ข่าว

สิ้นอดีตทาสกามารมณ์เกาหลีใต้คนสำคัญในวัย 93

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประธานาธิบดีมูน แจ อิน นำไว้อาลัยการจากไปของอดีตทาสกามารมณ์ที่เรียกร้องคำขอโทษจากญี่ปุ่นจนถึงลมหายใจสุดท้าย 

 

คิม บ็อก ดง อดีตทาสการมณ์ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ได้ชื่อเป็นสัญลักษณ์เรียกร้องคำขอโทษอย่างเป็นทางจากรัฐบาลโตเกียว และต่อสู้เพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรีทั่วโลก เสียชีวิตเมื่อคืนวานนี้ในวัย 93 ปี ที่โรงพยาบาลยนเซในกรุงโซล หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้มานานนับปี 

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง 

ทาสกามารมณ์ทหารญี่ปุ่น บาดแผลไม่มีวันหาย

บาดแผลทาสกามารมณ์ญี่ปุ่นเงินแก้ไม่ได้

 

ยูน มี ฮยาง ประธานสภาเกาหลีเพื่อความยุติธรรมและระลึกถึง ที่อยู่ข้างเธอก่อนเสียชีวิต กล่าวว่า ในวาระสุดท้าย คุณยายคิมยังแสดงถึงความคับแค้นต่อญี่ปุ่น และขอให้ต่อสู้เพื่อคำขอโทษจากรัฐบาลญี่ปุ่นต่อไป 

ประธานาธิบดีมูน แจ อิอน ส่งสารแสดงความเสียใจ และยกย่องนางคิมผู้อุทิศชีวิตเพื่อเปิดแง่มุมประวัติศาสตร์ที่ซุกซ่อนอยู่ และกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  

ประธานาธิบดีมูน นักการเมืองจากพรรคต่างๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไป หลั่งไหลไปเคารพศพที่โรงพยาบาลอย่างไม่ขาดสาย 

 

สิ้นอดีตทาสกามารมณ์เกาหลีใต้คนสำคัญในวัย 93

 

คิม บ็อก ดง เกิดที่เมืองยังซาน จ.คย็องซังใต้ เมื่อเดือนมีนาคม 2469  เธอถูกนำตัวไปญี่ปุ่นขณะอายุเพียง 14 ปี  โดยได้รับการบอกกล่าวว่าเพื่อไปทำงานในโรงงานตัดเย็บเครื่องแบบทหาร แต่กลับลงเอยในซ่องแห่งหนึ่งของกองทัพญี่ปุ่น ทางตอนใต้ของประเทศจีน

 

 

จากนั้น  ถูกพาไปบริการทหารญี่ปุ่นในหลายประเทศ รวมถึงมาเลเซีย อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เป็นเวลา 8 ปีก่อนสงครามโลกครั้งที่สองปิดฉาก เธอเล่าว่า ต้องรองรับกามารมณ์ทหารเฉลี่ย 15 คนต่อวันในวันทำงาน และมากกว่านั้นในสุดสัปดาห์  เมื่อเลิกงานในแต่ละวัน เธอมีเลือดออกและยืนแทบไม่ไหวเพราะความเจ็บปวด

 

เธอเก็บงำอดีตขมขื่นเป็นความลับหลายสิบปีแม้แต่ชายที่แต่งงานด้วยก็ไม่รู้ กระทั่งในปี 2535 เธอตัดสินใจก้าวออกมาให้ปากคำต่อสาธารณะถึงประสบการณ์อันเจ็บปวด และกลายเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง  หลังจาก คิม ฮัค ซุน เหยื่ออีกคน ทำลายความเงียบเป็นครั้งแรกในปี 2534 

ปีถัดไป เธอเป็นเหยื่อคนแรกที่ให้ข้อมูลเรื่องทาสกามารมณ์ของทหารญี่ปุ่น ในที่ประชุมโลกว่าด้วยสิทธิมนุษยชน 

จากนั้น คิม บ็อก ดง เดินสายพูดเรื่องทาสกามารมณ์ ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ยังเข้าร่วมชุมนุมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่หน้าสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซลทุกวันพุธ เพื่อเรียกร้องคำขอโทษและค่าชดเชยอย่างเป็นทางการ 

เธอยังเป็นศูนย์กลางความพยายามส่งเสริมสันติภาพและยุติความรุนแรงต่อสตรีในสงคราม โดยร่วมกับอดีตทาสกามารมณ์อีกคนหนึ่ง ตั้งกองทุนชื่อ กองทุนผีเสื้อในปี 2555 นอกจากนี้ ในปี 2557 เธอเป็นตัวแทนเกาหลีกล่าวขออภัยสตรีเวียดนามที่เคยถูกทหารเกาหลีล่วงละเมิดทางเพศ 

คิมจากไปในวันเดียวกับที่เหยื่ออีกคน ที่สื่อเผยนามสกุลว่า อี เสียชีวิตในวัย 93 ปี  เธอถูกลักพาตัวไปทำงานในซ่องกองทัพทหารญี่ปุ่นในวัย 17 ปีขณะกำลังกลับบ้านในปี 2480 

การจากไปของทั้งสอง ทำให้ปัจจุบัน ยังมีอดีตทาสกามารมณ์เกาหลีใต้ ยังมีชีวิตอยู่จำนวน 23 คน 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ