ผู้นำหญิงนิวซีแลนด์ลั่นจะไม่พูดชื่อมือปืนโจมตีมัสยิดอีก 

นายกรัฐมนตรีอาเดิร์น ซึ่งสวมชุดดำ กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาวาระพิเศษ ในกรุงเวลลิงตัน วันนี้ โดยเริ่มต้นด้วยประโยคทักทายของชาวมุสลิมที่มีความหมายว่า“ขอความสันติสุข, ความเมตตา และความจำเริญจากพระองค์อัลเลาะฮ์จงประสบแด่ท่าน

 

 

 

ก่อนกล่าวถึงมือปืนชาวออสเตรเลียวัย 28 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช บนเกาะใต้ ว่าเขาจะต้องรับโทษสถานหนักสุดตามกฎหมายในนิวซีแลนด์  และสัญญาว่าจะไม่ยอมให้ฆาตกรสังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ 50 คน ได้รับสิ่งที่เขากระหายอยากได้

 

“เขาแสวงหาหลายอย่างจากการก่อการร้าย อย่างหนึ่งคือ ชื่อเสียง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกท่านจะไม่ได้ยินดิฉันเอ่ยชื่อของเขา เขาเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นอาชญากร รุนแรงสุดโต่ง แต่เขาจะเป็นคนไร้ชื่อเมื่อดิฉันพูดถึง”  

นายกรัฐมนตรีวัย 38 ปี เรียกร้องให้เอ่ยนามของผู้สูญเสียแทนชื่อของคนที่พรากชีวิตของพวกเขา และถือโอกาสนี้ ย้ำอีกครั้งให้ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ พยายามมากกว่านี้เพื่อป้องกันการถ่ายทอดสดเหตุนองเลือดแบบที่มือปืนทำ และกลายเป็นคลิปความยาว 17 นาทีถูกแชร์ในหลายแพลตฟอร์ม 

 

 

ถ้อยแถลงของผู้นำหญิงวัย 38 ปี มีขึ้นขณะญาติเหยื่อทยอยเดินทางมาจากทั่วโลก แต่กระบวนการพิสูจน์เอกลักษณ์และเอกสารต่างๆเป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้ยังไม่มีการฝังศพเหยื่อแม้แต่รายเดียว  ซึ่งตามหลักศาสนา จะต้องฝังใน 24 ชั่วโมง 

หลังเกิดเหตุ รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอาเดิร์นเห็นพ้องผลักดันปรับแก้กฎหมายครอบครองอาวุธปืน ที่กลายเป็นช่องทางให้ฆาตกร ซื้อปืนอย่างถูกกฎหมายได้โดยง่าย รวมถึงปืนยาวอัตโนมัติ นำไปใช้ก่อเหตุสะเทือนขวัญ  

รัฐบาลจะเปิดเผยรายละเอียดการแก้ไขกฎหมายปืนในสัปดาห์หน้า แต่อาเดิร์นแย้มว่ามาตรการซื้อปืนคืนกับการสั่งห้ามปืนยาวกึ่งโนมัติ อาจอยู่ในแผนด้วย 

ชาวนิวซีแลนด์จำนวนหนึ่งขานรับคำวิงวอนของรัฐบาล ที่ขอให้ส่งมอบอาวุธ เช่น จอห์น ฮาร์ท เกษตรกรบนเกาะเหนือ ที่มอบอาวุธปืนกึ่งอัตโนมติให้ทางการ พร้อมทวิตว่า อาวุธเหล่านั้นเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบางสถานการณ์ แต่ก็เทียบไม่ได้กับความเสี่ยงถูกนำไปใช้ผิดทาง เราไม่ต้องการของเหล่านี้ในประเทศ แต่ทวิตของเขากลับถูกเพื่อนเฟซบุ๊กในสหรัฐ เข้าไปรุมถล่ม