ข่าว

ผลผลิตน้ำมันซาอุฯหายไปครึ่งหลังโรงน้ำมันโดรนถล่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สงครามกลางเมืองเยเมนที่ยืดเยื้อมานานอาจมีผลต่อทั้งโลกก็คราวนี้ เมื่อหัวใจอุตสาหกรรมน้ำมันซาอุฯถูกโจมตีจนการผลิตต้องสะดุด

 


ความคืบหน้าหลังจากกบฏฮูตี ในเยเมน ออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงน้ำมันสองแห่ง ที่ถือเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมน้ำมันซาอุดีอาระเบีย เมื่อเช้ามืดวันเสาร์  ล่าสุด อารัมโก บริษทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย แถลงว่า การโจมตีส่งผลให้การผลิตน้ำมันของบริษัท ลดลงวันละ 5.7 ล้านบาเรล หรือราวครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตทั้งประเทศ หรือกว่า 5% ของปริมาณน้ำมันโลก 

 

ทั้งนี้ ในสงครามกลางเมืองในเยเมน ซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำในการสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล และนำทัพประเทศมุสลิมนิกายสุหนี่เข้าแทรกแซงในปี 2558 ส่วนอิหร่านเชื่อว่าสนับสนุนกลุ่มกบฏ ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐก็ขยายตัวมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล้มข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์และกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง


ที่ผ่านมา กบฏฮูตี โจมตีข้ามชายแดนพุ่งเป้าโรงน้ำมันซาอุ ท่อน้ำมัน และเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่าอุกอาจที่สุด และมีผลต่อกำลังการผลิตน้ำมันของยักษ์ใหญ่ตะวันออกกลางชั่วคราวเป็นอย่างน้อย 

 

ซาอุฯ เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ส่งน้ำมันกว่า 7 ล้านบาร์เรลไปยังปลายทางต่างๆทั่วโลกในแต่ละวัน และเป็นที่พึ่งสุดท้ายของตลาดน้ำมันโลกเป็นเวลาหลายปี 

 


อย่างไรก็ดี แม้กบฏฮูตี อ้างว่าเป็นกลุ่มลงมือโดยอ้างว่าใช้โดรน 10 ลำโจมตี แต่นายไมค์ ปอมเปโอ  รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โทษอิหร่านเป็นผู้กระทำ โดยปอมเปโอ ทวีตว่า ไม่มีหลักฐานว่าโดรนเหล่านี้มาจากเยเมน แต่เป็นอิหร่านที่โจมตีวงการพลังงานของโลกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน  

 


ด้านกระทรวงพลังงานสหรัฐ แถลงว่าพร้อมจะปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์หากจำเป็น  นอกจากนี้ ริค เพอร์รี รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐ กล่าวว่า จะหารือกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หน่วยงานประสานงานนโยบายน้ำมันของประเทศอุตสาหกรรม เผื่อจำเป็นต้องอาศัยมาตรการระดับโลก 

 

อามิน นัสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอารัมโก กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีน้ำมันคนใหม่ กล่าวว่า อารัมโกอาจจะใช้น้ำมันในคลังชดเชยส่วนที่หายไป และจะแถลงแผนรับมือภายใน 2 วันนี้ 

 

"การโจมตีครั้งนี้ไม่ได้พุ่งเป้าเฉพาะโรงน้ำมันซาอุฯ แต่ยังเล่นงานปริมาณและความมั่นคงของปริมาณน้ำมันโลก จึงถือเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกด้วย" 


เป้าหมายโจมตี คือโรงน้ำมันที่อับกออิก ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่ามีความสำคัญที่สุดของปริมาณน้ำมันโลก ความเสี่ยงที่เหตุการณ์จะลุกลามบานปลายจากการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จะดันราคาน้ำมันพุ่งทะยาน 


ภาพข่าวที่นำออกเผยแพร่ เผยให้เห็นไฟไหม้ที่ อับกออิก ( Abqaiq ) โรงงานแปรรูปน้ำมันใหญ่ที่สุดของอารัมโก ส่วนการโจมตีอีกจุดอยู่ที่แหล่งน้ำมันคูราอิส ที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่เป็นที่ 2 ของประเทศ โดยอารัมโกนั้น ไม่ใช่แต่เพียงผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดของโลกเท่านั้น ยังเป็นธุรกิจที่มีผลกำไรมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งด้วย 


อับกออิก  อยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ของอารัมโก ราว 60 กม. เป็นโรงงานแปรรูกน้ำมันดิบจากบ่อน้ำมันกาวาร์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันใหญ่สุดของโลก สำหรับส่งออกไปยังท่าลำเลียงน้ำมันนอกชายฝั่ง ราส ทานูรา ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกเช่นกับ กับท่า Juaymah ทั้งยังส่งน้ำมันไปทางตะวันตกพาดผ่านซาอุฯไปยังท่าส่งออกในทะเลแดง 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ