พิษมาตรการแซงชันรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ "หัวเว่ย"โละพนักงานบริษัทสายวิจัยในสหรัฐอเมริการาว 600 คน
แถลงการณ์ของหัวเว่ย บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของจีน วานนี้ ( 23 ก.ค.) ระบุว่าพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง 600 คน เป็นพนักงาน ฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยีส์ ( Futurewei ) บริษัทพัฒนาและวิจัยในเครือ มีผลวันที่ 22 ก.ค. โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการถูกจำกัดการทำธุรกิจภายใต้มาตรการของรัฐบาลสหรัฐ
“การตัดสินใจเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย กระนั้น ฟิวเจอร์เว่ยจะปฏิบัติงานต่อไปตามระเบียบและกฎหมายอันเข้มงวดของสหรัฐ”
600 คนที่ถูกเลิกจ้าง คิดเป็น 70% ของพนักงานทั้งหมด 850 คน
หัวเว่ยเตือนก่อนหน้านี้ว่า แรงกดดันจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ตำแหน่งงานในสหรัฐหายไป และวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พนักงานหัวเว่ยในสหรัฐจำนวนหนึ่งใกล้ตกงาน
การเลิกจ้างพนักงานหัวเว่ยมีขึ้นราวสองเดือน หลังจากรัฐบาลทรัมป์ ห้ามบริษัทสหรัฐใช้อุปกรณ์สื่อสารจากแหล่งที่ทางการถือว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ พุ่งเป้าไปที่จีนและหัวเว่ย เจ้าเทคโนโลยีเครือข่าย 5จี แม้ต่อมา สหรัฐบอกจะผ่อนปรนมาตรการแต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน
การแบล็คลิสต์ที่รวมถึงการห้ามหัวเว่ยซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ และห้ามถ่ายโอนเทคโนโลยีอ่อนไหว ทำให้พนักงานฟิวเจอร์เว่ย ไม่สามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในจีน
ฟิวเจอร์เว่ย เป็นหน่วยบริษัทที่ตั้งขึ้นมา เพื่อทำงานใกล้ชิดกับนักวิจัยและมหาวิทยาลัยสหรัฐ มีสำนักงานในดัลลัส ซิลลิคอน แวลเลย์ ซีแอเทิล และชิคาโก ข้อมูลจากสำนักงานเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตรสหรัฐ ระบุว่า ฟิวเจอร์เว่ยยื่นจดลิขสิทธิ์กว่า 2,100 รายการ ในด้านสื่อสารโทรคมนาคม เครือข่าย 5 จี เทคโนโลยีกล้องและวิดีโอ แต่นับจากรัฐบาลสหรัฐแบล็คลิสต์หัวเว่ย ส่งผลให้การทำงานที่ฟิวเจอร์เว่ยแทบหยุดนิ่ง
หัวเว่ยไม่ได้มีตลาดใหญ่โตนักในสหรฐอเมริกา แต่เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์เครือข่ายรายเดียวให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในชนบทสหรัฐ
มาตรการจำกัดของสหรัฐ ส่งผลกระทบรุนแรง เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กล่าวเมื่อมิถุนายนว่า รายได้ของบริษัทจะพลาดจากเป้าที่ตั้งไว้ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ใน 2-3 ปีข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง