ข่าว

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การถอนตัวจากคณะกรรมการล่าวาฬระหว่างประเทศของญี่ปุ่น จุดกระแสโกรธแค้นจากนักอนุรักษ์และผู้ที่ไม่เห็นด้วยการล่าสัตว์ใดก็ตามที่อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงอีกต่อไปในยุคนี้

 

แต่ญี่ปุ่นก็ยืนกรานว่า การล่าวาฬเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และจะกลับมาล่าเพื่อการค้าอีกครั้งในกลางปีนี้ 

มินะมิโบโสะ เมืองชายฝั่งแปซิฟิก ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางใต้ประมาณ 70 ก.ม. คือหลักฐานที่ญี่ปุ่นพูดถึงมรดกวัฒนธรรมซึ่งเหลือไม่มาก 

 

เมืองนี้เป็นที่ตั้งของ ไกโบะ โฮเก ( Gaibo Hogei ) บริษัทล่าวาฬที่ยังเหลืออีกไม่กี่แห่ง 

มาซากิ วัย 32 คนงานแปรรูปของ โกโบะ โฮเก ยอมรับว่าอุตสาหกรรมวาฬท้องถิ่นหดตัวลงมาก แต่ยังคงเป็นส่วนที่คาดไม่ได้ของเมืองโดยเฉพาะในฤดูล่าวาฬ

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

บริษัทเปิดให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้าชมการแล่ชำแหล่ะวาฬ ที่โรงฆ่า อันเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามรักษาอุตสาหกรรมล่าวาฬอายุ 400 ปี 

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

นักเรียนในท้องถิ่นที่แวะไปเยี่ยมชมในโรงงาน จะได้เห็นคนงานแล่เนื้อหนังวาฬกันแบบสดๆโดยมืออาชีพ ซึ่งไม่ใช่ภาพหาดูกันได้ง่ายๆ 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

 

โยชิฏนริ โชจิ ประธาน ไกโบะ โฮเก วัย 57 ปี กล่าวว่า การตัดสินใจถอนถอนตัวจาก IWC สายเกินไป แต่คือทิศทางที่ถูกต้อง เขาสนับสนุน 100% 

บริษัทของโชจิ ล่าวาฬที่มีจงอยปากขนาดใหญ่ 26 ตัวต่อปี เป็นชนิดวาฬที่ไม่ได้อยู่ในข้อห้ามของ IWC  และเป็นการล่าตามโควตาในประเทศ จากนั้น นำขึ้นฝั่งที่ท่าเรือวาดะ หนึ่งในฐาน 5 แห่งสำหรับการล่าวาฬ  โชจิกล่าวว่าเขาพร้อมกลับไปล่าวาฬมิงค์ หลังญี่ปุ่นออกจากสมาชิกของ IWC อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

 

 


น้อยครั้งที่ญี่ปุ่นจะดำเนินนโยบายการทูตสวนกระแสโลก นับจากสงครามโลกครั้งที่สอง  การล่าวาฬเป็นหนึ่งในนั้น และผลสำรวจโดยเอ็นเอชเคเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าชาวญี่ปุ่นมากกว่าครึ่ง 53% สนับสนุน เทียบกับคัดค้าน 37% 

ถึงจะกลับมาล่าวาฬมิงค์และชนิดอื่นเพื่อการค้าอีกก็จริง แต่ญี่ปุ่นจะล่านอกชายฝั่งของตนเอง ไม่แตะน่านน้ำแอนตาร์กติก ซึ่งถูกประท้วงหนักสุดสมัยที่ใช้ช่องโหว่ของ IWC ล่าเพื่อการวิจัยวิทยาศาสตร์

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

 

ญี่ปุ่นไม่ได้ปิดบังเรื่องที่เนื้อวาฬส่วนหนึ่งที่อ้างว่าล่ามาวิจัย สุดท้ายไปอยู่บนโต๊ะร้านอาหาร แต่ชาวบ้านในมินะโบโสะ อย่างคาสุโอะ ทาชิคาวะ ก็ภูมิใจกับเนื้อวาฬในฐานะเมนูพิเศษของท้องถิ่น “คุณสามารถซื้อเนื้อวาฬได้ในซูเปอร์มาเก็ตและร้านอาหารทะเลได้ทุกแห่งในเมืองนี้” 

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

ชาวบ้านที่นั่นไม่หวั่นไหวกับกระแสภานอก อย่าง ซาดาเอะ นาคามุระ แม่บ้านวัย 67 ปีกล่าวว่า เธอคงจะกลุ้มหากมันเป็นปลาทูนาหรือปลาอื่น “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการล่าวาฬเพื่อการค้ากับการวิจัยต่างกันตรงไหน มันก็เรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับชาวบ้านอย่างฉันเท่าไหร่” 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

ในทางการเมือง สมาชิกพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ คือผู้สนับสนุนล่าวาฬ และอาเบะเองก็มาจากเขตเลือกตั้งที่การล่าวาฬยังได้รับความนิยม 

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

ญี่ปุ่นล่าวาฬมานานหลายศตวรรษ และเนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใหญ่สุดในโลกชนิดนนี้ คือแหล่งโปรตีนสำคัญในยุคแร้นแค้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่การบริโภคลดลงมากตลอดหลายสิบปี ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่เคยกินหรือน้อยครั้งที่จะกิน 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

 

ฮิซาโย ทาคาดะ ผู้อำนวยการโครงการ กรีนพีซ เจแปน กล่าวว่า ผู้ที่ยังสนใจกินเนื้อวาฬในญี่ปุ่น มีน้อยมาก และมองว่ารัฐบาลโตเกียวโต้กลับแรงกดดันจากนานาประเทศด้วยอารมณ์ ยากจะเชื่อว่าการตัดสินใจกลับไปล่าวาฬเพื่อการค้า จะช่วยให้อุตสาหกรรมเนื้อวาฬขยายตัวได้ 

 

 

เปิดภาพโรงงานล่า-แล่เนื้อวาฬ ยืนกรานวิถีชีวิตไม่คิดเลิก

 

ที่ร้านอาหารที่มีเมนูซูชิเนื้อวาฬ คุนิโอะ อะดาชิ วัย 70 ปี ยอมรับว่าเขากินเนื้อวาฬเพราะคิดถึงอดีตเท่านั้น และสนับสนุนให้ญี่ปุ่นคงสถานะเดิม 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ