บันเทิง

ฝันให้ไกลไปให้ถึง  กว่าจะมีวันนี้ในเส้นทางดนตรีของวงร็อคน้องใหม่ Lipsmooth

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝันให้ไกลไปให้ถึง  กว่าจะมีวันนี้ในเส้นทางดนตรีของวงร็อคน้องใหม่ Lipsmooth

 

เปิดตัวให้แฟนๆ ได้รู้จักศิลปินวงร็อคน้องใหม่เบอร์ล่าสุดของค่าย Khaosan Entertainment   ให้รู้จักกันไปแล้ว  กับ 3 หนุ่มวง  LIPSMOOTH   นำโดย  มีน - อุกฤษณ์ อัศวสันติ (ร้องนำ), โน๊ต - นที พิทักษ์ (กีตาร์) และ โม่ -นิติพัฒน์ องสุพันธ์กุล (เบส) ได้ส่งซิงเกิลใหม่ "พอสักที" ออกมาตอกย้ำความช้ำของการรักใครข้างเดียว และการทุ่มเทที่ไร้ความหมาย  ซึ่งกว่าที่ทั้ง 3 คนจะได้มารวมตัวกันมาเป็นกลุ่มศิลปินในเส้นทางดนตรีสายนี้  บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย  เราไปฟังหนุ่มๆ ทั้ง 3 คนเล่าเรื่องราวการทำงานให้ฟังกันดีกว่า ..

ฝันให้ไกลไปให้ถึง  กว่าจะมีวันนี้ในเส้นทางดนตรีของวงร็อคน้องใหม่ Lipsmooth

 

•ทั้ง 3 คนเล่าเบื้องหลังสไตล์การใช้ชิวิต  นิสัยและความชอบส่วนตัว  รวมถึงความชอบในด้านงานเพลงของแต่ละคน  ก่อนจะรวมตัวกันเป็นวง Lipsmooth ให้ฟังหน่อย
มีน :   ผมเริ่มทำวงกับเพื่อนตั้งแต่อยู่ ร.ร. สวนกุหลาบครับ  ตะลุยประกวดไปเรื่อย  มีได้ไปประกวดตามโรงเรียนต่างๆ  เคยได้แชมป์จากการประกวดมา 2 งาน   นั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของผมเลยที่ทำให้มีโอกาสได้มาอยู่ค่ายเพลงซึ่งเป็นค่ายอิสระครับ    ด้วยความที่ชอบและเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่เคยเรียนอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี  ส่วนใหญ่มีนจะเน้นครูพักลักจำ เรียนรู้จากศิลปินรุ่นพี่ครับ 
โน๊ต :    ไลฟ์สไตล์ผมจะเป็นคนง่ายๆ  ตอนนี้หลักๆ ผมทำงานประจำเป็นพนักงาน  เป็นคนชอบ gadget เกี่ยวกับดนตรี  เพลงที่ชอบฟังเป็นเพลงร็อคสากล ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ  ก่อนจะทำ Lipsmooth ผมจะวนเวียนกับการเล่นดนตรีมาตลอด  สมัยมหาวิทยาลัย ผมเรียนดุริยางค์ดนตรีสากล  มีเล่นดนตรีกลางคืนด้วยกับเพื่อน พอมา กทม. ก็ทำเพลงทำวงกับเพื่อนที่กทม. จนได้เจอมีนกับโม่ครับ   
 โม่  :    ผมเป็นคนมีระเบียบนิดนึง  เคร่งกับเวลา  ผมทำทั้งงานบริษัทด้วย  ไลฟ์สไตล์จะบ้างานนิดนึง  ถ้าเรื่องความชอบ  ผมชอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ปีนเขา กางเต็นท์  เรื่องความชอบในงานดนตรี ผมเป็นคนเริ่มฟังเพลงมาจากแนวร็อคเมทัลมาก่อนคล้ายๆ กับพี่โน๊ต  แนวอื่นก็ฟังบ้างตามช่วงเวลา

 


•ทั้ง 3 คนมารวมตัวกันเป็นวง Lipsmooth ได้อย่างไร
มีน : ช่วงที่ผมอยู่ค่ายเพลงอิสระ  พอทำงานไปเหมือนสมาชิกในวงเริ่มอิ่มตัว  ก็แยกย้ายกัน  จนผมได้มีโอกาสไปเล่นดนตรีกับรุ่นพี่ที่รู้จัก  จนได้มาเจอพี่โน๊ตกับพี่โม่ที่มาเล่นดนตรีในงานนี้ด้วยกัน  ตอนนั้นผมอยากที่จะทำเพลงของตัวเอง  ก็มีได้คุยพี่โม่บ้าง  เพราะพี่โม่จะดูแลเรื่องพาร์ทเพลงเป็นหลัก  เพลงที่เราทำในช่วงนั้นคือ เพลง “เวลา”  ระหว่างนั้นเราหาคนอัดกีตาร์ก็เลยชวนพี่โน๊ตมาทำเพลงด้วยกัน  ก็เลยได้รวมตัวกัน 3 คนมาเป็น Lipsmooth จนถึงวันนี้ครับ 


•หลังจากที่รวมตัวกันเป็นวง Lipsmooth แล้ว  ได้ทำเพลงออกมาถึง 2 ซิงเกิล  อยากให้พูดถึงการทำเพลงทั้ง 2 เพลงนี้ด้วยกัน  รวมถึงใครรับหน้าที่อย่างไรในเพลงบ้าง
โม่  :  วงเรามีแผนการทำงานมีความเป็นระบบที่ใช้ได้  เริ่มจากมีน  ด้วยความเป็นนักร้องเราก็วางให้มีนทำเพลงและเมโลดี้  ส่วนโน้ตก็จะวางคอร์ด  ส่วนผมมือเบส  เก็บรายละเอียดและซาวน์ดีไซน์บางอย่างเพิ่มเติม

 

ฝันให้ไกลไปให้ถึง  กว่าจะมีวันนี้ในเส้นทางดนตรีของวงร็อคน้องใหม่ Lipsmooth

 


•พอเรามีซิงเกิลด้วยกันแล้ว  วงก็มีส่งเพลงไปตามค่ายต่างๆ  ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง  
โน๊ต : ตอนแรกเราลองทำทั้งเพลงและมิวสิควิดีโอกันเอง  แต่พอทำไปปะมาณ 2 ปี  เรารู้สึกว่าขาดในส่วนของการ      โปรโมท  เลยบอกให้มีนเลยลองยื่นๆ ค่ายต่างดู  ซึ่งต้องยกเครดิตให้มีนเพราะส่งไปหลายค่ายอยู่เหมือนกัน จนน้องมาบอกว่ามีค่าย Khaosan Entertainment สนใจและกำลังหาศิลปินที่จะเข้าร่วมโปรเจกต์ทำเพลงกับค่ายครับ 


•หลังจากที่ส่งเพลงให้ทางค่าย Khaosan Entertainment แล้ว  เค้าฟังเพลงวงเรา แล้วมีฟีดแบคอย่างไร  
โม่ : ฟีดแบคคือดีครับ  เหมือนผู้ใหญ่เค้าสนใจเพราะดนตรีเราดูมีอะไร และทางผู้ใหญ่ชอบที่เสียงของมีน เค้าร้องมีเอกลักษณ์


•ในที่สุดวง Lipsmooth ได้มาเป็นศิลปินเต็มตัว  ได้มีซิงเกิ้ล พอสักที  ออกมาให้ฟังกัน  พูดถึงที่มาที่ไปของเพลงนี้หน่อย
มีน : เริ่มจากผมเป็นคนแต่งเนื้อเพลง ทำเมโลดี้มาก่อน  ซึ่งเนื้อหาเพลงพูดถึงมุมมองความรัก ที่คนนึงพยายามทำดีทุกอย่างให้กับคนที่เรารัก  ขณะที่คนที่เรารักไม่ได้สนใจไม่ได้ใส่ใจ  ทำให้เราเสียใจตลอดเวลา เหมือนกับเราพูดกับตัวเองว่าพอได้แล้วพอซักที  
โน๊ต : งานเพลงนี้เรารื้อหลายรอบมาก  ประมาน 4-5 เวอร์ชั่น  ก่อนโควิดระบาด  เราได้เนื้อเพลงกับคอร์ดมาแล้ว  ขึ้นดราฟแรกกันมา  ผมกับโม่จะส่งเพลงกันไปมา  ตอนแรกซาวน์จะค่อนข้างหนักกว่านี้  แล้วเปลี่ยนมาเป็นแนว อิเลกทรอนิก  หลังจากนั้นโม่และโปรดิวเซอร์ก็ปรับกันอีกจนกว่าจะลงตัวมาเป็นเวอร์ชั่นที่ปล่อยให้ฟังกันครับ 

 

ฝันให้ไกลไปให้ถึง  กว่าจะมีวันนี้ในเส้นทางดนตรีของวงร็อคน้องใหม่ Lipsmooth


•ตอนนี้แฟนๆ ได้ฟังเพลง ชมเอมวีแล้ว ฟีดแบคที่เราได้รับกลับมาเป็นอย่างไรบ้าง
โม่ : ฟีดแบคจากแฟนๆ ดีมากครับ  ยื่งตอนนี้วงเราจะเล่น Line Openchat เราจะได้เห็นคอนเม้นท์จากแฟนเพลงพูดคุยกันว่าชอบ  บางคนแคปช็อตภาพในเอ็มวีมาให้ดู  รู้สึกว่าแฟนๆ ใส่ใจกับผลงานของเรา   พวกเราภูมิใจและมีกำลังใจกับงานนี้มากๆ ครับ 


•มาถึงวันนี้ที่ทั้ง 3 คน  ไม่หยุดเดินตามฝันในเรื่องการทำเพลง  จนได้ก้าวมาเป็นศิลปินเต็มตัว  ผ่านอะไรมาก็เยอะ  อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ คนที่อยู่เบื้องหลังที่คอย support เราบ้าง  
มีน : มีทั้งขอบคุณคนที่ติและชม  คนที่ชมก็ถือเป็นกำลังใจที่ดี  ทำให้เรามีแรงที่จะทำ เติมไฟให้เรา  ทุกคนเวลาทำอะไรไปนานๆ ก็มีท้อ แต่เราโชคดีที่เราชอบมันจริงๆ  เราไม่ได้หวังว่าจะดังหรือไม่ดัง  แค่ให้เราได้ทำมันก็พอแล้ว     ส่วนคนที่ติ  มีนเคยโดนว่าค่อนข้างเยอะ โดนติหนักมาก  ว่าไม่มีทางประสบความสำเร็จ ซึ่งมีนก็รับคำติตรงนี้เป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองต่อไป  
โม่ : อยากขอบคุณสำหรับกำลังใจและแรงผลักดันต่างๆ ที่ทำให้ผมและเพื่อนๆ ได้มายืนในจุดนนี้  ขอบคุณมากๆ ครับ
โน๊ต : ผมอยากจะขอบคุณที่เราตั้งใจทำงานด้วยกัน  แล้ววันนี้วงเราได้มีค่าย  มีผู้ใหญ่ที่คอยดูแลทำให้การทำงานราบรื่น  มีฐานแฟนคลับที่ตามเรามาจาก 4 ปีที่แล้ว  และมีแฟนเพลงใหม่ที่ชอบในผลงานของเราครับ 
    

ติดตามรับชม MV เพลง "พอสักที" ของวง LIPSMOOTH  ได้ทาง  Youtube : LIPSMOOTH Official
และติดตามความเคลื่อนไหวแบบใกล้ชิดกับสมาชิกวงได้ทาง Facebook : lipsmoothband และ Line Open Chat : LIPSMOOTH

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ