมูลเบื้องต้นทางกูเกิล พบบทความเกี่ยวกับมะเร็งเต้ามนมกับภาพถ่ายความร้อน จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ จึงรู้ว่า เธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะแรก  

 

 

กิลล์ เขียนจดหมายไปที่พิพิธภัณฑ์ Camera Obscura ซึ่งเผยแพร่บนเวบไซต์ว่า เธอเข้ารับการผ่าตัดสองครั้ง และกำลังจะผ่าตัดครั้งที่สามในอนาคตอันใกล้เพื่อป้องกันมะเร็งลุกลาม เธออยากกล่าวขอบคุณ เพราะหากไม่ได้กล้องนั้น เธอก็คงไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร  “มันคือการท่องเที่ยวเปลี่ยนชีวิตอย่างแท้จริง” 

 

 

 

 

ด้าน แอนดรูว์ จอห์สัน  ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ Camera Obscura and World of Illusions กล่าวว่า น่าทึ่งที่กิลล์สังเกตความแตกต่างในภาพได้อย่างรวดเร็ว และหาข้อมูลทันที พร้อมอวยพรให้เธอหายดี หวังจะได้พบกับเธอและครอบครัวอีกครั้งหนึ่งในอนาคต 

 

สำนักข่าว NBC ในสหรัฐ อ้างความเห็น ดร.ราเชล เบรม ศาสตราจารย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ว่า กิลล์โชคดีที่เจอความผิดปกติในภาพจับความร้อน แต่ผู้หญิงไม่ควรใช้ภาพถ่ายความร้อน แทนแมมโมแกรม ( การตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยรังสีพิเศษ)

 

 “เรามีเทคโนโลยีที่ผ่านการทดลองและได้ผลจริงในการช่วยชีวิตผู้หญิงจากมะเร็งเต้านม แต่เทอร์โมกราฟฟี( การตรวจวัดอุณหภูมิด้วยรังสีอินฟาเรด ) ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ว่านั้น แมมโมกราฟีคือรูปแบบการถ่ายภาพเดียวที่ลดอัตราการตายจากมะเรงทรวงอกได้”  ทั้งนี้ แมมโมกราฟี ใช้รังสีเอ็กซ์พลังงานต่ำ เพื่อตรวจหามะเร็งทรวงอก ส่วนกล้องถ่ายภาพความร้อน ใช้แค่ความร้อนกับแสง จึงยากที่จะให้ผลเชื่อถือได้