'เบนซ์' นอยด์ ฝุ่น PM2.5 ทำพิษ

         บันเทิง คมชัดลึก - กำลังเป็นที่เฝ้าระวังสำหรับฝุ่น PM2.5 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้ ทำให้หลายคนป่วย ซึ่ง "เบนซ์" พรชิตา ก็กำลังหนักใจเพราะลูกสาวทั้ง 2 คนมาป่วยช่วงนี้พอดี ถามว่าได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่ปกคลุมทั่วเมืองกรุงขณะนี้บ้างไหม ซึ่งนักแสดงสาวกล่วแจง ในงานแถลงข่าวการแสดง “ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซนต์ ลีฟ ยัวร์ ดรีมส์” ที่ไอคอนสยาม เจริญนคร ชั้น7 สุราลัยฮอลล์ ได้ความว่า 

“ตอนนี้ลูกป่วยทั้งคู่เลย ก็ไม่รู้ว่ามันมาจากฝุ่นหรือเปล่านะ เขาเริ่มจามก่อน แล้วเจ็บคอ แต่ว่าไม่มีไข้ อาจจะไม่ได้มาจากฝุ่นอย่างเดียว เพราะร่างกายเขาไม่โอเคด้วยมั้งคะ ตอนนี้ทั้งพี่ทั้งน้องเป็นทั้งคู่เลย บ้านเราอยู่อนุเสาวรีย์ตรงนั้นฝุ่นแน่นอยู่ เราก็ตื่นตัวกับเรื่องนี้เหมือนกันนะ พอเขาป่วยก็ให้หยุดไม่ได้ไปโรงเรียน อย่างเราเองยังแสบคอ แสบจมูกเลยนะเวลาออกจากบ้าน เด็กน้อยเขาคงรู้สึกแต่อาจจะอธิบายไม่ถูกว่าเขารู้สึกยังไง เราก็รู้สึกว่าถ้ามีอะไรมาทำให้มันหายไปเร็วๆก็ดีนะ ตอนนี้เครื่องกรองอากาศเต็มบ้านเลย (เลยไม่ให้ลูกออกนอกบ้าน) ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ออกไปข้างนอก ถ้าบางทีเอาลูกไปเรียนก็ให้อยู่ในสถานที่ปิด ส่วนข้างนอกก็คงจะไม่ได้ออกไป ถามว่ามันหลีกเลี่ยงได้มั้ย มันอาจจะยากสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการทำงานมันก็ยาก สำหรับเด็กน้อยถ้าให้เขาหยุดเรียนจริง แต่ถ้าหยุดนานมันก็ไม่โอเคก็ต้องไปเรียนซึ่งมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากๆ มันไม่ได้ทำให้หยุดอยู่บ้านแล้วฝุ่นมันหาย อาจจะรบกวนทุกคนช่วยกัน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงได้บ้างเนาะ ถ้าเราหยุดอยู่บ้านไม่ได้เพิ่มมลพิษเพิ่มก็อาจจะช่วยได้นิดหน่อย วันนี้คุยกับแม่ คนจีนเนาะ แม่อาจจะต้องเผาอะไรสักอย่าง ไม่ต้องเผาอะไรเยอะแยะ ช่วยกันลดมลภาวะ คิดว่าอากงอาม่า น่าจะเข้าใจได้ แต่อาจจะต้องเผาแหละ พูดกันตรงๆ มันเป็นประเพณี แต่ต้องเผาน้อยหน่อย" 

เมื่อถามต่อถึงกรณีที่สรยุทธ โดนจำคุก ซึ่งนักแสดงสาว แม่ลูก 2 ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ร่วมงานกับพี่สรยุทธ ส่งกำลังใจให้ยังไงบ้าง

           "ก็ส่งกำลังใจไปทางไอจีเรียบร้อยแล้ว เบนซ์เชื่อว่าพี่เขาก็คงรู้แหละว่าทุกคนคอยเป็นกำลังใจให้ ตั้งแต่รอบแรกตอนโน้นเราก็เคยไปเยี่ยมแก ก็เคยคุยกันอยู่ว่าตัวแกก็เครียดเหมือนกันถ้าจะต้องเข้าไปอยู่จริงๆจะเป็นยังไง สิ่งเดียวที่เบนซ์รู้สึกเลยว่า แกมั่นคง แกพูดเลยว่า ไม่ต้องกลัว ถ้าถึงเวลาตัดสินแล้วพี่ก็ทำตามนั้นเลย พี่ไม่หนี เราก็รู้สึกว่าแกเป็นคนที่พูดจริง ทำจริง ถึงเวลาที่มันจะต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ แกก็ยอมรับ อย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือเป็นกำลังใจให้ แล้วรอให้แกออกมาสร้างผลงานดีๆให้พวกเราได้ดูอีก (จากการทำงานร่วมกันมา เห็นอะไรในตัวของเขาที่ทำให้เรารู้สึกว่าทึ่งในตัวผู้ชายคนนี้มาก) ตอนนี้ไม่มีใครมาแทนที่ตรงนี้ของเขาได้ พูดกันตรงๆเนาะ อาจจะมีคนอื่นที่เก่ง แต่พอเป็นพี่ยุทธ พูดขึ้นมาแล้วไม่มีใครไปอยู่ตรงนั้นแทนเขาได้เลย ทุกอย่างที่แกทำมา แกเต็มที่ ตั้งใจ ความเป็นตัวของตัวเขาเอง กล้าเสี่ยง กล้าอ่าน กล้าที่จะทำข่าว เบนซ์รู้สึกว่าแกเต็มที่กับทุกครั้งทุกวันทุกข่าวที่แกอ่าน ไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วอ่านๆไป ข่าวอ่าน 6 โมงเช้า แกมาตั้งแต่ตีสองตีสาม ต้องมาทำการบ้าน บางคนอาจจะรู้สึกว่าก็แค่นั่งอ่านข่าวเองไม่ยากอะไรเลยอ่านตามสคริปต์ไง แต่จริงๆ แล้วมันยากกว่านั้นเยอะ ชีวิตนักข่าวยากกว่านั้นเยอะ จะอ่านอะไรต้องมีความรู้ แล้วต้องทุ่มเทกับงานตรงนั้นค่อนข้างเยอะ แล้วแกไม่ได้ทำแค่นี้ไง เหมือนตอนที่รับบริจาคน้ำท่วม แกทำจริงๆ แล้วแกก็ลงพื้นที่จริงๆ ไปช่วยจริงๆ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เห็น ทุกคนเห็นความตั้งใจในการทำงานของแกอยู่แล้วว่าแกเป็นคนทุ่มเทขนาดไหน เรารู้สึกเสียดายบุคคลสำคัญของวงการข่าว แต่เราเชื่อว่ายังไงวันหนึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะได้เห็นแกกลับมาอ่านข่าวแน่นอน”

          (จากที่ได้เจอกันบ่อยๆ เขาเครียดมั้ย แม้จะไม่ได้อยู่เบื้องหน้าแต่ต้องมาคุมรายการ) 

          ช่วงหลังๆ เบนซ์ไม่ได้เจอแกเลย เพราะตัวเบนซ์ก็ไม่ได้เข้าไปอ่านเหมือนกัน ไม่ได้มีโอกาสเจอ แต่ว่าปีที่แล้วได้ไปทานข้าวกัน ได้พูดคุย ถามว่าตอนนั้นแกเครียดมั้ย พูดตรงๆเลยนะ ความเครียดมีตลอด แต่แกก็พยายามเฮฮาแหละ เป็นยังไงทุกคน คิดถึงนะ แกก็ไม่ได้ร่าเริงแบบที่ไม่ได้มีเรื่องอะไร แต่แกก็จะเป็นห่วงพวกเรา ถึงพี่ไม่อยู่ก็ตั้งใจทำงานกันนะ มาให้กำลังใจน้องๆ (ไม่อยากให้น้องๆเครียดไปด้วย) ใช่ แกรู้สึกว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัวแกนะ ส่วนงานทุกคนก็ทำไป ไม่ต้องมากังวลเป็นเพื่อนแก เราก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ เบนซ์ผูกพันกับเรื่องเล่าเช้านี้ ผูกพันกับพี่สรยุทธเยอะมากเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนแต่งงานแกก็ยกพื้นที่ให้ในรายการ ประกาศไปเลย มีลูกก็ไปประกาศตรงนั้น แกก็เป็นเหมือนพี่ชายที่น่ารักมากๆ ให้โอกาสเราคอยบอกคอยสอน พอเวลามันเป็นอย่างนี้เราก็เครียดเหมือนกันนะ ถ้าไปอยู่ในนั้นก็ไม่รู้ว่าแกจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก็เชื่อว่าด้วยความที่แกเป็นคนน่ารัก ช่วยเหลือชาวบ้าน เข้าไปทุกคนก็น่าจะรักแกแหละ

          (หลายคนบอกว่าแป๊บเดียวเดี๋ยวพี่ยุทธก็กลับมาหน้าจอเหมือนเดิมแล้ว) 6 ปี เราอยู่ข้างนอกแป๊บเดียว คนอยู่ในนั้นวันหนึ่งก็โคตรนานเลยนะ มันไม่เหมือนกันหรอก คนมีทุกข์ชั่วโมงหนึ่งมันก็นานมากนะ เวลาสนุกมันแป๊บเดียวอยู่แล้วแหละ คนอยู่ตรงนั้นมันเครียด แต่เบนซ์เชื่อว่าแกคิดอะไรล่วงหน้าไว้บ้างแล้วแหละ ถ้าเข้าไปแล้วจะเป็นยังไง จะอยู่ได้มั้ย เบนซ์เชื่อว่าสิ่งที่มันมีมาก่อนคือเรื่องการทำใจ จะตัดสินยังไงแกก็รับอยู่แล้ว เราเชื่อว่าแกก็ทำใจมาในระดับหนึ่งแล้วแหละ แต่ถ้ามันไม่ติดก็ดีถูกมั้ย แต่ในเมื่อมันเป็นไปตามกระบวนการความถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นคนที่น่าชื่นชมอยู่นะ ก็ยอมรับไป อย่างน้อยทุกคนก็ชื่นชมแกแหละว่าแกก็ทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง”