ข่าว

บทอวสานของลัทธิลวงโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดโลกวันอาทิตย์ โดย บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

        เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เกิดเหตุนองเลือดขึ้นที่แดนชมพูทวีประหว่างที่ตำรวจยกกำลังไปยึดพื้นที่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองมธุรา รัฐอุตตรประเทศคืน หลังจากสาวกลัทธิสวาธิน อาซัดภารัต วิธิก ไวชริต กรันติ สัตยาเคราะห์ หรือกลุ่ม “ผู้ประท้วงการปฏิวัติความคิดกฎหมายเสรีอินเดีย" ราว 3,000 คนได้ยึดสวนสาธารณะแห่งนั้นโดยผิดกฎหมายมานานราว 2 ปี แล้วตั้งเป็นรัฐอิสระ มีรัฐบาลของตัวเอง มีการเก็บภาษีและมีกองทัพเป็นของตัวเอง

บทอวสานของลัทธิลวงโลก

      ระหว่างปฏิบัติการยึดพื้นที่คืน ปรากฏว่าสาวกของลัทธินี้ที่มีอาวุธหนัก-เบาและระเบิดเพลิงได้ขัดขืนและยิงปืนใส่ตำรวจ บางส่วนได้ขว้างปาก้อนหินใส่ หรือใช้ไม้และอุปกรณ์อื่นๆ เป็นอาวุธเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนเกิดปะทะดุเดือด บางส่วน  ได้จุดไฟเผากระท่อมที่มีถังแก๊สอยู่ภายในทำให้เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้สาวกของลัทธิเสียชีวิต 22 คน ในจำนวนนี้ 11 คน  เสียชีวิตจากแผลไฟไหม้รุนแรง บาดเจ็บอีกราว 40 คน ถูกตำรวจจับกุมอีกกว่า 300 คน นอกจากนี้ ทางการยังยึดของกลางเป็นปืนสั้นและปืนยาวหลายสิบกระบอก พร้อมทั้งเครื่องกระสุนจำนวนมากด้วย

       ส่วนตำรวจเสียชีวิต 2 คน เป็นนายตำรวจระดับสูงที่เดินทางไปพบกับสาวกลัทธินี้เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ศาลสูงสุดได้ตัดสินไม่รับคำร้องของกลุ่มนี้ ทำให้สาวกเกิดคลุ้มคลั่งเข้าไปล้อมกรอบนายตำรวจทั้ง 2 คน   และขว้างปาด้วยก้อนหิน จนตำรวจไม่มีทางเลือกอื่น  ต้องใช้กำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือ  แม้จะได้รับการย้ำว่าห้ามใช้ความรุนแรงก็ตาม เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ากลุ่มนี้มีอาวุธอยู่เป็นจำนวนมาก 

บทอวสานของลัทธิลวงโลก

     ทางการยอมรับว่าไม่ค่อยมีใครรู้จักลัทธินี้มากนัก รู้แต่ว่าเป็นพวกก่อความไม่สงบและไม่เชื่อในระบบสังคม ไม่เชื่อในกฎหมาย ผู้นำลัทธิคนปัจจุบันคือราม วริศา ซิงห์ ยาดาฟ แต่ตำรวจก็แทบไม่มีประวัติว่าเป็นใคร ทราบแต่เพียงว่าก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำลัทธิสืบต่อจากคุรุบาบา ชัย คุรุเทพ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2555 จากนั้น ลัทธินี้ก็เริ่มกลายพันธุ์กลายเป็นกลุ่มสุดโต่ง  ประกาศไม่ยอมระบบรัฐสภา รวมทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดี เนื่องจากล้วนแต่เป็นมรดกตกทอดมาจากอดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษ จึงควรจะถูกทำลายให้สิ้นซาก

      สาวกบางคนประกาศตัวเองว่าเป็นนักปฏิวัติและเดินตามรอยวีรบุรุษผู้กอบกู้เอกราช สุภัษ จันทรา โพสี หรือที่ชาวอินเดียเรียกว่าเนตาจี หรือแปลว่า “ท่านผู้นำ” ซึ่งต้องการปลดปล่อยอินเดียจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยได้รับความช่วยเหลือจากนาซีเยอรมันและกองทัพลูกพระอาทิตย์ญี่ปุ่น แต่เมื่อเยอรมันและญี่ปุ่นกำลังจะแพ้สงคราม ภัษ จันทรา โพสี ก็หายตัวอย่างลึกลับโดยมีข่าวว่าเครื่องบินตกเสียชีวิตแต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ คาดว่าหลบซ่อนตัว ขณะที่ผู้นำอินเดียตั้งแต่คานธีจนถึงเนห์รูก็พยายามลบชื่อนี้ออกจากหน้าประวัติศาสตร์

       อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด ที่การล้อมปราบลัทธิประหลาดมักจะจบลงด้วยการนองเลือด ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้ง เนื่องจากมีการตั้งลัทธิประหลาดอย่างน้อย 20 กลุ่ม      ส่วนใหญ่จะใช้ศาสนาบังหน้า แต่บิดเบือนคำสอนจนกลายเป็นลัทธิบูชาตัวบุคคลซึ่งก็คือเจ้าลัทธิ ที่เหิมเกริมยุยงให้สาวกก่ออาชญากรรม หรือก่อวาทกรรมเหยียดผิว ทั้งเหยียดผิวดำหรือต่างชาติ อย่างนีโอนาซี หรือเหยียดผิวขาว เหยียดเชื้อชาติ หรือล้างสมองให้เชื่อในเรื่องแวมไพร์หรือผีดิบดูดเลือด หรือเชื่อในเรื่องที่ว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งของมนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอ

บทอวสานของลัทธิลวงโลก

    เฉพาะลัทธิที่บิดเบือนคำสอนของศาสนา รวมทั้งเผยแพร่ความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งของมนุษย์ต่างดาวแต่สุดท้ายกลายเป็นลัทธิบูชาตัวบุคคลมีอยู่เกือบ 10 กลุ่ม อาทิ ลัทธิประตูสวรรค์ที่ซานดิเอโก มีมาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์ เป็นเจ้าลัทธิ ซึ่งเผยแพร่คำสอนว่า มนุษย์ไม่ได้มาจากการปั้นดินของพระเจ้า แต่มาจากพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งสักวันหนึ่งจะนำยานอวกาศมารับลูกหลานไปยังดาวต้นกำเนิดที่อยู่ด้านหลังของดาวหาง เฮล-บ็อบ และทางเดียวที่จะไปได้ก็คือวิญญาณ เมื่อถูกตำรวจตามประกอบติด แอปเปิลไวท์ จึงนำสาวก 38 คน ดื่มวอดก้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรงจนตายหมู่ด้วยกัน

เอฟบีไอบุกกวาดล้างลัทธิดาวิเดียนส์ ในเมืองวาโก รัฐเท็กซัส

        หรือลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียนในเมืองวาโค รัฐเท็กซัส ที่เดวิด โคเรช เจ้าลัทธิ ซึ่งเคยโด่งดังในช่วงอ้างว่าเป็นร่างอวตารแห่งพระคริสต์ แต่ชอบหลอกผู้หญิงและเด็กๆ มาเป็นสาวกแล้วมีเพศสัมพันธ์ด้วย กลายเป็นระบบผัวเดียวแต่เมียหลายคน อีกทั้งมีกาสะสมอาวุธสงครามมากมาย สุดท้ายเอฟบีไอต้องใช้กำลังบุกกวาดล้างเมื่อปี 2536 แต่เจ้าลัทธิกลับสั่งสู้ตายแล้วยังวางเพลิงเผาที่ทำการ ปรากฏว่าเดวิด โคเรช และสาวกถูกไฟคลอกตายหมู่รวมกัน 82 คน

    ลัทธิฟื้นฟูบัญญัติ 10 ประการ เป็นลัทธิที่แหกคอกออกมาจากนิกายโรมันคาทอลิก เจ้าลัทธิคือโจเซฟ คิบเวเทียร์ นักการเมืองชาวอูกันดา ที่อ้างว่าพระแม่มารีอาได้ทรงปรากฏพระวรกายต่อหน้าตนเอง และทำนายว่าโลกจะแตกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 แล้วเลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มีนาคมปีเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ เจ้าลัทธิอุบาทว์ได้วางเพลิงเผาโรงนาอันเป็นที่อยู่ร่วมกันของบรรดาสาวก ทำให้คิบเวเทียร์และสาวกถูกย่างสดตายทั้งเป็นถึง 513 คน นอกจากนี้ ตำรวจยังพบศพที่มีร่องรอยถูกแทงหรือถูกวางยาพิษแล้วนำไปฝังไว้ใต้ดินอีก 265 ศพ รวมแล้วมีผู้สังเวยชีวิตให้แก่ลัทธิมหาประลัยนี้ถึง 778 คน ด้วยกัน

      ลัทธิเฉินเต่า หรือ “วิถีแห่งความเป็นจริง ” ในไต้หวัน เจ้าลัทธิคือหง หมินเฉิน ที่เผยแพร่ความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอ และสารพัดความเชื่อบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเริ่มเสื่อมความนิยม

      ลัทธิ “ไซเอนโทโลจี” ในสหรัฐ ซึ่งอ้างว่าสาวกกว่า 10 ล้านคนอยู่ทั่วโลก รวมไปถึงดาราดังหลายคน อาทิ จอห์น ทราโวลตา วิล สมิธ และ ทอม ครูซ เจ้าลัทธิคือ แอล. รอน ฮับบาร์ท นักเขียนชาวอเมริกันที่เผยแพร่ความเชื่อว่าใน “ร่าง” ของมนุษย์ทุกคนมีวิญญาณของ “มนุษย์ต่างดาว” ฝังอยู่ การจะหลุดพ้นและรู้แจ้งได้ก็ต้องสลัดวิญญาณมนุษย์ต่างดาวออกไปโดยใช้หลักการวิทยาศาสตร์

        ลัทธิอีกลัทธิหนึ่งที่เชื่อในเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอก็คือลัทธิ เรลีอังส์ หรือ “ราเอเลียน มูฟเมนต์” โดยราเอล นักหนังสือพิมพ์ชาวฝรั่งเศสที่ตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิ มีสำนักงานใหญ่ที่เจนีวา ส่วนสาวกส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น ราเอลอ้างว่าได้พบกับมนุษย์ต่างดาวจากดวงดาวอันไกลโพ้นที่เผยความจริงให้ทราบว่ามนุษย์เกิดจากการโคลนของมนุษย์ต่างดาว หรือที่เรามักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระเจ้าหรือเทวดา แต่กิจกรรมของลัทธินี้ค่อนข้างเน้นในเรื่องเสรีภาพทางเพศ

ปกนิตยสารไทม์ 3 เมษายน 2538

       ลัทธิประหลาดที่โด่งดังที่สุดในช่วงคนรุ่นนี้ก็คือลัทธิโอมชินริเกียว หรือปรมัตถ์สัจจะ ในญี่ปุ่นที่มี โชโกะ อาซาฮารา เป็นเจ้าลัทธิ และใช้ศาสนาพุทธบังหน้าแต่กลับทำตัวเป็นแก๊งอาชญากรสุดโหด มีการสังหารสาวกที่ตีตัวออกห่าง แต่ทำให้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วก็คือการสั่งให้สาวกปล่อยแก๊สซารินในสถานีรถไฟใต้ดิน 5 สาย ในกรุงโตเกียว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บ 54 คน หลายคนพิการตาบอด ทำให้ตำรวจต้องบุกทลายรังใหญ่ แล้วพบวัตถุระเบิด สารเคมี อาวุธเคมีจำนวนมหาศาล รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์สำหรับใช้โปรยอาวุธเคมีที่สามารถทำให้ผู้คนล้มตายได้มากถึง 4 ล้านคน อาซาฮาราถูกจับกุมและศาลสูงญี่ปุ่นพิพากษาให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ

สาธุคุณจิม โจนส์ / ภาพ wikipedia

    แต่ลัทธิไหนก็ไม่โหดเท่าลัทธิ "พีเพิลส์ เทมเปิ้ล” ของสาธุคุณจิมโจนส์ ซึ่งลงทุนไปตั้งสำนักอยู่ที่เมืองจิม โจนส์ในประเทศกายอานา แถบอเมริกาใต้ ซึ่งมีหลักคำสอนเหมือนนิกายสุขาวดี ในมังกรหยก แถมยังทำตัวเป็นรัฐอิสระและหลอกลวงคนให้เชื่อแต่คำพูดของเจ้าลัทธิที่ก่ออาชญากรรมโหดมากมาย ถึงขั้นสังหาร ส.ส.อเมริกันคนหนึ่งที่เข้าไปสืบค้นหาความจริง ทำให้รัฐบาลอเมริกันเตรียมลงมือปราบ สาธุคุณจิม โจนส์ จึงฆ่าตัวตายเมื่อปี 2521 พร้อมกับสาวกอีกกว่า 900 คน ที่ถูกหลอกให้กินยาพิษ

         ยังมีลัทธิสุดโต่งประหลาดๆ อีกหลายลัทธิ อย่างลัทธิคริสตจักรการุณฆาตส่งเสริมการฆ่าตัวตาย สังวาสผิดธรรมชาติ และกินศพมนุษย์ ลัทธิประเทศยะฮ์เวห์ ในไมอามีที่เหยียดผิวขาวเชิดชูผิวดำ ตรงข้ามกลับกลุ่มคลูคลักซ์แคลน (เคเคเค) ที่เหยียดผิวดำ เชิดชูผิวขาวเหมือนกับกลุ่มนีโอนาซี สุดท้ายก็ไม่มีลัทธิประหลาดใดจบลงด้วยดี

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ