ข่าว

นายกฯปากีสถานชื่นชมกองทัพหั่นงบทหารช่วยรัดเข็มขัด 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อิมรอน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เผยทางทวิตเตอร์ กองทัพเห็นพ้องลดงบทหาร ในแผนงบประมาณปีหน้า ตามมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล 

 


ผู้นำปากีสถาน ระบุว่า เขาขอชื่นชมและขอบคุณกองทัพ ที่ตกลงลดงบประมาณโดยสมัครใจ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทั้งที่เผชิญความท้าทายด้านความมั่นคงหลายด้าน ด้วยคำนึงถึงสถานการณ์การเงินขัดสนของประเทศ และเงินที่ประหยัดจากส่วนนี้ จะโยกไปใช้ช่วยพัฒนาพื้นที่ชนเผ่าและจังหวัดบาลูจิสถาน 


บาลูจิสถาน มีประชากรอาศัยเบาบาง แต่ร่ำรวยก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ทองแดงและทองคำ แต่กลับเป็นแคว้นยากจนที่สุดของปากีสถาน ฝ่ายชาติพันธ์นิยมบาลุช มักกล่าวหารัฐบาลกลางเอาเปรียบและปฏิเสธสิทธิชอบธรรมที่แคว้นบาลูจิสถานควรได้รับ

สำนักงานประชาสัมพันธ์ หน่วยงานสื่อของกองทัพ แจ้งว่า การหั่นงบประมาณเป็นเวลาหนึ่งปี จะไม่กระทบความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ศักยภาพในการตอบสนองภัยคุกคามทุกรูปแบบยังคงอยู่  แต่การพัฒนาจังหวัดบาลูจิสถาน และพื้นที่ชนเผ่า ก็เป็นเรื่องสำคัญที่กองทัพควรมีส่วนร่วม สามหน่วยงานของกองทัพ จะบริหารจัดการงบประมาณส่วนที่หายไปเป็นการภายใน โดยพิจารณาเงื่อนไขทางยุทธศาสตร์ 


ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลปากีสถานตัดสินใจที่จะไม่ตัดงบประมาณทหาร ในปีงบประมาณหน้า โดยฟาวัด เชาดรีย์ รัฐมนตรีกระทรวงสารนิเทศ กล่าวว่า งบทหารของประเทศต่ำอยู่แล้วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ดังนั้น จึงควรเพิ่มขึ้น 
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลอิสลามาบัดประกาศใหม่ว่า หน่วยงานของกองทัพและพลเรือนทุกแห่งจะร่วมสนับสนุนร่างงบประมาณประจำปี 2552-2563  ที่มุ่งรัดเข็มขัด 

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ ในกรุงสต็อกโฮล์ม ที่จับตาอุตสาหกรรมอาวุธและงบทหาร ระบุในรายงานเมื่อเดือนเมษายนว่า ปากีสถาน เป็นประเทศที่ใช้จ่ายงบทหารมากที่สุดเป็นอันดับ 20 ของโลก ในปี 2561 ด้วยวงเงิน 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็น 4% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ถือเป็นสัดส่วนสูงที่สุดนับจากปี 2547 


ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอินเดีย งบประมาณช่วงปี 2560-2561 เพิ่มขึ้น 3.1% อยู่ที่ 6.65 หมื่นล้านดอลลาร์ มากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และซาอุดีอาระเบีย  ปัจจัยขับเคลื่อนการเพิ่มงบทหาร ส่วนใหญ่มาจากความตึงเครียดกับปากีสถานและจีน กระนั้น แม้งบในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น แต่ก็คิดเป็นสัดส่วน 2.4% ของจีดีพี 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ