มหาเศรษฐีนักนวัตกรรมเปลี่ยนโลก อีลอน มัสก์ เผยภาพและคลิปมาถ้ำหลวง ทิ้งเรือดำน้ำผลงานวิศกรรมสเปซเอ็กซ์ไว้ให้เผื่อใช้
เป็นเรื่องที่น่าทึ่งสำหรับ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา และสเปซเอ็กซ์ นับจากที่มีชาวสังคมออนไลน์จากสวาซิแลนด์ ทวิตถามเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมว่ามีวิธีการอะไรที่พอจะช่วยเด็ก 12 คนกับโค้ช รวม 13 ชีวิตทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำที่ถูกน้ำท่วม ในประเทศไทยหรือไม่ ผ่านมาไม่กี่วัน อีลอน มัสก์ เดินทางมาไทยแล้ว พร้อมกับแคปซูล หรือเรือดำน้ำจิ๋ว ที่ทีมวิศวกรสเปซเอ็กซ์ เร่งประกอบขึ้นมา โดยใช้ท่อออกซิเจนสำหรับจรวดฟัลคอนเป็นโครง
Just returned from Cave 3. Mini-sub is ready if needed. It is made of rocket parts & named Wild Boar after kids soccer team. Leaving here in case it may be useful in the future. Thailand is so beautiful. pic.twitter.com/EHNh8ydaTT
— Elon Musk (@elonmusk) 9 กรกฎาคม 2561
มัสก์ ทวิตว่า "เพิ่งกลับจากโถง 3 เรือดำน้ำจิ๋วพร้อมใช้แล้วหากต้องการ ประกอบจากชิ้นส่วนจรวด และตั้งชื่อตามชื่อทีมฟุตบอลของเด็กว่า"หมูป่า" ( Wild Boar)ทิ้งไว้ที่นี่เผื่อว่าจะมีประโยชน์ในอนาคต ประเทศไทยช่างสวยงาม"
บนอินสตาแกรม เขาเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถ้ำที่ถูกน้ำท่วม และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
โถงสามอยู่ห่างจากปากทางเข้าถ้ำราว 2 กิโลเมตร และเป็นฐานปฏิบัติการของทีมกู้ภัย
มัสก์ได้รับการร้องขอจากชาวโซเชียลที่เกาะติดสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง ให้หาหนทางช่วยด้วยสิ่งประดิษฐ์ เมื่อวันพุธที่แล้ว ขณะที่ยังถกเถียงกันว่า อะไรเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเด็กและโค้ชออกมา แต่ขณะนี้ ทีมหมูป่าได้รับการช่วยออกมาแล้ว 8 คน โดยความช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญและนักดำน้ำระดับโลก พาดำน้ำออกมา ห่างจากจุดที่มัสก์เข้าไปอีกราว 2 กิโลเมตร และเป็นจุดที่ยากมากในการเข้าถึง
— Elon Musk (@elonmusk) July 8, 2018
เรือดำน้ำจิ๋วของมัสก์ มีรูปทรงคล้ายถังกระสุนปืนโดยไม่มีระบบขับดันอากาศยาน ซึ่งหมายความว่า จำเป็นต้องมีนักประดาน้ำคอยผลักและดึงผ่านช่องแคบต่างๆ ของถ้ำ ด้วยความกว้างเพียง 31 เซนติเมตร จึงทำให้มันสามารถแทรกผ่านโพรงถ้ำที่ถูกน้ำท่วมภายในถ้ำหลวงได้ ซึ่งโพรงบางช่วงแคบเกินกว่านักประดาน้ำจะดำผ่านพร้อมถังออกซิเจน
อย่างไรก็ตาม มีผู้แสดงความคิดเห็นบางส่วนที่ยังไม่แน่ใจ ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้เรือดำน้ำจิ๋วในถ้ำอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากรูปทรงไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ ขนาดของตัวเรือที่เล็ก จะจำกัดศักยภาพในอนาคต สำหรับการนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ที่ตัวใหญ่กว่าเด็ก ส่วนคนอีกจำนวนหนึ่งบอกว่า การที่ตัวเรือไม่มีหน้าต่างให้มองเห็นภายนอก จะทำให้เด็กที่อยู่ภายในรู้สึกกลัวที่แคบมากกว่าการอยู่ภายในถ้ำและอยู่ในโพรงท่ามกลางความมืดเสียอีก
แม้ไม่ชัดเจนว่าเรือดำน้ำจิ๋วนี้จะใช้ได้จริงในปฏิบัติการช่วยเหลือหรือไม่ แต่มัสก์เชื่อว่าอาจเป็นประโยชน์ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง