หลังตุรกีบุกพื้นที่ยึดครองชาวเคิร์ด ชายแดนทางเหนือซีเรีย
เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ อ้างแหล่งข่าวฝ่ายต่อต้านก่อการร้ายอินโดนีเซียว่า นักรับไอเอสชาวอินโดนีเซียและครอบครัว ราว 50 คน ที่เคยถูกควบคุมตัวในเรือนจำทางตอนเหนือของซีเรีย น่าจะหลบหนีออกมาได้ หลังจากตุรกีรุกโจมตีขับไล่กองกำลังชาวเคิร์ดใกล้ชายแดน ทันทีที่สหรัฐถอนทหารออกจากซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เรือนจำหลายแห่งในซีเรีย คุมขังนักรบและสาวกไอเอสไว้ราว 1.2 หมื่นคน ในจำนวนนี้ ราว 2,000 คนมาจากนานาประเทศ รวมถึงอินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่เหลือส่วนใหญ่มาจากซีเรียเองและอิรัก
อินโดนีเซีย ประเมินว่า มีนักรบสุดโต่งราว 34 คน และสมาชิกครอบครัวไอเอสอยู่ในซีเรียราว 700 คน ขณะแหล่งข่าวหน่วยต่อต้านก่อการร้ายอินโดนีเซียเปิดเผยว่า จากข่าวกรองของเรา นักรบชาวอินโดนีเซียและครอบครัวราว 50 คนหลบหนีออกมาได้ ขณะนี้ จึงได้เพิ่มการตรวจตราสนามบิน ท่าเรือและช่องทางธรรมชาติ
นักรบไอเอสที่ถูกจำคุกในซีเรีย 1.2 หมื่นคน ตลอดจนค่ายรองรับครอบครัวไอเอสอีกกว่า 7 หมื่นคน อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของทหารเคิร์ดแค่ 400 คน เมื่อตุรกีโหมโจมตีในซีเรีย ผู้คุมชาวเคิร์ดไม่อาจทำหน้าที่นี้ได้อีกต่อไป ทางการเคิร์ดแจ้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า ญาตินักรบต่างชาติหลบหนีจากค่ายพักพิงใกล้จุดที่กองกำลังชาวเคิร์ดตั้งรับกองทัพตุรกีออกมาแล้วราว 800 คน
อาห์เหม็ด ยาห์ลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัย เดซาเลส ในสหรัฐ กล่าวว่า หากนักโทษไอเอส 1.2 หมื่นคน ก่อการแข็งข้อขึ้นมา ผู้คุมเคิร์ดก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วด้วยกำลังน้อยกว่า ที่ผ่านมา ก็มีความพยายามแหกคุกหลายครั้ง
ด้าน นอร์ ฮูดา อิสมาอิล ผู้เชี่ยวชาญต่อต้านก่อการร้าย ปัจจุบัน สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานหยาง กล่าวว่า นักรบไอเอสอินโดนีเซีย เป็นสายสู้รบ และภักดีต่อไอเอสอย่างเหนียวแน่น อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เคยมีคลิปแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเผาทิ้งหนังสือเดินทางในซีเรีย เพื่อประกาศการปักหลักในคอลิฟะ หรืออาณาจักรที่ไอเอสเคยสถาปนาสมัยยึดครองพื้นที่กว้างใหญ่ในซีเรีย
เมื่อไม่มีเอกสารการเดินทาง การกลับมาภูมิภาคนี้อาจจะยาก เป็นไปได้มากคือการกระจายแยกย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ชายแดนตุรกี อิรักและอิหร่าน แต่หากกลับมายังอินโดนีเซียได้ ก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะติดต่อกับ เจเอดี ( จามาห์ อันชารุต ดอเลาะห์ ) เครือข่ายฝักใฝ่ไอเอสใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย
“หากพวกเขากลับบ้านในเวลานี้ จะปลุกพลังเซลล์ไอเอส ที่ยังคงอยู่ แต่ปัจจุบันยังซุ่มเงียบ”
อาห์เหม็ด ยาห์ลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านอาชญาวิทยา กล่าวเสริมว่า หากไอเอสสามารถจัดหาหนังสือเดินทางปลอมให้นักรบต่างชาติได้ พวกเขาก็คงอยากจะส่งบรรดานักรบที่มีประสบการณ์กลับมา เพื่อให้มาทำหน้าที่เป็นผู้นำองค์กรในประเทศนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง