'ดีเจ.มะตูม' สัญญาจะไม่ทำให้ผิดหวังอีก

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - จากกรณีประเด็นดราม่า เมื่อ "ดีเจมะตูม" เตชินท์ ไปร่วมรายการ I CAN SEE YOUR VOICE เทปที่มีแขกรับเชิญคือ โตโน่ แอนด์เดอะดัสท์ แล้วมีการพาดพิงผู้เข้าแข่งจากทางบ้านที่มาเป็นตัวเลือกในฐานะของ เสียงเพี้ยนหรือเสียงเพราะ ในรายการดีเจ.มะตูมได้มีการใช้คำที่วิจารณ์ในเรื่องของรูปลักษณ์ ประโยคบางส่วนอาทิ "เราต้องการคนมาร้องเพลง Ft. กับซุปตาร์ ไม่ได้มานั่งดริงค์นะฮะ, เห็นแค่นี้เต็มที่ก็เป็นได้แค่พริตตี้มอเตอร์โชว์เท่านั้น" 

    ทำให้เกิดเป็นแฮชแท็ก #ตูมสนิท ขึ้นมาในทวิตเตอร์ โดยเป็นการแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ในการพูดไม่คิดของดีเจ.มะตูม  ล่าสุดในงาน JAPAN EXPO THAILAND 2020 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ผู้สื่อข่าวได้เจอดีเจ.มะตูมเลยถามถึงเรื่องนี้

 

    “วันเกิดที่ผ่านมา ก็สนุกดีครับ และปีนี้ก็เป็นปีชง เพราะต้นปีที่ผ่านมาก็เข้าโรงพยาบาล ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A แอดมิทในวันเกิดตัวเอง แต่คือเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ก็เลยไปแก้เคล็ดด้วยการไปต่อผม เขาว่าถ้าต่อผมยาวจะต่อชีวิต ต่อผมเสร็จปุ๊บก็ทะยานขึ้นสู้เทรนด์ทวิตเตอร์ (ยิ้ม) ในแฮชแทค #ตูมสนิท ซึ่งมันไม่ได้มาจากรายการ i can see แต่มันมาจากคาแรคเตอร์ของเราเอง เหมือนเราเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการตีสนิท ซึ่งอันนั้นเราชินแล้ว มันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่พอขึ้นเทรนด์ล่าสุดที่เกิดจากรายการ อย่างที่ตูมได้ชี้แจงผ่านไอจีไปแล้วว่าเรารู้สึกผิดพลาดมากที่ใช้คำพูด ความสนุกของเรา เราอาจจะพูดไปโดยไม่คิดถึงคนฟังตอนนั้น แต่การถ่ายทำวันนั้นยาวมาก และไม่เคยโทษรายการเลยว่าทำไมตัดออกมาแบบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างโทษตัวเองเพราะออกจากปากเราเอง ก็เลยตามที่ชี้แจงก็อยากจะขอโทษ”

 

 

    ตอนนั้นที่เล่นมุขไป มันมีความตะงิดใจไหม
    “นิดนึง แต่ถ้าใครได้เคยดูรายการจะรู้เลยว่ามะตูมชอบกัด จิกผู้หญิงที่สวย เพราะตอนท้ายจะได้มาตบลงท้ายที่เรา และรายการ i can see เขานอกจากจะหานักร้องเสียงเพราะแล้ว ก็ยังมีการแซวคนหล่อ คนสวย คือทุกคนมีทางของตัวเองหมด มะตูมอาจจะไม่ได้ระวังมากเท่าที่ควร ซึ่งตูมเข้าไปอ่านในเฟสน้องเขา คือเราก็กังวล อยากจะคุยเป็นการส่วนตัว แต่วันนั้นเองเราก็ยังเดินไปชมน้องเขาว่าสวยมากเลย แต่น้องเขาก็โพสต์ว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย ยังปกติกับพี่มะตูมทุกอย่าง คือไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตูมไม่โทษใครเลย ตูมน้อมรับผิดคนเดียวทตูมจะพยายามไม่ให้เกิดอะไรแบบนี้ขึ้น”

 

 

    ประเด็นบูลลี่ เราระแวงไหม ว่าต่อจากนี้จะเล่นอะไรออกไป
    “มันต้องระมัดระวังมากขึ้น ส่วนตัวแล้วถ้าถามว่าต้องเปลี่ยนสไตล์ไปเลยไหม คือตัวเราเข้าใจคำว่าบูลี่ บูลี่คือการการกดคนอื่นโดยเอาปมด้อยของเขามา แต่สำหรับตูม การที่เราเล่นกับเพื่อนและด่าเพื่อนว่าดีออก ถ้าคนฟังข้างนอกได้ยินอาจจะคิดว่านี่คือการบูลี่ ก็เลยต้องดูว่ากาละเทศตรงนั้นเหมาะสมไหม”

 

 

 

 

 

 

    อีกกระแสก็บอกว่าเราต่อต้านการบูลี่ แต่เรากลับทำซะเอง 
    “ตูมอยากให้มองที่เจตนา จริงๆ ไม่ได้อยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อขอโอกาส ตูมคิดว่าทุกคนมีพลาดกันได้ในเรื่องของการใช้คำพูด และเราทำงานทุกวัน และอยากให้มองที่เจตนา เพราะเราเป็นคนตลก เป็นคนสนุก การที่เราพูดเล่น พูดแซวคืออยากให้คนรอบข้างหัวเราะ และเรายังด่าตัวเองเลย แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าต้องบูลี่อะไร และเจตนาเรารับเงินจากรายการมาแล้ว เขาไม่ได้ต้องการให้เรามานั่งเฉยๆ เราอยากทำให้ออกมาดีที่สุด และในอนาคตเราต้องวางตัว ใช้คำพูดให้เหมาะสม ระมัดระวังที่สุด”

 

 

 

 

 

    ที่ผ่านมาเราถูกวิจารณ์ในด้านลบ แต่คราวนี้เราซีเรียสมาก
    “ซีเรียสมาก ซีเรียสมากตั้งแต่เข้าวงการมา อันนี้มันไม่ได้เกิดจากการที่คนด่าเราผ่านไอจี ผ่านไลฟ์สไตล์ของเราต่างๆ แต่มันเป็นเนื้องานที่เราทำ มันเป็นสื่อสาธารณะและเป็นรายการที่เรทติ้งสูงที่สุดของบริษัท เครียดครับ และก็ขอโทษที่ทำให้เกิดกระแสลบ ตูมจึงตัดสินใจเลือกพักงาน และตอนนี้เทปที่ออนอยู่คือถ่ายไว้แล้ว แต่หลังจากเกิดเรื่อง ตูมขอพักการรับงานจากรายการนี้ ไม่ใช่ออกนะครับ แต่คืออยากไปย้อนดูเทปเก่าๆ เพราะเรารู้สึกผิดจริงๆ พักประมาณ 2-3 เดือน น่าจะ 6 เทป

 

    หลังจากนี้เราก็บอกตัวว่าให้ระมัดระวังตัวเอง ไม่ใช่เฉพาะรายการ i can see แต่ทุกสื่อที่เป็นสาธารณะ เราต้องระวังมากขึ้น แต่ในไอจีสตอรี่ก็เหมือนเพราะมันเป็นไลฟ์สไตล์ของเรา คือตูมพยายามจะทำให้มันออกมาดีที่สุดในสไตล์ของตัวเอง แต่พยายามจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เราจิตตกมาก เพราะการที่เราออกจากโรงพยาบาลมา หยิบโทรศัพท์มา และอ่านทวิตเตอร์ และการที่ชื่อเราจึ้นอันดับ 1 มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะเราไม่ใช่ดาราที่ประชาชนเอ็นดูอยู่แล้ว ก็ต้องมีจิตตกบ้าง แต่ไม่ได้ตกจนทำอะไรไม่ได้ เพราะเราโชคดีในวันที่มีคนเกลียดครึ่งประเทศ แต่ก็ยังมีคนรักเราทั้งเพื่อนในวงการ การที่้เราทำอะไรผิด ถูกบ้างก็เพราะเราเป็นมนุษย์ ตูมก็คือมนุษย์ และในอนาคตเราก็ต้องทำผิดอีกแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่ใช่การที่เราถูกจับผิด แต่เป็นที่สนใจของคนในวงกว้าง แสดงว่าเราเป็นสาธารณะแล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องมีสติ”

 

 

    สุดท้ายเราอยากจะขอโทษใคร
    “ตูมได้ขอโทษไปหมดแล้ว วันนี้เราได้มาบอกความรู้สึกว่าต่อไปแล้วจะพัฒนา ขอบคุณคำคอมเม้นท์มี่ติเพื่อก่อจริงๆ ยังไงก็สัญญาว่าคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง สัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองให้เล่นมุขสนุกๆ ต่อไป”