ซาอุดีอาระเบียเผยเศษครูซมิสไซล์และโดรน ใช้ถล่มโรงน้ำมัน อ้างเป็นอาวุธอิหร่าน แต่บอกพิกัดไม่ได้ยิงมาจากไหน
(คมชัดลึกออนไลน์ ) ผ่านไป 3 วันหลังจากโรงงานผลิต-แปรรูปน้ำมันสำคัญของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีจนกระทบกำลังการผลิตหดหายไปครึ่งหนึ่ง โดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนออกมาอ้างว่าเป็นคนลงมือโดยใช้โดรน 10 ลำถล่มแก้แค้น แต่สหรัฐและซาอุฯปักใจว่าเป็นอิหร่านที่อยู่เบื้องหลังโดยที่ยังไม่มีหลักฐาน
แต่ล่าสุด พ.อ.ตูร์คี อัล มาลิคี โฆษกกระทรวงกลาโหมซาอุฯ ได้เปิดแถลงข่าววานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมขนเศษชิ้นส่วนที่อ้างว่ามาจากโดรนจำนวน 18 ลำ กับครูซมิสไซล์ 7 ลูก ที่ทำให้โรงน้ำมันสองแห่งทางตะวันออกของประเทศเสียหาย
โฆษกฯ ยังไม่ถึงขั้นระบุว่า อิหร่านคือผู้ลงมือ แต่เน้นว่าอาวุธเหล่านี้ถูกยิงและปล่อยมาจากทางเหนือ เป็นการโจมตีที่มีอิหร่านเป็นสปอนเซอร์อย่างไม่ต้องสงสัย แม้พยายามอำพรางว่ายิงจากเยเมน แต่กลุ่มตัวแทนอย่างกบฏฮูตีไม่ได้มีศักยภาพขนาดนั้น
ส่วนพิกัดที่ใช้ปล่อยโดรนกับขีปนาวุธที่แน่ชัด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และมั่นใจว่าจะหาคำตอบได้ โดยซาอุฯจะเชิญผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาร่วมสอบสวนด้วย
ซาอุฯระบุว่า อาวุธของอิหร่าน ที่ใช้ในการโจมตีประกอบด้วย โดรน เดลตา วิง กับ ครูซ มิสไซล์ ยา อาลี
โดรน-มิสไซล์อิหร่าน เขย่าตะวันออกกลาง
อิหร่านอ้างสอยโดรนสอดแนมสหรัฐล้ำน่านฟ้า
เพนตากอนเผยคลิปโดรนแย้งพิกัดอิหร่าน-จับตาก้าวต่อไปสหรัฐ
กบฏเยเมนอ้างส่งโดรนโจมตีโรงน้ำมันสำคัญของซาอุฯไฟลุกท่วม
อีกด้าน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน อัล ซัลมาน ผู้นำซาอุดีอาระเบีย โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เพื่อแจ้งว่าซาอุฯต้องการการสอบสวนระดับนานาชาติเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ
หลังการแถลงข่าว ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเดินทางถึงเมืองเจดดาห์เพื่อหารือมาตรการตอบโต้กับผู้นำซาอุ ก็สำทับทันทีว่า “ซาอุดีอาระเบียคือประเทศที่ถูกโจมตี นี่คือการประกาศสงครามต่อซาอุดีอาระเบียโดยตรง”
“ฮูตีอ้างอยู่เบื้องหลังโจมตี ไม่ใช่ประเด็น นี่คือการโจมตีโดยอิหร่าน”
ด้าน เฮซาเมดดิน อาเชนา โฆษกประธานาธิบดีอิหร่าน ทวีตโต้ว่าการแถลงข่าว พิสูจน์ว่าซาอุดีอาระเบียไม่รู้เลยว่ามิสไซล์และโดรนผลิตหรือยิงจากไหน ทั้งยังอธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดระบบป้องกันของตนเองจึงสกัดได้ไม่ได้
ที่กรุงเตหะราน ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีแห่งอิหร่าน กล่าวกับคณะรัฐมนตรีว่าซาอุดีอาระเบียควรมองการโจมตีเมื่อสุดสัปดาห์ว่า เป็นคำเตือนว่าควรยุติสงครามในเยเมน ที่ซาอุฯเข้าไปต่อสู้กับกลุ่มกบฏมาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อช่วยฝ่ายรัฐบาล
ประธานาธิบดีโรฮานี กล่าวว่า กบฏเยเมนไม่ได้โจมตีโรงพยาบาล ไม่ได้ถล่มโรงเรียนหรือตลาดในกรุงซานา (อย่างที่ซาอุฯและพันธมิตรกระทำ) พวกเขาโจมตีแหล่งอุตสาหกรรมเพื่อเตือน พร้อมเรียกร้องให้ศัตรูศึกษาบทเรียนจากคำเตือนเพื่อพยายามดับไฟสงครามที่ก่อไว้ในภูมิภาค
"การก่อสงครามเป็นนโยบายของท่านเสมอมา นำความไร้เสถียรภาพมายังภูมิภาคนี้ ไม่ว่าเข้าไปที่ไหน อิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรียและอ่าวเปอร์เซีย ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา"
ขณะที่กลุ่มกบฏฮูตี ออกมาประกาศว่า พวกเขากำลังเร่งผลิตโดรน และมีวิธีการที่จะโจมตีเป้าหมายหลายสิบแห่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หนึ่งในพันธมิตรหลักของซาอุฯที่ร่วมแทรกแซงสงครามกลางเมืองเยเมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง