สัญญาน้ำตาแม่ ฮิตติดชาร์ตรถแห่ บักคำผลาญ แรงจริง

 

 

          แล้วกรณี “รถแห่ดนตรีสด” กับตำรวจ วนมาเป็นข่าวอีกรอบ เมื่อผู้ประกอบการธุรกิจรถแห่แถวชัยภูมิและขอนแก่น ออกมาฟ้องสังคมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งห้ามการแสดงรถแห่เพราะเป็นต้นเหตุให้วัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการรถแห่

 

อ่านข่าว...  เกมรถแห่ ไยปล่อยผี "อีสานใต้"

 

 

          มิเพียงเท่านั้นชาวรถแห่ยังยกขบวนไปร้องเรียนผ่าน ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ ให้ช่วยแก้ไขปัญหา “รถแห่” กับ “ตำรวจ” หรือฝ่ายปกครอง เหมือนกรณีรถแห่อีสานใต้ที่ได้ไฟเขียวเปิดการแสดงได้

          อีกด้านหนึ่งผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน ได้ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชนฯ วุฒิสภา ขอให้ตรวจสอบคอนเสิร์ตรถแห่ที่มีลักษณะเป็นผับเคลื่อนที่ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เยาวชน

 

 

 

          “รถแห่ดนตรีสด” ตกเป็นจำเลยสังคมอีกครั้งทั้งที่ในความเป็นจริงรถแห่ก็ไม่ต่างจากการแสดงดนตรีวาไรตี้ ลำซิ่ง เพียงแต่เวทีเคลื่อนที่ได้เท่านั้น 

          รถแห่เป็นรูปแบบความบันเทิงที่สอดรับกับยุคดิจิทัล กลายเป็นแหล่งปั้นนักร้องหน้าใหม่และเป็นช่องทางเผยแพร่เพลงใหม่เพลงเก่าทดแทนสื่อเก่าอย่างวิทยุ

          มโหรีเคลื่อนที่ของภาคอีสาน บ่งบอกถึงการปรับตัวของธุรกิจบันเทิงในยุคสื่อโซเชียล “ยูทูบ” และมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ ในการรับฟังเพลงเกิดขึ้น ชั่งตวงวัดกันแล้ว รถแห่ดนตรีสดย่อมมีคุณมากกว่าโทษ 

          ชั่วโมงนี้เพลงดังประจำรถแห่อันดับต้นๆ ได้แก่เพลง “กอดเสาเถียง” ของ “ติ๊ก” ปรีชา ปัดภัย, “บ่ต้องการเศษใจ” ของ แบม ไพลิน, “ผัวมา” ของ กุ้ง สุภาพร และ “ฮ่อน” ของ เมล ตวิษา แปดแสนซาวด์

 

 

 

 

          ที่น่าสนใจเพลง “สัญญาน้ำตาแม่” ร้องโดย “มนต์แคน แก่นคูน” กำลังมาแรงในขบวนรถแห่ เพราะบรรดานักร้องชายประจำรถแห่ได้พากันคัฟเวอร์เพลงสัญญาน้ำตาแม่ตามคำเรียกร้องของเอฟซีรถแห่

          ค่ายแกรมมี่โกลด์ปล่อยซิงเกิลใหม่ “สัญญาน้ำตาแม่” มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 เพลงนี้แต่งโดย “สลา คุณวุฒิ” เป็นเพลงแนวสร้างสรรค์ สะท้อนปัญหาวัยรุ่นตามคอนเซ็ปต์ “เป็นลูกผู้ชายแท้ๆ เฮ็ดให้แม่ต้องเสียน้ำตา..เป็นลูกที่ดีให้ทันเวลา”

          มนต์แคน แก่นคูน ขับร้องออกมาได้ไพเราะกินใจ ถ่ายทอดความรู้สึกของวัยรุ่นคนหนึ่งในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะท่อนฮุก

          “เป็นลูกผู้ชายแท้ๆ เฮ็ดให้แม่ต้องเสียน้ำตา คือชั่วแท้ชาตินี้เกิดมา ขอเอาน้ำตาล้างตีนให้แม่ เป็นบักคำผลาญที่คนส่า หยดน้ำตาแม่ทำให้แคร์ ใจแม่คงเจ็บหนัก ลูกมันซั่วคักที่ลืมดูแล”

          คำว่า “เป็นบักคำผลาญที่คนส่า” กลายเป็นวลีฮิตที่โดนใจวัยรุ่น เนื่องจาก “บักคำผลาญ” ดังก้องทุกหมู่บ้านในภาคอีสาน ยามใดที่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ได้ยินเสียงแว้น..มอเตอร์ไซค์ สนั่นลั่นหมู่บ้าน

          เพลงสัญญาน้ำตาแม่ จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเพลง “บักคำผลาญ” จากเพลงฮิตของนักร้องในร้านเหล้ากระจายสู่นักร้องรถแห่เมื่อฤดูกาลงานกฐินที่ผ่านมา

          “บักโตปัญหาคนเดิม สิเป็นคนดีแล้วเด้ออีแม่ สิตั้งใจลบ เฮ็ดดีกลบบาดแผล สิบ่ให้แม่เสียใจ...ขอสัญญากับน้ำตาแม่ ว่าต่อไปนี้ลูกสิตั้งใจ สิเฮ็ดโตเป็นคนดี”

          จริงแล้วๆ “บักคำผลาญ” หรือ “อีคำผลาญ” ก็เป็นตัวละครที่เต้นอยู่รอบรถแห่นั่นเอง จึงไม่แปลกใจที่เพลงสัญญาน้ำตาแม่ จะเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตมโหรีอีสานเคลื่อนที่

          ผู้ถือกฎหมายหรือผู้ถือคัมภีร์สังคมต้องปลอดเหล้า ทำไมไม่คิดอีกมุมหนึ่ง หากวัยรุ่นกับรถแห่สร้างปัญหาสังคมจริง ไยพวกเขากลับชื่นชอบเพลงสร้างสรรค์สังคม ปลุกฟื้นจิตใจผู้คนอย่างเพลงสัญญาน้ำตาแม่

          ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องเต้นเป็นเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน เป็นอันธพาลประจำหมู่บ้านไปตลอดกาล ขอแต่ฝ่ายบ้านเมืองเข้าใจถึงพฤติกรรมแท้จริงของวัยรุ่น

          เมื่อผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเชื่อว่ามนุษย์สายพันธุ์บักคำผลาญก็ต้องสำนึกได้ “..ขอสัญญากับน้ำตาแม่ว่า ต่อไปนี้ลูกสิตั้งใจสิเฮ็ดโตเป็นคนดี”