เรียกว่ากลายเป็นเหตุการณ์ระทึกที่หลายๆคนให้ความสนใจกันอย่างมาก เกี่ยวกับประเด็นที่มีหญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งบุกรุกเข้ามาในบ้านของ "ดีเจเพชรจ้า-นิวเคลียร์ หรรษา" จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
โดยก่อนหน้านี้หลังจากที่ “นิวเคลียร์ หรรษา” ภรรยาของ “ดีเจเพชรจ้า” ได้เผยภาพกล้องวงจรปิดที่มีหญิงสาวเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งตอนแรก “นิวเคลียร์ หรรษา” คิดว่าเป็นทีมงาน เนื่องจากวันนั้นที่บ้านมีการถ่ายทำรายการ จึงได้เปิดประตูหน้าบ้านเอาไว้
ล่าสุด สดๆร้อนๆ “ดีเจเพชรจ้า” ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึง สาเหตุที่ถูกหญิงสาวบุกรุกเข้ามาในบ้าน ว่า “จากเหตุการณ์เมื่อวาน ผู้ปกครองของหญิงแปลกหน้าคนเมื่อวานได้ติดต่อมาหาผมเรียบร้อย ระบุว่า น้องเป็นผู้ป่วยจิตเวช คาดว่าอาจเป็น FC ที่ติดตามดูรายการ จึงทราบชื่อของทุกคนในบ้านแล้วหลงคิดว่าเป็นบ้านของตนเองนะครับ ทางผมไม่ติดใจ แต่ลงบันทึกประจำวันไว้ ถ้าทางผู้ปกครองปล่อยให้น้องมาอีกถึงทางผมไม่เอาเรื่อง แต่ทางหมู่บ้านจำเป็นต้องแจ้งความต่อไปนะครับ เพราะทางผมก็ต้องมีมาตรการป้องกันครอบครัวของผม”
ซึ่งก่อนหน้าที่ “ดีเจเพชรจ้า” จะโพสต์ ด้าน “นิวเคลียร์ หรรษา” ก็ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบละเอียดยิบ หลังถูกหลายๆคนถามว่า “นิว ไทก้า กิ๋ม กำลังกินข้าวกันอยู่ (คุณพ่อของน้องทำงานอยู่ในห้องประชุม) เนื่องจากวันนี้มีทีมงานมาที่บ้าน เราจึงเปิดรั้วเอาไว้ เพราะมีรถทีมงานเข้าออกตลอด (ปกติเราจะปิดรั้วบ้านเอาไว้) แต่แล้วก็มีผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาในบ้าน ใช่ค่ะนั่งในบ้านเลย นิวก็คิดว่าเป็น 1 ในทีมงานมาหลบแดด เพราะถ่ายกันด้านนอก แต่ก่อนที่จะนั่ง นางมีท่าทีมองหาอะไรบางอย่าง นิวก็คิดอีกว่าอ๋อมาดูโลเคชั่นที่จะถ่ายในบ้าน นิวก็ยัง หันไปยกมือสวัสดีค่ะเค้าเลย เดินวนไปวนมาสักพัก นางก็นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว (โต๊ะเดียวกันกับเรา) แต่ นางนั่งหัวโต๊ะ แล้วก็เริ่มพูดคนเดียว ตอนแรกเรานึกว่านางคุยโทรศัพท์ แต่สังเกตดูก็ไม่ใช่ นางพูดกับเพื่อนทิพย์ว่า "ห๊ะ อะไรนะ" แล้วก็หัวเราะคิกคัก หลอนๆ ละ เมื่อเห็นว่านางไม่โอเคแล้ว นิวเลยโน้ตฝากแม่บ้านไปบอกพี่เพชรให้มาดูหน่อย ถามไปถามมา นางบอกว่านี่บ้านนางนางอยู่ที่นี่ อาม่าให้มาเอาตังที่พี่ เราชื่อตูน การ์ตูนไง ซึ่งชัดเจนมากว่าไม่ใช่แล้ว พี่เพชรให้นางออกไปจากบ้าน เรียก รปภ.มาพาตัวไป จากเหตุการณ์นี้เราไม่แน่ใจว่านางไม่ปกติจริงๆ หรือ เป็นมิจฉาชีพเนียนมาสำรวจบ้าน”
ซึ่งหลายๆคนที่เห็นข่าว และ เหตุการณ์นี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า “น่ากลัวมาก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง