เมื่อแอนิเมชั่นไทยทะยานอวกาศ โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

ก่อนหน้านี้ ผมเล่าเรื่องราวการพัฒนาแอนิเมชั่นจีนมาต่อเนื่องหลายตอน และทิ้งท้ายไว้ว่าอยากเห็นแอนิเมชั่นไทยไปโกยเงิยหยวนกันในอนาคต ยังไม่ทันข้ามเดือน ผมก็เหลือบไปเห็นการแถลงข่าวความร่วมมือสร้างแอนิเมชั่นคุณภาพจากค่ายใหญ่ของไทยกับของต่างชาติที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ...
เฟรนสเปซ (FriendZSpace) คือชื่อแอนิเมชั่นเรื่องดังกล่าว เฟรนสเปซ เป็นซีรี่ย์แอนิเมชั่นที่สร้างจากคอมพิวเตอร์แนวคอมเมดี้และผจญภัยที่แฝงไว้ด้วยข้อคิดมากมาย 

เหมือนกับความหมายของชื่อเรื่อง เฟรนสเปซดำเนินเรื่องอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันท์มิตรของเด็กน้อยที่ดูเหมือนเด็กทั่วไปจำนวน 3 คน อันได้แก่ อลิซ ลีโอ และคิม รวมทั้งบ็อตด็อก สุนัขชิวาว่ากึ่งหุ่นยนต์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษมากมาย
ดารานำดังกล่าวร่วมกันท่องอวกาศไปกับยานอวกาศสุดฮิพชื่อ “เดอะดาร์ท” สู่ดินแดนอันไกลโพ้นที่แปลกตาและเต็มไปด้วยความเสี่ยง เพื่อสำรวจกลุ่มดาวและค้นหาการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาวอัจฉริยะ ซึ่งกลายเป็นเพื่อนใหม่ในเวลาต่อมา
ทีมงานได้วางคาแร็กเตอร์ของดารานำไว้อย่างหลากหลาย อลิซเป็นเด็กหญิงที่มีใบหน้ายิ้มแย้ม ร่าเริง และผมยาวสีส้มที่รัดจุกไว้ด้านบน ขณะที่ลีโอเป็นเด็กชายผิวสีและผมหยิกสีน้ำตาลเข้ม เปี่ยมด้วยพลัง และมีหนังสติ๊กเป็นของเล่นติดมือเหมือนกับวัยเด็กของเราบางคน ส่วนคิม เด็กสาวเป็นเสมือนตัวแทนของชาวเอเซียที่มีเส้นผมสีน้ำเงินอมม่วง และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและอารมณ์ขัน
ขณะเดียวกัน บ็อตด็อกก็แฝงไว้ด้วยความสามารถพิเศษ เพียงแค่คิดว่าส่วนไหนของบ็อตด็อกกันนะที่เป็นหุ่นยนต์ และติดตามลุ้นลูกเล่นที่สุนัขกึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้จะปล่อยออกมาก็สนุกแล้ว 
ดารานำเหล่านี้ออกมาครั้งใดก็มักปล่อยมุขตลกและข้อคิดตลอด บางครั้งยังสะท้อนภาพในความเป็นมนุษย์ในปัจจุบันได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย อย่างเช่น “We are human; we don’t do logic” ทำนองว่า พวกเราเป็นมนุษย์ พวกเราไม่ทำสิ่งที่มีเหตุผลหรอก ฮา ฮา ฮา 
ขณะที่บ็อตด็อกก็ทำให้ผู้ชมทึ่งในความพิเศษที่เต็มไปด้วยจินตนาการ จนบางช็อตทำให้ผมนึกถึงอาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ นักแสดงนำในหนังดังกระฉ่อนอย่างเดอะเทอร์มิเนเตอร์ ที่มีลูกเล่นใหม่และคำพูดเด็ดๆ ออกมาตลอดเรื่อง
ที่น่าสนใจก็คือ แอนิเมชั่นนี้พยายามสะท้อนวิธีคิดและพฤติกรรมหลายสิ่งจากมุมมองที่แตกต่างกันของเด็กจากโลกมนุษย์และมนุษย์ต่างดาวกว่า 50 สายพันธุ์ ซึ่งทำให้การกระทำหลายอย่างกลายเป็นความผิดพลาดที่ชวนขัน และความประทับใจระหว่างกันในที่สุด
แนวคิดหลักของเฟรนสเปซสะท้อนให้เห็นว่า ความแตกต่างของรูปลักษณ์ภายนอก ขนาด สายพันธุ์ ภาษา วัฒนธรรม มุมมองและพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต ทั้งมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว อื่นๆ ที่มีพื้นฐานที่หลากหลาย ล้วนเต็มไปด้วยความท้าทาย และแฝงไว้ซึ่งความสนุกสนาน
เฟรนสเปซรวบรวมความคิดที่เต็มไปด้วยมุมมองที่น่าสนใจ และแฝงไว้ซึ่งมุขตลกขบขัน ความสนุกสนานตื่นเต้นและโดนใจ ลองจินตนาถึงการพยายามทำความรู้จักกับของตัวละครหลักและมนุษย์ต่างดาวที่มีขนาดแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว 
บางสิ่งมีชีวิตนอกโลกมีขนาดจิ๋วและอาศัยอยู่ที่พุ่มขนตาของสัตว์ดุร้ายที่อารมณ์บูดตลอดเวลา ขณะที่มนุษย์ต่างดาวบางรายก็ต้องเรียกว่า “ยักษ์ต่างดาว” ที่เพียงเพื่อจะไปพบและทักทาย “สวัสดี” ก็เสมือนเป็นภารกิจปีนข้ามภูเขาเข้าให้แล้ว
แต่ไม่ว่าจะแตกต่างกันเช่นไร ทั้งหมดก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ แนวทางดังกล่าวสะท้อนว่า ความผาสุกของมนุษยชาติบนโลกมีความสมัครสมานสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้คนบนโลกเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญนั่นเอง
เฟรนสเปซถูกออกแบบเพื่อจับตลาดเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-9 ปีเป็นหลัก แต่ผมเชื่อมั่นว่า ผู้ใหญ่ที่มีความเป็นเด็กซ่อนอยู่ในตัวจะหลงรักแอนิเมชั่นนี้ในแบบที่ “เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี” เป็นแน่เลย
ตามแผนงานที่วางไว้ จะถูกจัดแบ่งไว้ซีซั่นละ 52 ตอน ตอนละ 11 นาที เมื่อผลงานตอนแรกๆ ผลิตเสร็จ ทีมงานก็จะเดินสายเสนอขายทั่วโลกในปลายปีนี้ โดยช่องทางหลักที่จะเผยแพร่เฟรนสเปซจะเป็นทางฟรีทีวี สตรีมมิ่ง และสื่ออื่น ก็หวังว่าเราจะได้ชมเฟรนสเปซในเร็ววัน
จุดเด่นอีกประการหนึ่งก็คือ เฟรนสเปซได้รวบรวมทีมงานที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์จากทั่วโลก และบูรณาการเนื้องานในหลายส่วนซึ่งเป็นจุดเด่นของแต่ละบริษัทเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อันนำไปสู่การทวีกำลังของพันธมิตรครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์วงการแอนิเมชั่นโลก
โดยแต่ละบริษัทต่างร่วมกันรับผิดชอบงานหลักที่ตนเองถนัด อาทิ T&B Media Global ซึ่งเป็นเจ้าของคอนเท้นต์จากไทย รับผิดชอบการบริหารกระบวนการผลิตเฟรนสเปซโดยรวม 
คนในวงการแอนิเมชั่นของไทยอาจรู้จัก T&B Media Global อยู่แล้ว แต่สำหรับท่านผู้อ่านนอกวงการ ผมขอเรียนว่า T&B Media Global นับเป็นบ้านแห่งความสุขที่ซึ่งความริเริ่มสร้างสรรค์และความสุขมาบรรจบกันอย่างลงตัว
หลายคนที่เคยไปเยี่ยมสำนักงานของบริษัทฯ จะพบกับสีสันและแรงบันดาลใจที่สอดแทรกไปในทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นล้อบบี้ มุมทำงาน และห้องประชุมน้อยใหญ่ รวมทั้งห้องทำงานของผู้บริหารหลากสไตล์ตามความชื่นชอบและรสนิยมของเจ้าของห้อง
ปัจจุบัน T&B Media Global ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในความเป็นผู้นำด้านความสร้างสรรค์ของผู้บริหารและทีมงานที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และเครือข่ายครบวงจรในจีนและไทย รวมทั้งการทุ่มทุนผลิตคอนเท้นต์ที่พร้อมจะสร้างความสุข และสนับสนุนโปรแกรมการพัฒนาสังคมโลกให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกแก่สภาพแวดล้อม เด็ก และมวลมนุษยชาติ
ขณะเดียวกัน ในโครงการนี้ Flying Bark Productions จากออสเตรเลีย เป็นดูแลเรื่องการผลิตร่วมกับ T&B Media Global และรับผิดชอบในการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับ Mighty Animation จากเม็กซิโก
Flying Bark Productions เป็นสตูดิโอในเครือของ Studio 100 ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการสร้างต้นแบบแห่งความบันเทิงแก่เด็ก ที่ผ่านมา บริษัทฯ สรรหาและว่าจ้างคนที่มีพรสวรรค์ของออสเตรเลียที่เก่งกาจในการสร้างภาพยนตร์ ซีรี่ย์ทางโทรทัศน์และเว็บไซ้ต์ รวมทั้งคอนเท้นต์องค์กรที่สร้างความสุขกับคนทั่วโลก 
Studio 100 Media ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองมิวนิค เยอรมนี จัดเป็นธุรกิจที่พัฒนากรอบความร่วมมือกับกิจการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านแนวดิ่งและแนวนอน โดยเป็นบริษัทลูกของ Studio 100 Group ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เบลเยี่ยม และยังเป็นบริษัทแม่ของ Flying Bark Productions อีกด้วย 
บริษัทฯ มีประสบการณ์โชกโชนและเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ ต่อยอด และจัดหา ร่วมมือทางการเงิน และจัดจำหน่ายผลงานแอนิเมชั่นที่ช่วยสร้างความบันเทิงแก่เด็กและครอบครัวทั่วโลก โดยในโครงการนี้บริษัทฯ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่กระจายผลงานในตลาดโลก ยกเว้นประเทศไทยที่ T&B Global Media จะเป็นผู้นำการขายเอง
นอกจากนี้ ยังมี Bang Zoom! Entertainment ที่เก่งในเรื่องโพสต์โปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเสียงจากแอลเอ สหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาเสริมพลังความร่วมมืออีกด้วย 
กลุ่มความร่วมมือดังกล่าวยังดึงเอาทีมงานมือระดับโลกหลายรายเข้ามารังสรรค์งานในครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่ แดน คล็าก ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์และครีเอทีฟร่วมกับออสการ์ โควาร์ ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานแอนิเมชั่นชื่อดังไว้มากมาย อาทิ Team Smithereen ของค่าย Disney และ Yo Gabba Gabba ของ Nick Jr. รวมทั้ง Tasty Tales of the Food Truckers ของ T&B Global Media
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวเฟรนสเปซดังกล่าว แดน คล็าก และออสการ์ โควาร์กล่าวไว้ว่า การผลิตแอนิเมชั่นนี้มาจากหลายแหล่ง ตั้งแต่ไทย ออสเตรเลีย เยอรมนี เม็กซิโก และสหรัฐฯ ขณะที่รูปแบบการทำงานก็อยู่บนพื้นฐานของความหลากหลายในวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์ การทำงานที่ห่างไกลกันตามสไตล์โควิด-19 การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์อย่างสร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างเพื่อนใหม่
เฟรนสเปซเป็นแอนิเมชั่นที่น่าภูมิใจมาก เพราะนอกจากจุดเด่นดังกล่าวแล้ว การดำเนินเรื่องและแนวความคิดก็แสดงถึงลักษณะพิเศษของตัวละครทั้งเด็กหญิงและชาย ตลอดจนสัตว์เลี้ยง และยังนำเอาวิทยาศาสตร์มาเป็นสื่อในการนำเสนอวัฒนธรรมร่วมสมัยของเด็กได้อย่างแท้จริงและเพลิดเพลิน
เฟรนสเปซจะเปิดโอกาสให้ผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-9 ปีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้เรียนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับจักรวาลและวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีบนพื้นฐานของความหลากหลายด้านเพศ เชื้อชาติ และสายพันธุ์
ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ที่คนในวงการรู้จักกันในนาม “ดร.แตน” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ T&B Media Global (Thailand) และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนแอนิเมชั่นอันโด่งดังอย่าง “Shelldon” กล่าวในงานแถลงข่าวดังกล่าวไว้ว่า “ทุกมิตรภาพจะเปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักกับโลกใบใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เฟรนสเปซจะให้แง่คิดดีๆ กับผู้ชมทุกคน โดยเฉพาะทำให้ผู้ชมวัยเด็กเห็นถึงความสำคัญของการมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์ที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับเรา”
บาบารา สตีเฟ่น ซีอีโอใหม่ถอดด้ามของ Flying Bark Productions ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า บริษัทฯ ดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในการผจญภัยสู่อวกาศที่แปลกตากับพันธมิตรและทีมงานของ T&B Global Media และนำไปสู่กัลยาณมิตรใหม่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตแอนิเมชั่นชวนหัวที่เต็มไปด้วยมุกตลก และสร้างโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเผชิญความท้าทายนอกโลก
ขณะที่มาร์ติน ครีกเกอร์ ซีอีโอของ Studio 100 Media สะท้อนมุมมองเกี่ยวกับเฟรนสเปซไว้ว่า เป็นการง่ายในการมีเพื่อนใหม่ที่เหมือนกับคุณ แต่ก็นับเป็นสิ่งที่ชื่นชมหากสามารถสานสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะ เอเลี่ยนเหล่านั้นอาจมีรูปลักษณ์ ขนาด และวิถีชีวิตที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง  
เครือข่ายธุรกิจที่เชี่ยวชาญรอบด้านและเป็นมืออาชีพ และทีมงานสร้างสรรค์จากทั่วโลก โดยเฉพาะแดน คล็าก และออสการ์ โควาร์ นับเป็นตราประกันคุณภาพของเฟรนสเปซได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ท่านผู้อ่านจึงไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับคุณภาพและความหลากหลายของไอเดีย และการตลาดของเฟรนสเปซ
เฟรนสเปซให้แง่มุมที่น่าสนใจในหลายส่วน ประการหนึ่ง สำหรับผู้คนโดยทั่วไป การสร้างเพื่อนใหม่ควรอยู่บนหลักการสำคัญของการเปิดกว้าง ในโลกกว้างมีหลายสิ่งที่แตกต่างจากสภาพแวดล้อมที่เราเห็นประสบอยู่ในแต่ละวัน ด้วยการปรับความคิดดังกล่าวจะให้โอกาสเราได้สำรวจแง่มุมของชีวิต วัฒนธรรม ความคิด และเพื่อนมนุษย์ที่หลากหลาย ซึ่งบุคลากรในโครงการนี้ก็ได้เรียนรู้จากชีวิตจริง
ในอีกประการหนึ่ง สำหรับเพื่อนผู้ประกอบการที่ต้องการสานสัมพันธ์กับนักธุรกิจใหม่ต่างชาติ ภาษา และวัฒนธรรมที่อาจมีบุคลิก มุมมอง และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน การเข้าใจและเคารพในความแตกต่างของสภาพปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความรู้จักและพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจในระยะยาว
ที่สำคัญ เฟรนสเปซจะผลักดันให้เด็กไทยสนใจในวิทยาศาสตร์และจักรวาลกันมากขึ้น และส่งเสริมให้เด็กไทยได้เรียนรู้และฝึกการคิดนอกกรอบ โดยที่รัฐบาลไทยกำลังพูดถึงการเดินทางเยือนดวงจันทร์ เฟรนสเปซก็อาจเป็นอีกแรงบันดาลใจหนึ่งให้เด็กไทยอยากออกไปท่องอวกาศกันในอนาคต 
ผมได้เห็นทีมงาน ดูความทุ่มเทในการสร้างสรรค์งาน อ่านเนื้อเรื่อง และชมตัวอย่างแล้วก็มั่นใจว่า เฟรนสเปซจะฟันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปได้ และทำให้ความฝันที่ผมอยากเห็นสตูดิโอไทยไปโกยเงินตราต่างประเทศเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ผมยังหวังอีกว่า เฟรนสเปซจะเป็นต้นแบบให้กิจการรายอื่นของไทยได้เรียนลัดและก้าวสู่ตลาดโลกร่วมกันในอนาคต
สำหรับท่านผู้อ่านก็ขอให้อดใจรอชมอีกไม่นาน รับรองว่าจะต้องพาลูกหลานและชักชวนเพื่อนๆ ไปเพลิดเพลินกับการท่องอวกาศในครั้งนี้อย่างแน่นอน ...