'นุ้ย เชิญยิ้ม' เปิดใจความเป็นพ่อกับรักที่มีให้ลูก

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  หลังจากออกมาเปิดใจผ่านรายการว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินมาสารภาพว่าไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย  โดย "นุ้ย เชิญยิ้ม" เผยว่า “เราเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ต้องเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น เราแฮปปี้เขาเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ทำอะไรที่ทำให้พ่อแม่มีความสุขเราก็โอเคแล้ว” จากนั้นก็มีกระแสชื่นชมความเป็นพ่อของนุ้ย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอตลกชื่อดังในงานคอนเสิร์ตตลกรำวงการกุศล   เพื่อหาเงิน รายได้ช่วยเหลือ ศิลปินตลก เจ็บป่วย และเสียชีวิต ณ  ตรงข้าม บขส กำแพงแสน ตำบลดอนข่อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จึงถามถึงเรื่องครอบครัว

    ตอนนี้ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง
    "มีความสุข แฮปปี้ดี ก็ดูแลกันไปลูกเต้า"

    หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจาก น้องภู ยังมีลูกอีก 3 คน
    "มีลูกติดแฟนเก่ามา 3 คน แต่ตอนนี้โตกันหมดแล้วอายุ  26-25-22 ปี น้องภูก็อายุ 16 ปี สองคนนั้นเรียนจบหมดแล้วคนที่ 3 กำลังฝึกงานอยู่ เหลือน้องภูเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผ่านมาส่งเสียเลี้ยงดูทุกอย่าง ดูแลไม่เคยให้ขาด ด้วยความเป็นพ่อของเรา แล้วก็เขาเป็นลูกเรา เราต้องดูแลไม่อยากให้เป็นปัญหาของสังคมด้วยความรักของเราด้วยแหละถึงเราเป็นพ่อเราก็ต้องทำด้วยความรักเพราะนั่นคือลูกเราไง"

 

 

    ก่อนหน้านี้ตกลงกับตั๊กยังไงเรื่องการดูแลลูก 3 คนที่ติดมาจากแฟนเก่า
    "เคยขอว่าเอาเข้าบ้านได้ไหม ใหม่ๆก็ธรรมดาแหละลูกติดมา พออยู่ไปนานๆ มันเข้าอกเข้าใจกันแล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบอะไร พอเวลาคุยกันรู้เรื่องแล้วทุกอย่างมันก็ลงตัวมันก็ไม่มีปัญหาเขาก็จะจัดสรรให้ดูแลคนนั่นคนนี้เขาก็ดูแลหมดล่ะครับ"

 

 

 

 

 

    เหมือนตั๊กเป็นแม่ของลูกๆ ทั้ง 4 คน 
    "ใช่เลย เขารักเหมือนลูกเลยแหละ คนที่ 2 ตอนนี้อยู่บ้านด้วยกันนี่ มีอะไรก็ปรึกษากันคุยกัน เด็กๆ เรียกพี่ตั๊กว่าแม่ เด็กเขาปากหวานอ่ะเนอะ เรียกว่าอยู่เป็น (ยิ้ม) กับแฟนเก่าเรา ไม่ได้มีปัญหา ตัวพี่เองไม่ได้ติดต่อเขาก็คือลูกเท่านั้นที่ติดต่อ ส่วนพี่น้องเขาเข้ากันได้ดี คุยกันดี ก็พี่น้องกันคุยได้ทุกเรื่อง"

 

 

    ในสายตาของนุ้ยรู้สึกยังไงกับการเลี้ยงดูลูกๆของตั๊ก
    "เราก็จะแอบมอง เขาทำกับลูกเขายังไง เขาก็ทำกับลูกเรายังงั้น  ก็เท่ากันหมดมีขนม 10 ชิ้นก็แบ่งกันคนละ 5 ชิ้นมีตังค์ 20 บาทก็แบ่งคนละ 10 บาทเท่ากันไม่มีใครมากใครน้อย พี่ตั๊ก ดีมาก เป็นภรรยาที่ดีมาก"

 

 

    มีดุลูกๆ กันบ้างไหม
    "ถ้าทำไม่ดีเราก็ต้องตักเตือน เราเป็นผู้หญิงนะลูกทำไมเสื้อผ้าไม่ขยันซักล่ะลูกบ้านทำไมไม่ถูห้องน้ำไม่ขัดเหรอลูกเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่ว่าเป็นลูกเราปล่อยนู่นนี่นั่นอะไรก็ได้"

 

    ก่อนหน้านั้นเคยกลัวไหมว่าลูกเรามาอยู่กับแม่อีกคนหนึ่งจะมีปัญหาไหม
    "ไม่เลย ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย เพราะเรารู้นิสัยของตั๊กดี เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือ คนอื่นเขายังช่วยเหลือนี่เป็นลูกของเราเขาจะไม่รับไม่ช่วยเหลือเลยหรอ"

 

 

 

    อธิบายกับลูกยังไง
    "ไม่ต้องอธิบาย ความรักอิจฉาริษยาไม่มีแน่นอน 10 กว่าปีดูมาแล้ว ไม่มีแน่นอนกับเรื่องพวกนี้เลยเพราะว่าเราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังความรักแบ่งเท่ากันหมดไปไหนพาไปด้วยกันหมดซื้ออะไรพาไปซื้อด้วยกันหมด"

 

 

    ลูกทั้ง 4 คนดูแลกันยังไง
    "จะมีคนหนึ่งเป็นลูกคนที่ 2 มาอยู่บ้านด้วย แต่คนที่ 1 แยกเป็นครอบครัวกันแล้ว คนที่ 3 ฝึกงานอยู่ที่มหาสารคาม เดี๋ยวพอจบก็มาอยู่นี่แหละ คนที่ 2 นี้ก็ดีเรียนเก่งจบปริญญาโทแล้วที่รามคำแหง ขยันทำงานด้วย เขาทำงานและเรียนด้วยมาตั้งแต่เด็กแล้ว"

 

    พี่ๆ มีช่วยเลี้ยงน้องภูยังไงบ้าง
    "มีอะไรเขาก็จะแชร์กัน น้องภูเขาเก่งภาษาอังกฤษแล้ว พี่สาวเขาก็ทำงานเกี่ยวกับภาษา เขาก็จะแชร์กันคุยกัน บอกกัน น่ารัก"

 

 

 

 

    ในฐานะพ่อเรารู้สึกโล่งใจที่ลูกรักกัน
    "นี่แหละคือบั้นปลายชีวิตพี่ต้องการแค่นี้เอง เราตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้เพราะฉะนั้นเราตายไปเราตายไปด้วยความสุขไม่มีความทุกข์ติดตัวไปพี่ก็ไม่ต้องการอะไรมากมายก็หาไว้ให้เขาหมดนั่นแหละ"

 

 

    เรียกว่าตอนนี้ครอบครัวมีความสุขในทุกๆเรื่อง
    "มันก็มีความสุขมันก็มีความทุกข์มาด้วยแหละแต่ว่าทุกคนไม่ค่อยเยอะมากความสุขมันเยอะกว่ามันก็เลยกลบความทุกข์ไปหมดเท่านั้นเอง"

 

 

    จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้รักตั๊กมากขึ้นไหม
    "รักมากขึ้นแหละ เขาก็รักลูกเรา ถ้าไม่รักก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก นี่จะเข้าปีที่ 20 แล้วไม่ได้ฉลองอะไร ทุกๆ ปีก็เหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเราก็ไม่ได้จัดอะไรหรูหรามากมายกินเท่าที่มีเท่านั้นถึงมีเยอะเราก็กินเท่าที่อิ่มแค่นั้นเองเก็บตังค์ไว้ใช้ตอนแก่"