บันเทิง

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำความรู้จักกับหนุ่มฮอตมาแรงของตอนนี้  "วิน" เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร 

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก  -  เป็นหนุ่มมาแรงที้ทำเอาสาวๆ อยากจะไปควงแขนมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ “วิน” เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ดารานำจากซีรี่ส์สุดฮิต “เพราะเราคู่กัน (2 gether The Series)” ที่แสดงคู่กับหนุ่มไฟแรงอย่าง “ไบร์ท" วชิรวิชญ์”  โดยเรื่องนี้ถือเป็นผลงานชิ้นแรกของวิน แต่กับได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้วินกลายเป็นที่จับตามองอย่างมากมายในเวลานี้ ด้วยหน้าตา และโปรไฟล์ที่บอกได้คำเดียวว่าขึ้นแท่นหนุ่มในฝันของสาวๆ ไปเรียบร้อย และวันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” จะพามาเปิดใจกับหนุ่มฮอตคนนี้กัน

 

 

    @@ ดังติดเทรนด์โลก
    ตอนนี้กระแสเราดังมาก รู้สึกยังไง

    “ผมไม่รู้ว่าดังไหมอะ (ยิ้ม) ถ้าวัดจากยอดฟอลโลว์ในอินสตาแกรมตอนแรกเลยคือศูนย์ (หัวเราะ) (เดี๋ยวก่อนไกลไป) ตอนแรกก่อนที่ทีเซอร์จะออกมีประมาณ 5 พัน พอทีเซอร์ออกมาขึ้นไปประมาณหมื่นกว่า หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ขึ้นมาทีละนิดๆ จนถึงประมาณสอง-สามหมื่น ก็ขึ้นมาเรื่อย จนอีพีหนึ่งออกก็เริ่มขึ้นเยอะ พออีพีสองก็ขึ้นมาอีก คือขึ้นมาเรื่อยๆ เรียกว่าตกสัปดาห์ละประมาณแสนแปด”

 


    ตอนนี้มีแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศเยอะมากขึ้นด้วย รู้สึกยังไง
    “รู้สึกขอบคุณมากๆ เพราะเอาจริงๆ มีแฟนคลับในประเทศไทย สำหรับผมก็รู้สึกสุดยอดมากแล้ว แล้วยิ่งเห็นซีรีส์ติดเทรนด์อันดับหนึ่งทวิตเตอร์โลกและติดอันดับหนึ่งในหลายๆ ประเทศไม่ใช่แค่ในประเทศไทย มันเกินท่ี่เราคาดหวังไว้เยอะมาก รู้สึกขอบคุณแฟนๆ มากที่ชื่นชอบในตัววิน ชื่นชอบในตัวพี่ไบร์ท และในตัวซีรีส์ รวมถึงนักแสดงทุกคนในเรื่อง"

 

 

    ล่าสุดใช้เวลาไม่นานยอดคนติดตามในอินสตาแกรมทะลุล้านไปแล้ว
    “(หัวเราะ) เอาจริงๆ ตกใจมาก ตอนแรกอย่างที่ผมเขียนเลยว่ามีคนติดตามประมาณ 5 พัน พอได้เข้ามาเซ็นกับจีเอ็มเอ็มทีวี คิดว่าถ้ามีคนมาติดตามเราหนึ่งแสนก็คือเยอะมากๆ แล้ว และไม่ได้หวังเลยว่าจะมีตัวเอ็ม (M : million แปลว่า ล้าน) ในไอจีของเรา และมีเครื่องหมายการยอมรับว่าเราเป็นบุคคลที่ชื่อเสียงมาด้วย (หัวเราะ) เกินความคาดหมาย อึ้งอยู่ที่มันขึ้นมาเร็วมาก ขอบคุณแฟนๆ จริงๆ ที่ชื่นชอบในตัวเรา (ยิ้ม)”

 

 

    เหมือนวินไม่ได้คาดหวังเลย
    “คาดหวังไหมเหรอ ตอนแรกก็คาดหวัง แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะขนาดนี้ ตอนนั้นเราคิดว่าทำให้ดีที่สุดแล้วกันว่ามันจะเป็นยังไง ตอนที่ถ่ายอยู่ก็ยังคุยกับพี่ไบร์ทเลยว่ามันจะขนาดไหนว่ะ เพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปว่าก่อนหน้านี้เราเองมีได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาเยอะ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าซีรี่ย์จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ตอนนั้นเราคุยกันแล้วบอกกันแค่ว่าเรามาตั้งใจทำให้ดีที่สุดดีกว่า”

 

    การแบกรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากความคาดหวังของแฟนนิยาย
    “ใช่ อย่างที่บอกว่าตอนที่ทีเซอร์มันออกไปน่าจะดี แต่พอทีเซอร์ออกไปแล้ว แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราก็งงเหมือนกัน คือผมเป็นคนที่ไม่อ่านนิยายเลย พอกระแสตอบรับตอนทีเซอร์ปล่อยออกไปครั้งแรก ทำให้เรารู้ว่าคนอ่านนิยายเขามีความจินตนาการ และอย่างที่พี่ไบร์ทบอกว่า เราไม่อยากทำร้ายความจินตนาการของเขา เรารับฟังทุกอย่าง และก็พยายามปรับ ผมเองก็พยายามปรับเต็มที่ อะไรที่ผมทำได้ก็พยายามทำ เพื่อให้เหมือนในนิยายมากที่สุด”

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

 

 

    ย้อนกลับไปตอนที่มาเล่นเรื่องนี้เห็นว่าโดนวิจารณ์หนักอยู่
    “ตอนที่ทีเซอร์ออกไปครั้งแรกได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาเยอะ เราก็งงเหมือนกัน คือผมเป็นคนที่ไม่อ่านนิยายเลย พอกระแสตอบรับตอนทีเซอร์ปล่อยออกไปทำให้เรารู้ว่าคนอ่านนิยายเขามีจินตนาการ และอย่างที่พี่ไบร์ทบอกว่า เราไม่อยากทำร้ายจินตนาการของเขา เรารับฟังทุกอย่างและก็พยายามปรับ ผมเองก็พยายามปรับเต็มที่ อะไรที่ผมทำได้ก็พยายามทำเพื่อให้เหมือนในนิยายมากที่สุด ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าซีรีส์จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ตอนนั้นเราคุยกันกับพี่ไบร์ทแล้วบอกกันแค่ว่าเรามาตั้งใจทำให้ดีที่สุดดีกว่า”

 

 

    การปรับอะไรกับการเป็นไทน์ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับวิน
    “ผมว่าเรื่องใหญ่ที่สุดคือ ลดความอ้วน ผมเป็นคนชอบกินมากๆ ... (เสียงสองมาเลย) เป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่ยอม เป็นสิ่งที่เดียวที่ผมจะไม่ยอม ไม่ว่าใครจะห้ามอะไร เรื่องกินคือไม่ได้ (หัวเราะ) จนมาเรื่องนี้ ก็ตั้งสติ ถึงขั้นตั้งสติบอกกับตัวเองว่าเอาหน่อยว่ะ ถือเป็นความท้าทายตัวเอง ว่าจะทำได้เปล่าว่ะ เพราะตลอดชีวิตกินแบบไม่ยั้งอะไรเลย”

 

 

    ตอนแรกที่เขาบอกว่า “วินต้องลดความอ้วน” ได้ยินประโยคนี้ปฏิกิริยาเราเป็นยังไง
    “ตอนนั้นคิดในใจว่า อื้อ เดี๋ยวกันเหมือนเดิม แล้วออกกำลังกายเพิ่มแล้วกัน คิดแค่นั้นเลย เดี๋ยวออกกำลังกายเพิ่ม ผมไม่ยอมแน่นอนเรื่องการกิน จะต้องกินเหมือนเดิม จนแบบมันไม่ทัน (หัวเราะ) คือซีรี่ส์จะถ่ายแล้วไง มันไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลย แล้วพอออกกล้องคือมันยังใหญ่อยู่ ใหญ่กว่าพี่ไบร์ทอีก แล้วคิดว่ามันไม่ทันแล้ว เลยตัดสิน เอาว่ะ ลดกิน กินวันละ 2 มื้อ ภายใน 8 ชั่วโมง ทำตามสูตร กิน 8 ลด 16 บางวันก็กิน 6 ลด 18 กินแต่อาหารคลีน แล้วกินน้อยมาก ตอนนั้นน้ำหนักก็ลงไป”

 

 

    ชีวิตตอนนั้นเป็นยังไง เพราะจากคนที่มีความสุขกับการกินมากๆ
    “มันก็พยายามหาความสุขด้านอื่น (หัวเราะ) ก็พยายามหาอย่างอื่นทำ อย่างเวลาต้องไปฟิตเนส ก็ไปกับเพื่อน พยายามดึงเพื่อนเข้ามา ให้มันอยู่ในรูทีนเดียวกับเรา กินเหมือนเรา พยายามชวนให้มาลดความอ้วนกันเถอะ (หัวเราะ) พอมีเพื่อนมันก็ไปได้ หาพวกมาด้วย เพราะเพื่อนเองก็ชอบกินเหมือนกัน ก็ชวนบอกเพื่อนว่า เมิงๆ ลองสักครั้งดูว่าจะทำได้ไหม ก็ชวนกันออกกำลังกาย”

 

    ตอนนั้นลดไปเยอะแค่ไหน
    “ก็ 10 กิโลกรัม ในเวลาเดือนกว่า จริงๆ พี่ๆ ทีมงานก็ไม่ได้บังคับนะว่าเราต้องหนักเท่าไหร่ เราดูจากตัวเราเองเลย เพราะตอนที่ทีเซอร์ออกไป ผมก็พยายามลดแล้ว แต่ก็ยังใหญ่กว่าพี่ไบร์ทอยู่ แต่ในเรื่องคือไทน์จะต้องผอม บาง สูง โปร่ง เราเลยต้องลดกว่านี้ ตอนนั้นคือมีวินัยเรื่องนี้เยอะมาก คือเป๊ะมากที่สุดที่เคยทำมาในชีวิต คือเวลานี้ผมไม่กินก็คือไม่กินเลย เลยเวลานี้ห้ามกิน กินได้แต่น้ำเปล่า ก็คือกินได้แต่น้ำเปล่าจริงๆ ตอนนั้นจะบอกว่าผมไม่ไหว ถึงขนาดที่ว่า ผมกินยานอนหลับ เพื่อจะให้หลับ พอตื่นมาจะได้กิน (หัวเราะ) ขนาดนั้นเลยอ่ะ คือหิวมาก ตอนนั้นคือมันทรมานมาก และมันไม่ไหว แต่มันต้องเป็นระเบียบไง เลยกินยานอนหลับเข้าไปเลย ตื่นมาจะได้ถึงเวลาจะได้กินข้าว เอาให้ได้ แต่พอทำได้ก็ดีใจ”

 

    พอทำได้อย่างที่ต้องการแล้ว พอหลังจากนั้นคือยังคุมน้ำหนัก
    “ยังต้องคุม แต่ไม่ได้เป๊ะเท่าตอนนั้นแล้ว ช่วงนี้ก็กินไปเลย มันเริ่มไม่ไหวแล้ว มันอัดอั้นมานานแล้ว (หัวเราะ) ก็ขอซะหน่อย แต่ก็กินอาจจะไม่ได้กินมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ว่าไม่ได้แบบเมื่อก่อนที่ว่าหิวก็กิน ก็พยายามกินเป็นเวลามากขึ้น”

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

 

 

    @@ รู้จักความเป็น“วิน”
    ตัวตนวินเป็นแบบไหน

    “เป็นคนร่าเริง เป็นคนแฮปปี้ สดใส แต่ว่าเป็นคนคิดเยอะ คิดมาก ข้างนอกไม่ได้แสดงออก รู้สึกอะไรบางทีก็เก็บไว้ ร่าเริงไว้ก่อน”

 


    อย่างเวลาคิดมาก หรือเจออะไรที่แย่ๆ มาจัดการยังไง
    “คุยกับเพื่อน คุยกับที่บ้าน คุยกับพ่อแม่”
    ตั้งรับยังไงกับการมาอยู่ตรงนี้ ที่อาจจะเจอเรื่องราวทั้งดีและไม่ดี
    “พยายามไม่คิดเลย (หัวเราะ) คือสมมติเราไปเจออะไรที่มันอาจจะหมายถึงเราในทางที่ไม่ดี เราก็ต้องดูก่อนว่าสิ่งนั้นมันจริงไหม เราเห็นด้วยไหม ซึ่งถ้ามันเป็นการติติงตัวเราที่มันจริง แล้วเราสามารถปรับได้ เราก็จะทำเพื่อให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น แต่อันไหนที่มันไม่จริง หรือเป็นสิ่งที่เราปรับไม่ได้ และมันเหนือการควบคุมของเรา เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องปล่อยไป”

 

 

    ปรับตัวมากไหมกับการมาอยู่งตรงนี้
    “มันก็ต้องปล่อยว่างอะไรหลายๆ อย่างมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ใครจะมาสนใจ เราทำอะไรถ้าไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร ก็ไม่มีผลกระทบกับใคร แต่พอมาตอนนี้ เรามาอยู่ตรงกลาง มีคนรู้จักเรา เห็นเรามากขึ้น มีคนมองมาที่เราในมุมที่มีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไป เราจะไปควบคุมให้ทุกคนมองเราและคิดเหมือนกันทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ต้องยอมรับกับการมองมาในความคิดเห็นของแต่ละคน จะให้ทุกคนที่มองมา แล้วชอบเราทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ แค่ว่าเราทำตัวเราให้เป็นตัวเรา แบบที่มีความรับผิดชอบต่อการมองของแต่ละคนมากกว่า”

 

 

    รับมือการถูกจับตามองชีวิตส่วนตัวยังไง
    “ผมไม่ได้สร้าง ไม่ได้มโนชีวิตตัวเองขึ้นมา ผมก็เป็นของผม เป็นธรรมชาติแบบนี้อยู่ตลอด ผมไม่ได้โกหกอะไรขึ้นมา วันใดวันหนึ่งหากเราโกหกชีวิตตัวเอง ยังไงมันก็รู้อยู่ดี ผมเองก็ใช้ชีวิตปกติธรรมชาติ ใครจะมองมาอย่างไง มันเป็นสิทธิของแต่ละคนอยู่แล้ว”

 

    มีน้อยใจกระแสไบร์ทอาจจะแรงกว่า
    “ไม่น้อยใจครับ พี่เขาหล่อ (ยิ้มมองหน้าไปหาไบร์ท) (อวยพี่เก่ง) ผมรู้สึกว่าผมมีโอกาสมาขนาดนี้มันก็เกินความคาดหวังแล้ว ไม่เคยคิดว่าใครจะมาดังกว่ากัน เราตั้งใจทำงานของเราด้วยกันทั้งคู่ วันนี้เราสองคนมีคนรู้จักมากขึ้น แค่นั้นพอแล้ว มันโอเคแล้ว”

 

    แต่เราดูจะดีใจออกนอกหน้าเวลามีคนมากรี๊ดมาชื่นชอบไบร์ทนะ
    “ดีใจกับเขาจริงๆ คือเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เราสองคนไม่มีใครรู้จักเลย เดินเข้ามาที่ตึกด้วยกัน ไม่มีใครทัก แต่เราอยู่ด้วยกัน ผมเห็นว่าเขาตั้งใจมากขนาดไหน เวลาไปไหนมาไหนกันแล้วเห็นมีคนมาชอบเขา มากรี๊ดเขา ยอดฟอลโลเขาทะลุล้าน นี่จะทะลุสองล้านแล้วมั้ง (หัวเราะ) เราก็ดีใจที่เห็นมีคนรักพี่เขาเพิ่มขึ้น เห็นเขามีคนที่คอยให้กำลังใจ คอยห่วงใย เราก็ดีใจกับเขา ไม่ได้รู้สึกว่าเขาดังกว่าเรา มีคนสนใจมากกว่าเรา ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย เพราะสำหรับผมพี่ไบร์ทก็ยังเป็นคนเดิมที่ผมเจอในวันแรก ยังเป็นพี่ที่่น่ารักที่คอยดูแลผมตลอด”

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

 

    มองก้าวต่อไปในตรงยังไงบ้าง
    “ก้าวต่อไปจะพัฒนาตัวเอง และทำมันออกมาให้ดีที่สุด เท่าที่เราทำได้ และเราจะเต็มที่กับงานทุกงาน เพื่อที่จะมีผลงานดีๆ ออกมา ถือเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่เขาให้การสนับสนุนเรา การที่เขามาชื่นชอบเรา ก็เขาหวังที่จะให้เราเติบโตในตรงนี้ และมีผลงานดีๆ ออกมาให้เขาได้ชื่นชม วินก็มีหน้าที่มอบตรงนั้นให้กับเขา”

 

 

    คนบอกว่า “วิน” เป็นลูกคุณหนู
    “จริงๆ ผมใช้ชีวิตปกติ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป กินได้ทุกอย่าง อยู่ตรงไหนที่ไหนก็ได้ อาจจะเพราะด้วยข้าวของ ด้วยนามสกุล ทำให้หลายคนมองว่าผมเป็นลูกคุณหนู แต่ความจริงด้วยนิสัยส่วนตัวผมอยู่ได้สบายที่ไหนก็ได้ ยิ่งถ้าคนมาเห็นผมในการกินด้วยแล้วจะไม่มีใครบอกเลยว่าผมเป็นลูกคุณหนู ผมกินได้หมด ของข้างทาง นั่งกินกับพื้นผมหรืออะไรยั ผมกินได้หมด ผมเองเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนู หรือสูงส่งไปกว่าใคร ผมว่าผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนกับทุกคน”

 

 

     ลองนิยามความเป็นวิน 3 ข้อ
    “ข้อแรกคงเป็นรอยยิ้ม ด้วยความที่ผมเป็นคนอารมณ์ดี ผมขำง่ายๆ อะไรนิดหน่อยผมก็ขำแล้ว และผมรูัสึกว่าถ้าตัวผมเองมีความรู้สึก ก็จะทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย ข้อสองคือการไม่หยุดฝัน ผมคือไม่ได้คาดหวัง แต่ผมแค่ทำให้ดีที่สุด ข้อสุดท้าย ความใส่ใจ ผมรู้สึกว่าเวลาผมทำอะไร ผมจะคิดถึงคนอื่นด้วย เวลาอยู่กับคนนั้นคนนี้ผมจะแคร์ความรู้สึกคนๆ นั้นว่าเขารู้สึกยังไง ถ้าเราทำแบบนี้ ผมจะพยายามทำอะไรก็ได้ที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น และไม่เป็นทุกข์กับตัวเอง และมีความสุขทั้งกับตัวเราและคนอื่น” 

 

 

    @@ ความรักของหนุ่มในฝัน
    มุมมองความรักของวินเป็นแบบไหน

    “มุมมองความรักของผมไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นแบบไหนกับคนที่เป็นแบบไหน ผมแค่รู้สึกว่าเป็นใครก็ได้ที่อยู่กับเราแล้วมีความสุขด้วยกัน คิดอะไรเหมือนๆ กัน ก็เท่านั้น”

 


    ถ้าให้นิยามของคำว่า “เพราะเราคู่กัน” สำหรับ “วิน” คืออะไร
    “สำหรับผมการที่จะเป็น “คู่กัน” หรือการที่ผมจะมีความรักกับใครสักคน ผมอยากจะรู้สึกมีความสุขที่มีเขา และสุขมากขึ้นๆ ในทุกๆ วันที่มีกันและกัน หรือถ้าจะมีความเศร้าก็เศร้าไปด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็แชร์กัน ดูแลเอาใจใส่กัน อยู่คู่กันแล้วทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นไปเรื่อยๆ"
    โสดไหม
    “ตอนนี้ผมยังไม่มีแฟนครับ (ยิ้ม)”


    อะ... น่ารักขนาดนี้ ถึงว่าใครๆ ก็ตกหลุมรัก “วิน” 

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

 

 

 

เปิดวาร์ปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรัก 'วิน-เมธวิน'

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ