ยึดคำสอน 'บอย' ต่อชีวิตในวงการ 'แคน' ขอสนุกกับทางที่เลือก

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-​เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ต้นปีกับผู้ประกาศข่าว “แคน” อติรุจ  กิตติพัฒนะ ที่ย้ายจากชายคาบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิดในวงการบันเทิงอย่าง “ช่องวัน 31” มาร่วมงานกับ “ช่อง 3” ในรายการข่าววันใหม่ ชนิดสายฟ้าแลบ งานนี้ บันเทิง คม ชัด ลึก เลยนัดสัมภาษณ์ หนุ่มแคน แบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงเหตุผลที่หอบกระเป๋าออกจากบ้านอย่าง ช่องวัน มา

@@ การตัดสินใจย้ายจากช่องวันที่เปรียบเสมือนบ้าน

   “ช่วงปลายปีทางช่องก็ได้คุยเรื่องหมดสัญญา ก็ไม่ต่อสัญญา เพราะว่าทางช่องบอกหมดสัญญาแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงเผื่อเราจะขยับขยายไปที่ไหนได้ ทางช่องวันก็เปิดโอกาส ขณะนั้นช่อง 3 ติดต่อมาพอดีเขาก็ถามผมว่าสนใจไหม ถ้าสนใจก็เข้ามา เพราะข่าววันใหม่จะปรับรูปแบบต้องการผู้ประกาศข่าวผู้ชาย เราเองก็สนใจเลยเข้ามา ตอนนั้นลองเทสต์ไปก็หวังอยู่เล็กๆ แล้วพอเขาประกาศว่าเลือกเรา ใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 2 วัน ก็คิดหนักเหมือนกัน ตั้งแต่ที่เริ่มทำงานข่าวมายังไม่เคยย้ายไปไหนเลย คือเราเริ่มจากการประกวดเดอะสตาร์ แล้วก็อยู่ที่เดิมมาตลอด เลยคิดหนักเหมือนกันว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องโตกว่านี้ก็เลยตัดสินใจมาเลย”

@@ อย่างที่บอกว่าเกิดมาจาก “คุณบอย” ถกลเกียรติ ตอนที่ตัดสินใจย้าย เข้าไปคุยกับคุณบอยอย่างไร

   “จริงๆ มีการปรึกษากันหลายครั้ง ปรึกษารอบแรก พี่บอย (ถกลเกียรติ) ก็บอกลองตัดสินใจดูนะว่าจะไปที่ไหนยังไง แล้วจะดีขึ้นไหม เราก็ขอตัดสินใจก่อน พอเราตัดสินใจเลือกช่อง 3 ก็เลยเข้าไปคุยกับพี่บอยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพี่่บอยก็ให้คำแนะนำที่ดีมากๆ แนะนำเรื่องการทำงาน แนะนำการเข้าที่ใหม่ควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ควรจะต้องวางตัวอย่างไร จะต้องเตรียมพร้อมที่จะโตอย่างไร เพราะอยู่ที่เก่าก็ต้องยอมรับว่าก็อยู่ในความดูแลของพี่บอยที่ดูแลเราเหมือนเด็กคนหนึ่ง แต่คราวนี้เราออกมาแล้วต้องเป็นผู้ใหญ่แล้ว คือพี่บอยสอนผมอยู่ 3 อย่างตั้งแต่เข้าเดอะสตาร์แล้ว ว่าคนเรามี 3 อย่างที่จะทำงานให้สำเร็จอย่างแรกคือต้องมีพรสวรรค์ ซึ่งมีอยู่แล้วประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่พอต้องมีพรแสวงด้วยก็คือการฝึก การเตรียมตัว อย่างที่สามคือต้องมีโอกาส เราเองก็มีโอกาสกับทางช่อง 3 แล้ว สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือต้องพัฒนาตัวเองและมีพรแสวงให้ได้มากที่สุด พี่เขาก็ยังสอนสิ่งนี้ก่อนที่แคนจะออกมา ยอมรับว่าตอนที่ออกมาใจหายเหมือนกันเพราะว่าเราอยู่ที่นั่นมานานมากตั้งแต่เด็กๆ แต่พอจะออกมาอยู่ข้างนอกมาอยู่คนเดียวค่อนข้างใจหาย คนที่เคยทำงานข่าวด้วยกัน ตอนนี้เริ่มโอเคมากแล้ว เพราะรู้สึกว่ามาที่ครอบครัวช่อง 3 ก็อบอุ่นได้เจอพี่ๆ ที่อยู่สายงานเดียวกันก็คุยกันง่าย”

@@ ความสัมพันธ์กับ “คุณบอย” ในตอนนี้

   “ยังเหมือนเดิม ก็โทรไปสวัสดีปีใหม่ คงเป็นอย่างนี้ทุกปี เพราะพี่บอยก็เป็นคนตัดสายสะดือ เป็นคนให้โอกาสเข้าสู่วงการ เพราะฉะนั้นเราก็จำเรื่องนี้ตลอด”

@@ เริ่มการทำงานกับช่อง 3 แล้วเป็นอย่างไร

   “การทำงานกับช่อง 3 เป็นการทำงานที่เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน เพราะด้วยระบบการทำงานของช่อง 3 มีมานานมากแล้ว ทุกอย่างจะเป็นกองใหญ่ การเตรียมตัวค่อนข้างหนัก เพราะว่าข่าววันใหม่ในรูปแบบใหม่เขาต้องการให้เป็นความรู้สึกแบบเป็นเพื่อนให้ดูข่าวไปเลย เป็นเพื่อนยามดึก เพราะฉะนั้นดูแล้วต้องไม่นอน ต้องกระฉับกระเฉง รูปแบบข่าวจะเป็นเล่าข่าวมากขึ้น แคนต้องเข้ามาเร็วมากๆ ดูภาพข่าวทุกอย่างให้เข้าใจ ดูสคริปต์ข่าวข้อมูลให้ครบก่อน เพื่อที่เราจะสามารถเล่าออกมาให้เป็นตัวเราแล้วก็เป็นธรรมชาติสนุกมากที่สุด อันนี้ถือว่าเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างยาก”

@@ ออกจากช่องวันมา ได้ทำงานที่หลากหลายมากขึ้น ล่าสุดเป็นดีเจไปแล้ว

   “ต้องบอกว่าการทำงานดีเจมันเป็นสิ่งที่อยากจะทำมานานมากแล้ว เคยจะลองถามทางเอไทม์ไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เขาก็บอกลองขึ้นมาคุยกันแล้วลองมาทำเดโม จนพอหมดสัญญาก็มีเวลาลองดูอีกครั้งหนึ่งก็เลยติดต่อกับทางเอไทม์ไปว่าผมอยากจะไปทำเดโมได้ไหม เขาก็เลยลองบอกว่ามาทำดู ทีมงานก็ให้ลองทำก็ทำอยู่ 7 ครั้ง จนวันหนึ่งเขาต้องการดีเจใหม่คลื่นกรีนเวฟ เขาก็โทรมาบอกเรา เลยตอบว่าโอเคมากเลยก็เลยเข้าคอร์สเร่งรัดการฝึกอุปกรณ์แล้วลองเริ่มทำแล้ว แคนว่างานมันเป็นคนละเรื่องกับการอ่านข่าว ครั้งแรกที่ทำเดโมก็โดนคอมเมนต์เลยว่ามันเหมือนอ่านข่าวเกินไป เพราะว่างานดีเจคนฟังเขาต้องการมีเพื่อนที่ส่งเข้าเพลง เพราะฉะนั้นความรู้สึกมันต้องสบาย รวมถึงภาษาที่ใช้ก็ต้องใช้ภาษาที่ง่ายๆ ดูเหมือนคนกันเอง จุดนี้ก็ต้องปรับพอสมควร ก็ต้องเตรียมตัวหนักขึ้น ทั้งในเรื่องการฟังเพลงรู้จักเพลงมากขึ้น การพูดจาให้มีความสบายและเป็นธรรมชาติมากที่สุด ผมว่างานดีเจยากนะและเป็นงานที่ท้าทายด้วย”

@@ ดูสนุกกับการทำงานตอนนี้

   “สนุกกับชีวิต เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบทำงานเยอะ ชอบทำงานหลายๆ อย่าง พอเรามีโอกาสได้ทำทั้งข่าว ได้มีโอกาสเป็นดีเจ มันก็รู้สึกเป็นการทำงานที่หลากหลาย เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองด้วย ประกอบกับเราชอบเพลงด้วยก็เลยรู้สึกสนุก สัญญาช่อง 3 เปิดกว้างมากๆ สิ่งเดียวที่เป็นข้อจำกัดก็คือเรานั่งอ่านที่นี่ไม่สามารถไปนั่งอ่านข่าวที่อื่นได้ ซึ่งก็เป็นมารยาทของการเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ว่าทางช่อง 3 ก็เปิดโอกาสให้ถ้ามีรายการอื่นๆ ที่อยากจะทำ ก็เป็นที่ไหนก็ได้ ทำให้เรายังมีเวลาที่สามารถทำได้อยู่ ก็คือเซ็นสัญญาช่อง 3 ปีหนึ่ง ณ ตอนนี้เป็นปีต่อปี”

@@ มองอนาคตการทำงานของตัวเองไว้อย่างไร

   “อนาคตเรื่องหลักๆ ต้องทำเรื่องข่าวเพราะมองว่าเป็นอาชีพหลักแล้ว และเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไปยาวๆ ก็ต้องพัฒนาจุดนี้ไปไกลกว่าที่เดิมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนงานอื่นๆ ถ้ามีโอกาสเข้ามาก็อยากจะลองทำเพราะมันเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ชีวิต การทำงานต่างๆ จะมีประสบการณ์มาช่วยในงานแต่ละด้านที่มากขึ้น”

รอติดตามผลงานใหม่ๆ ของหนุ่มคนนี้ได้เลย