สายกวี "ปรีชา ปัดภัย" เจ้าพ่ออินดี้โขงเจียม

 

 

          เมื่อเร็วๆ นี้ “ปรีชา ปัดภัย” ต้นฉบับเพลงดัง “กอดเสาเถียง” ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งเตือนภัย แก๊งลิขสิทธิ์เถื่อนแอบอ้างไปเก็บลิขสิทธิ์นักร้องที่นำเพลงกอดเสาเถียงไปร้องตามงานต่างๆ ซึ่งตัวเขาและต้นสังกัดเซิ้งมิวสิค ยืนยันว่า ไม่มีการเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้แต่อย่างใด 

 

 

          นาทีนี้ คณะกอดเสาเถียงของ ปรีชา ปัดภัย เดินสายพบแฟนเพลงแทบทุกคืน จาก “คนเบื้องหลัง” แต่งเพลงป้อนนักร้องอินดี้อีสานจนโด่งดัง ก็ถึงวันที่เขาก้าวออกมาอยู่หน้าเวทีในฐานะนักร้อง

 

 

 

ปรีชา ปัดภัย

 

          “มากะเมาพอตาย ยังเห็นแต่ภาพเก่าๆ กูคิดฮอดเขา โอ โอ้ย มันเจ็บพอปานสิใจขาด พัดไปกับสายลมส่า ลิ่วหลุดไปคือว่าว ที่เอาคืนบ่ได้ ห่ายเหล้าเข้าปาก สะมั๊กจนน้ำตาไหล ฮ้องเอิ้นใส่เสียง มาเด้อ ขวัญเอย โอมาเด้อขวัญเอย..”

          ในยูทูบเพลงกอดเสาเถียง ใกล้แตะ 250 ล้านวิว สำหรับซิงเกิลแรกของนักแต่งเพลงมือทองสายอินดี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด

          “ติ๊ก” ปรีชา ปัดภัย นักแต่งเพลงรุ่นใหม่จาก อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มีเอกลักษณ์ในเรื่องของการเลือกใช้คำ ใช้ภาษาอีสานง่ายๆ แต่งดงาม รวมไปถึงท่วงทำนองผสมผสาน ที่ตอบโจทย์ตลาดเพลงอีสานอินดี้

 

 

 

          หนุ่มโขงเจียมก็เหมือนหนุ่มอีสาน ผู้มีความใฝ่ฝัน อยากจะเป็นนักร้องและนักแต่งเพลง จึงเริ่มเล่นดนตรีตามผับ ร้านอาหาร และเขียนเพลงไปด้วย

          การที่ได้เข้าไปเป็นนักร้องในผับ อยู่กับเพลงดังๆ ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง เพลงไหนดีจะอยู่ในหัวตลอดเวลา นี่คือต้นทุนของติ๊กในการเขียนเพลง อยู่ที่เขาจะหยิบจับ มองเห็นอะไรจากเพลงดังเพลงนั้น มาปรับใช้ในงานของเขา

          วันหนึ่ง “ติ๊ก ปรีชา” ได้ฟังเพลงดัง “เมื่อไหร่จะพอ“ ของเดือนเพ็ญ อำนวยพร จึงรู้ว่า สมชาย ตรุพิมาย เป็นผู้แต่ง และได้เข้าไปเรียนคอร์ส ”เขียนเพลงให้ขายได้ เขียนชีวิตให้ไปโลด” ของสมชาย ตรุพิมาย รุ่นที่ 4 อุบลราชธานี จึงได้ความรู้และวิธีคิดมาปรับปรุงใช้ในการเขียนเพลง

 

 

          เพลงสร้างชื่อให้ปรีชาอย่างมากคือ เพลง “ระเบิดเวลา” ร้องโดย ศาล สานศิลป์ ซึ่งเวลานี้ ยอดวิวกำลังทะยานเข้าสู่ 300 ล้านวิว

          12 ปี บนเส้นทางนักแต่งเพลงอินดี้อีสาน “ติ๊ก ปรีชา” เขียนเพลงดังให้นักร้องหลายค่าย อย่าง ศาล สานศิลป์, บอย พนมไพร, กวาง จิรพรรณ, ลำเพลิน วงศกร และออย แสงศิลป์ แม้แต่ “ต่าย อรทัย” นักร้องดังสังกัดค่ายแกรมมี่ ยังมีผลงานซิงเกิลใหม่ “สัญญาณอันตราย” จากปลายปากกาของติ๊ก ปรีชา

          เคล็ดลับของการจะเป็นนักแต่งเพลงของปรีชา ปัดภัย คือ ต้องฟังเพลงเยอะๆ มีเวลาฟังเพลงให้มาก หามุมมองใหม่ๆ หาทำนองที่แตกต่าง ใส่คำที่ทำให้คนจำได้เยอะที่สุดลงไปในนั้น เพื่อให้ฉีกไปจากเพลงตลาดอื่นๆ

          ตรงกันข้าม คนทำเพลงอีกจำนวนหนึ่ง เอาแต่ก๊อบปี้ชาวบ้าน และเล่นคำหวาดเสียว สองแง่สองง่าม หวังเรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว คนพวกนี้ทำได้แค่งานกากๆ มิควรได้รับการสนับสนุน

 

 

 

          อะไรคืออีสานอินดี้หรืออินดี้อีสาน ปรีชา ปัดภัย เคยให้สัมภาษณ์เวิร์คพอยท์ออนไลน์ไว้ว่า อินดี้อีสานก็คือเพลงที่กลายพันธุ์มาจากลูกทุ่งอีสาน

          “ไม่จำกัดกรอบเรื่อง ไม่จำกัดแนวคิด และดนตรี เป็นแนวเพลงที่กลายพันธุ์มาจากเพลงลูกทุ่งอีสาน แปลงออกมาเป็นได้หลากหลายแนว อย่างเช่นอีสานอินดี้ อีสานเรกเก้ ก็ได้ ซึ่งมีการผสมผสานใส่ดนตรีแนวอื่นๆ ลงไปด้วย”

 

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                    

 

          เพลงอินดี้อีสาน มีเสน่ห์ของความเป็นอีสานด้วยเนื้อร้อง และการผสมผสานเรียบเรียง จะคล้ายกับเพลงสตริง หรือลูกทุ่งอีสาน สามารถทำได้หลากหลายมาก อยู่ที่ไลน์ดนตรีที่เรานำมาประดิษฐ์ใช้

          ปรีชา ปัดภัย น่าจะเป็นนักแต่งเพลงคนแรกๆ ที่ให้นิยามความเป็นอินดี้อีสานได้ตรงประเด็น ผลงานของเขาจึงได้รับการยอมรับ และมีลักษณะเด่นคือเป็นเพลงกวี เพลงภาษาสวย

          หนุ่มโขงเจียมคนนี้ เป็นตัวแทนคนเจนเนอเรชั่นใหม่ในอุตสาหกรรมเพลงยุคดิสรัปชั่น..ก้าวแรกของเขา สอบผ่าน จึงได้ก้าวยาวๆ ต่อไป เพื่อวงการเพลงอินดี้อีสาน