บันเทิง

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

10 ปีที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "มิกค์ ทองระย้า" ซาบซึ้งในทุกความสำเร็จ

         ทีมบันเทิง คมชัดลึก - กำลังสนุกเข้มข้นและโกยเรตติ้งเป็นกอบกำสำหรับละครเรื่อง “สะใภ้อิมพอร์ต” ที่พระเอกรูปหล่อ "มิกค์ ทองระย้า" ประกบคู่ครั้งแรกกับ “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี ของค่าย "พอดีคำ"  และเพราะกระแสความแรงนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" เลยขอพาทุกคนไปพูดคุยกับพระเอกหนุ่มขึ้นหม้อคนนี้กันซะหน่อย เพราะไม่ใช่แค่งานรุ่ง แต่เรื่องราวหัวใจของหนุ่มมิกค์กับนางเอกคนรู้ใจ “โบว์” เมลดา สุศรี ก็เริดมากไม่แพ้กัน 

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

 

***ละครมาแรง ***

@@ ละครเรื่อง “สะใภ้อิมพอร์ต”  กำลังโกยเรตติ้งเลย

             เรตติ้งก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับละครเรื่อง “สะใภ้อิมพอร์ต” คนดูชอบเราก็ดีใจ ยิ่งเรตติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้เราก็ดีใจ  เรื่องนี้ผมได้เล่นกับ “มิน” พีชญา เป็นครั้งแรก พี่มินน่ารักมาก ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกพี่มินเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ในส่วนของการแสดงก็ทำการบ้านมาดีมาก คือในทุกคิวเรารู้เลยว่าพี่มินทำการบ้านมาดีมากๆ และเวลากินข้าวเสร็จพี่มินต้องกินวิตามินเป็นกำ ผมก็บอกพี่มินตั้งแต่แรกเลยว่าเราคนละสายกัน (หัวเราะ) คือผมเป็นคนกินทุกอย่างแต่ไม่ได้กินวิตามินเยอะขนาดนั้น ก็ออกกำลังกายเอา

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

(มิกค์ - มิน)

 

@@ หลายคนจับตามองว่าเป็นละครเรื่องสุดท้ายของค่าย “พอดีคำ” กับทางช่อง 7 ด้วย

             เรื่องนี้ผมมองว่ามันเป็นการทำงานคนละฝ่าย ในส่วนตัวเราเราเล่นละครกับโพลีพลัสมาเยอะมาก เรียกว่าเป็นอีกครอบครัวหนึ่งของเราก็ว่าได้ ก็ยังเป็นครอบครัวเหมือนเดิม เพียงแต่ตื่นเช้ามาเราทำงานอย่างหนึ่ง เขาทำงานอย่างหนึ่ง ก็แค่นั้นเอง และถ้าวันหนึ่งมาเจอกันเราก็ทำงานร่วมกันเหมือนเดิม (เสียดายไหมพี่ธงไปละ) ก็คงคิดถึงเพราะว่าทำงานกันมาค่อนข้างนานพอสมควร คือเราก็มีงานกันคนละทางเจอกันก็ทำงานร่วมกันเหมือนเดิม

@@ แต่มิกค์มาแรงมากเพราะละครเรื่องถัดไป “จากศัตรูสู่หัวใจ” ประกบตัวแม่อย่าง “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ 

             ก็เล่นกับพี่อั้ม “จากศัตรูสู่หัวใจ” เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องทำการบ้านเยอะพอสมควร พี่อั้มก็น่ารักเหมือนกัน ช่วงแรกก็เกร็งมากเพราะตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับพี่อั้ม และพี่อั้มก็เล่นเก่ง เป๊ะทุกอย่าง สวยมาก ดูแลตัวเองดีมาก เราก็เลยมีความเกร็งนิดหนึ่ง คิดตลอดว่าต้องทำยังไงดี พอมาเจอจริงๆ พี่อั้มเป็นคนน่ารักมาก พี่อั้มกลับเป็นคนเข้าหาเรา ชวนเราคุยให้เรารู้สึกผ่อนคลายเพื่อที่เราจะทำงานกันได้ง่ายขึ้น ก็เลยทำให้เราหายตื่นเต้นไปเยอะ เล่นเรื่องนี้ผมทำการบ้านเยอะมากเลย หลังๆ ก็ยังทำเยอะอยู่แต่เราจะผ่อนคลายมากขึ้น เรื่องนี้ผมรู้ว่าคนรอดูเยอะมาก แต่เราไม่ได้กดดันว่ามันจะออกมาเรตติ้งดีไหม คนจะชอบมากแค่ไหน แต่เราจะกดดันตัวเองว่าเราจะทำได้ดีมากแค่ไหนมากกว่า

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

(มิกค์-อั้ม)

 

 

@@ มีละครต่อเนื่อง

             อีกเรื่องหนึ่งคือ “ทะเลลวง” ของมีเดียซีน  เล่นกันพี่แซมมี่ คือผมเพิ่งจะเคยร่วมงานกับมีเดียซีนครั้งแรกก็เหมือนทุกครั้งที่เราเจอค่ายใหม่ เจอคนใหม่ เราก็ต้อง ทำตัวให้เป็นเด็กใหม่เหมือนกัน คือไปทำความรู้จัก ไปซึมซับ ไปรับอะไรใหม่ๆ มันก็จะทำให้เราเข้ากับทุกคนได้ดีขึ้น ส่วนผู้กำกับไม่มั่นใจว่าใช่พี่ชู (บุญธร กิติพัฒฑากรณ์) หรือเปล่า คือผมก็ไม่เคยร่วมงานกับพี่ชู แต่อาจจะเคยไปแวบๆ ตอนเล่นเรื่องพริกกะเกลือ แต่ก็ผ่านมา 9 ปีแล้ว ซึ่งนานมาก เรื่องทะเลลวง ค่อนข้างดราม่า และเป็นครั้งแรกที่ได้ประกบคู่พี่แซมด้วย ที่ผ่านมาเคยเล่นเรื่องภารกิจรัก เป็นเรื่องเดียวกันแต่ไม่ได้เจอกัน ก็ได้คุยกับพี่แซมบ้างแล้ว พี่แซมก็รอเต็มที่  

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

(มิกค์-แซมมี่)

 

@@ เป็นพระเอกลูกรักนะเนี่ย

             ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสมากกว่าครับ ผมสัญญาว่าจะทำทุกโอกาสที่ได้รับอย่างดีที่สุด เต็มที่ที่สุด ผมไม่เคยมองว่าเป็นลูกรัก มีงานต่อเนื่อง หรืออะไร เพราะผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ให้โอกาสทุกคนเท่ากัน แต่ตัวเราเองมากกว่าที่จะทำโอกาสที่ได้รับมาอย่างไง ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสแต่เราไม่คว้าไว้ ไม่ใส่ใจในโอกาสนั้น มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

*** หนึ่งทศวรรษในวงการ ***

@@ อยู่วงการบันเทิงมา 10 ปี เป็นยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อย

         วงการนี้สอนผมหลายอย่างมาก อย่างแรกเลยคือเรื่องการดูแลตัวเองที่ต้องทำความเข้าใจมากขึ้นตั้งแต่แรกเลย ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น บางทีเรามาจากเด็กผู้ชายที่เล่นกีฬาทำให้ไม่ค่อยดูแลตัวเอง มาจุดนี้เราก็ต้องดูแลตัวเอง ทำให้งานออกมาดี เพื่อที่คนรอบข้างเรา คนที่เขาดูละครเรา พอมาเห็นตัวจริงเขาจะได้รู้สึกดีที่ได้เห็นตัวจริงด้วย ก็ต้องฟิตร่างกายดูแลผิวพรรณดูแลหน้า ผมออกกำลังกายไม่ค่อยเป็นเวลาสักเท่าไหร่ ช่วงไหนถ่ายละครเยอะๆ ก็ต้องเทเวลาให้ละครเยอะหน่อย คือพอถ่ายละครเยอะๆ ก็จะนอนน้อยก็ต้องพักผ่อนก่อน พอว่างปุ๊บผมก็จะนอน เราต้องนอนให้เต็มที่ พอปิดกล้องมีเวลาเราก็กลับมาฟิตร่างกายเหมือนเดิม 

@@ การทำงานตรงนี้เหนื่อยไหม อาชีพที่ไม่มีเวลาแน่นอน 

         ผมว่าเป็นการเหนื่อยจากการทำงานในบางครั้งมากกว่า อย่างเวลาละครเราถ่ายไปออนไป มันมีเรื่องของเวลามาเป็นตัวบีบให้เราต้องเร่งหน่อย แต่ผมว่าสนุกดีนะ (ยิ้ม) เพราะเราชอบการแสดง ชอบการเป็นนักแสดง พอไปเจอแต่ละซีนแต่ละเรื่อง ก็จะมีจุดๆ หนึ่งที่เราต้องทำให้ได้แบบนี้ ถ้าเราทำได้ก็จะเป็นอะไรที่เราซักเซตตัวเรา เป็นอะไรที่เราทำแล้วสนุก พอเป็นอะไรที่เราไม่เคยเล่นแล้วเราเล่นได้ก็กลายเป็นเรื่องสนุก เราชอบและมีความสุขไปกับมัน พออยู่หน้างานมันจะหายเหนื่อย มาเหนื่อยอีกทีตอนกลับบ้านนอน

@@ มีบทบาทไหนที่ยังอยากเล่นแต่ยังไม่ได้เล่นบ้าง

         ค่อนข้างน้อย แต่ที่ห่างหายไปนานก็น่าจะเป็นบทมาเฟียนิ่งๆ เท่ๆ พูดน้อยๆ คือบทแบบนี้จะหายไปเลย ถามว่าจะได้กลับมาเล่นอีกไหม ก็ไม่ทราบเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมว่ามันแล้วแต่เวลา แล้วแต่โอกาสและบทที่มันจะมา เพราะแต่ละเรื่องเป็นอะไรที่แตกต่างกันอยู่แล้วอยู่ที่ว่าเราจะจับจุดไหนที่ทำให้มันแตกต่างเท่านั้นเอง คนจะถามว่าลิมิตของการแสดงแต่ละบทของผมอยู่ตรงไหน จริงๆ ผมไม่ค่อยมีลิมิตในการแสดงนะ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องของการเล่นบู๊ ในฉากที่อันตรายมากๆ อาจจะต้องให้พี่สตันท์ช่วย อย่างฉากกระโดดลงมาจากตึก 4 ชั้น คือผมเคยเจอนะ คือผู้กำกับเขาก็รู้ว่าลิมิตเราได้แค่ไหน เขาก็ช่วย ไม่อย่างนั้นหากเราขาหักปุ๊บเขาก็ต้องเบรกละครของเขาเพราะผมต้องไปเข้าเฝือก มันกระทบหลายฝ่าย หลายคนด้วย คนชอบถามว่าทำไมไม่เล่นฉากนี้เองไม่เล่นฉากนั้นเอง จริงๆ มันมีองค์ประกอบหลายอย่างและก็กระทบหลายคนด้วย

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

 

@@ ทำงานหนักขนาดนี้แบ่งเวลาให้ครอบครัวยังไง

         ผมจะละเอียดอ่อนเรื่องของวันพิเศษ อย่างวันพิเศษๆ ก็จะพาคุณแม่ไปกินข้าว ล่าสุดว่างที่กองเกิดเอ็กซิเดนท์ก็มีการยกกองพอเรารู้เราก็กลับบ้านเลย พาคุณแม่ไปกินข้าว ตัวผมเองอาจจะไม่เคยถามท่านว่าห่วงเราตรงไหน แต่ก็มีรายการถามท่านก็จะบอกว่าห่วงเรื่องการเดินทาง เพราะถ่ายละครก็ต้องขับรถ แต่ช่วงนี้ให้น้องช่วยขับแล้วก็ดีขึ้น เราได้พักผ่อนมากขึ้น ไปงานอีเวนท์บางครั้งเราก็ต้องขึ้นเครื่องบิน แม่ก็จะห่วงเรื่องการเดินทาง เมื่อก่อนผมขับรถเอง แต่ตอนนี้ไม่ได้ขับ เมื่อก่อนก็ยังงงว่าขับไปได้ยังไง ตอนนี้มานั่งนึกๆ ก็ตลกตัวเองว่าขับไปได้ยังไง คือมันก็เหนื่อยเท่ากันแหละ แต่เมื่อก่อนถ้าไม่ไหวผมก็จะจอดแวะปั๊มนอน อย่างนอนเที่ยงคืนก็จะตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 กลับบ้าน อาบน้ำขับรถไปถ่ายละครต่อ (หัวเราะ)

@@ แปลว่าจริงๆ ชีวิตพระเอกก็ไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนคิด

         สมัยก่อนเราคิดว่าถ้าเป็นดาราเราต้องสบาย เพราะเราเห็นในทีวีมันเห่ ดูดี พอมาทำงานจริงๆ พอมีคนบอกผมว่าอยากฝากลูกฝากหลานมาถ่ายละครบ้าง ผมบอกหลายๆ คนว่าถ้าเขาชอบจริงๆ อยากให้มา มาแล้วดี แต่ถ้าเขารู้สึกครึ่งๆ กลางๆ ก็มาลองก่อนเพราะค่อนข้างเหนื่อย ต้องตื่นเช้า ต้องไปกอง กลับดึก พักผ่อนน้อย กินข้าวไม่เป็นเวลาก็ต้องให้เขาลองก่อน ส่วนใหญ่ก็มีเชื่อบ้างหลายคนก็ต้องลอง ส่วนลองแล้วเป็นไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หลายคนก็ชอบ

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

 

@@ มีความสุขกับการยืนหนึ่งในตรงนี้

         สำหรับผมคิดว่าสนุกดีนะ เวลาเราถ่ายละครเหนื่อยๆ เราก็อยากมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องความสุข ไม่ว่าจะถ่ายละครก็ดี เสร็จจากงานออกมาข้างนอกก็มีความสุข ยิ้มกับมัน และเฮฮา ก็ทำให้เราหายเหนื่อย ผมเป็นคนที่ค่อนข้างสบายๆ ไม่ค่อยคิดอะไรมาก งานในวงการสำหรับผมโอเคเลย

@@ มองอนาคตไหมว่าจะอยู่ในวงการอีกนานแค่ไหน

         หลายคนอาจจะมองว่าการทำงานในวงการค่อนข้างมีเวลาจำกัด ไม่ยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าก็เป็นความจริงที่ว่ามันจะมีเวลาของมัน แต่ผมเป็นคนที่ไม่มองอะไรไกลมาก ผมจะมองแค่สิงที่เราทำ เราต้องทำให้ดี คือถ้ามี 10 ก้าว ผมจะมองแค่ 5 ก้าว ถ้าเราก้าวข้ามสิ่งตั้งไว้ได้มันคือความสำเร็จที่มากกว่าที่เราตั้งไว้ คือเรามองน้อยๆ แล้วค่อยๆ ก้าวผ่านไป เราก็จะมีความสุข แต่ละปีมันผ่านไปเร็วมาก นี่ก็ผ่านไป 10 ปีละ แต่ก่อนเข้ากองก็มีคนเรียกเราเป็นน้องมิกค์ๆ ส่วนตอนนี้เขาก็เรียกเราเป็นพี่มิกค์ๆ (ยิ้ม) เราก็เลยรู้สึกว่าเวลาในวงการมันผ่านไปค่อนข้างไวพอสมควร แต่เราคิดอยู่ว่าเรายังเด็ก เรายังทำงานได้อีกเยอะ

@@ รู้สึกอย่างไรบ้างที่มีเด็กใหม่เข้ามาทำให้เราต้องพยายามมากขึ้น

         คือผมชอบมากเลย คือเราเคยเป็นน้องๆ มาก่อน เราจะรู้ว่าน้องๆ เป็นอย่างไร และผมเคยร่วมงานกับเฮียเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารส) มา ผมชอบเขามาก เพราะพี่เวียร์เป็นคนที่เวลาเจอน้องๆ นักแสดงใหม่ๆ มาเล่นด้วยกัน พี่เวียร์จะเป็นคนที่ก้าวถอยหลังแล้วให้น้องๆ ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งเราจะรู้สึกเลยว่าอันนี้ดีให้น้องเล่นเลยครับ ช่วยกัน ผมเจอมาก็เลยทำให้มีภาพในหัวว่าวันหนึ่งถ้าเราโตขึ้นเราจะเป็นพี่อย่างไรให้น่ารัก เราจะเป็นแบบพี่เขา คือถ้ามีซีนดีๆ ก็พร้อมจะดันน้อง ถ้าน้องกลัวเราก็ก้าวไปด้วยกันก็ได้ ก็จะช่วยน้องๆ ที่เข้ามา คือถ้าเราช่วยกันน้องๆ ก็จะคิดเหมือนผมว่าเจอเรื่องดีๆ แบบนี้เขาก็จะไปทำต่อ 

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

(มิกค์ - โบว์)

 

***จากคู่จิ้นสู่คู่จริง***

@@ ขยับสถานะจากคู่จิ้นกับ “โบว์” เมลดา มาเป็นคู่จริงแล้ว 

         อย่างที่บอกว่าค่อยๆ ไป น้องก็ไม่ได้รีบ เราก็ไม่รีบเพราะคิวงานก็ยังแน่นขนาดนี้ น้องก็คิวแน่น ก็ให้กำลังใจกันไป ตอนนี้ยังไม่ใช้สถานะอะไร ให้กำลังใจกันไปก่อน เป็นคนที่สนิทมากๆ จริงๆ ผมสนิทกับหลายคนนะ แต่สนิทกว่าคนอื่นหน่อยนึง

@@ สเปกสาวเปลี่ยนไปไหมพอมาเจอโบว์

         (หัวเราะ) เอาเป็นว่าผมชอบคนสบายๆ ไม่ชอบคนโกหก ผมยาวก็ได้ไม่ยาวก็ได้ ผิวขาวขี้เล่นหน่อยก็ดี (พูดขนาดนี้ใช่แล้วล่ะ) ถามว่าน้องใช่ไหมก็ต้องแล้วแต่อนาคต (ยิ้ม) 

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

 

@@ ถูกจับตามองเยอะ

         ผมไม่อึดอัดนะ ขอเปลี่ยนจากอึดอัดเป็นขอบคุณดีกว่า ขอบคุณแฟนๆ ละครที่เขาดูแล้วอินไปกับเรา ที่เราเล่นคู่กันแล้วเขาชอบและเชียร์ ให้กำลังใจเรามันเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้มีคนเชียร์เรามากขึ้น (หลายคนอยากให้คู่จิ้นเป็นคู่จริงๆ) เยอะครับ ก็ขอบคุณที่เขาชอบเราด้วย

@@ สองครอบครัวดูเข้ากันได้ดี

         ในกองละครผมก็เจอแม่น้องอยู่แล้ว น้องเคยเจอแม่ผมในงานช่อง คือคุณแม่ผมก็ยิ้มแย้มกับทุกคนครับ ตามใจลูก ลูกชอบใครแม่ก็ชอบคนนั้น พอคนจับตามองเรื่องความรักเราไม่อึดอัดก็สบายๆ เราไม่มีอะไรต้องหลบมีอะไรก็บอก ถามว่าผมเปิดเผยเรื่องนี้ได้แค่ไหน ผมว่าขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง ขึ้นอยู่กับตัวเรา ขึ้นอยู่กับตัวน้อง ขึ้นอยู่กับงาน อยู่ขึ้นอยู่กับอะไรหลายๆ อย่าง และเราก็ไม่มีความลับที่บอกไม่ได้ 

         นี่แหละตัวตน...พระเอกที่หลายคนหลงรัก 

เรื่อง : เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล

ภาพ : กอบภัค พรหมเรขา

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

 

 

 

ความสำเร็จในวันนี้ของ 'มิกค์ ทองระย้า'

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ