เป็นครั้งแรกนับจากปิดฉากสงครามเย็น สวีเดนออกคู่มือแนะนำการเตรียมพร้อมรับสงคราม คาดรัสเซียเป็นปัจจัยหนึ่ง
สวีเดนเผยโฉมคู่มือเตรียมตัวกรณีเกิดวิกฤติหรือสงคราม ที่แนะนำประชาชนว่าควรตระเตรียมและปฏิบัติตัวอย่างไร อาทิ การหาที่หลบระเบิด หาน้ำดื่ม สำรองอาหารและอุปกรณ์ฉุกเฉิน และแยกแยะโฆษณาชวนเชื่อกับข้อเท็จจริง รับฟังแต่ข่าวสารจากราชการเท่านั้น
คู่มือชื่อ "If Crisis or Was Comes”ความยาว 20 หน้า เป็นฉบับปรับปรุงจากคู่มือเตรียมตัวรับสงครามที่สวีเดนเคยแจกจ่ายในช่วงสงครามเย็น แจกแจงภัยคุกคามที่ประเทศสงบสุขอย่างสวีเดนอาจเผชิญ อาทิ สงคราม ภัยธรรมชาติ การก่อการร้ายและการโจมตีไซเบอร์ โดยตีพิมพ์เป็น 13 ภาษา เตรียมจัดส่งให้กับชาวสวีเดนและผู้พำนักในประเทศ 4.8 ล้านคน ช่วงระหว่าง 28 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน
แดน เอเลียสสัน ผู้อำนวยการสำนักงานสถานการณ์ฉุกเฉิน หน่วยงานที่จัดทำคู่มือ กล่าวว่า แม้สวีเดนเป็นประเทศปลอดภัยกว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลก แต่ภัยคุกคามยังมี และเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรรู้ไว้ เพื่อจะได้เตรียมตัวได้
ต่อให้สงครามไม่ได้เกิดในสวีเดน แต่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนหากเกิดสงครามใกล้บ้าน หรืออาจกระทบต่อการนำเข้าสินค้า เช่น อาหาร
สวีเดนออกคู่มือรับมือสงครามครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ครั้งหลังสุดออกในปี 2504 ช่วงสงครามเย็น และแม้คู่มือฉบับปรับปรุงล่าสุดไม่ได้บ่งชี้ถึงประเทศใด แต่เป็นการตีพิมพ์ท่ามกลางความวิตกว่าความตึงเครียดระหว่างนาโตกับรัสเซีย ที่คุกรุ่นมาตั้งแต่รัสเซียเข้าแทรกแซงสงครามแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน การผนวกไครเมีย และกิจกรรมทางทหารของรัสเซียใกล้ชายแดนยุโรปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
สวีเดนไม่ได้เป็นสมาชิกของนาโต และไม่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย แต่สองประเทศเชื่อมถึงกันแค่ข้ามทะเลบอลติก ซึ่งรัสเซียมีฐานทัพอยู่ในเมือง บัลทีสค์ ในภูมิภาคคาลินนิกราด ทางตะวันออกของชายฝั่งกรุงสต็อกโฮล์ม
นับจากเกิดความขัดแย้งกับนอรเวย์ในปี ค.ศ. 1814 สวีเดนไม่เคยมีสงครามอีกเลย และลดงบส่วนนี้ลงตลอดหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งรัสเซียผนวกไครเมียที่เดิมอยู่กับยูเครน ในปี 2557 ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป
สวีเดนกล่าวหารัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าหลายครั้ง และครั้งหนึ่ง พบเรือดำน้ำไม่ทราบสัญชาติ
เมื่อเดือนมีนาคม สวีเดนประกาศกลับมาเกณฑ์ทหาร หลังจากยกเลิกไป เมื่อ 7 ปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง