'เอ-พศิน' รับคุย สาวคนใหม่ 5 เดือน หลังหย่าอดีตภรรยา

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เป็นประกระแสข่าวมาหลายวันกับเรื่องราวการหย่าของ "เอ" พศิน และ "แตงกวา" ล่าสุด หนุ่มเอ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการคุยแซ่บโชว์ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า 

ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
 “ตอนนี้น้องเลโก้ อยู่เพชรบูรณ์ แต่เดี๋ยวผมจะไปรับเขากลับมาเรียนต่อที่กรุงเทพ ตอนนี้อยู่อนุบาล 2 แล้ว”

การเลี้ยงลูก จะแบ่งกันอย่างไรกับอดีตภรรยา
 “เดี๋ยวเลโก้จะกลับมาอยู่บ้านของเขาเอง ที่ผมดูแลอยู่ตลอดเวลา แตงกว่าจะดูแลลูก คุณแม่ของแตงกวา จะมาช่วยดูด้วย ในช่วงที่แตงกวาไปทำงาน”

เรียกว่ากลับมาอยู่บ้านเดียวกัน
 “อาจจะเป็นไปได้ แค่แยกห้องกัน คือตอนนี้หย่าเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 5 เดือนอย่างที่แตงกวาบอก”

ก่อนหน้านี้เหมือนบอกว่าหย่าแก้เคล็ด อันนี้กี่รอบ
 “รอบเดียวครับ แก้เคล็ดอันนี้แก้จริง เพราะเขาบอกว่าถ้าจะสร้างวัตถุมงคล ถ้าเราไม่ได้ปฏิบัติเหมือนพระก็จะเจอวิบาก มันเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่เราก็ไม่ได้โทษเรื่องวิบากกรรม แต่เราก็แก้เคล็ดไว้ก่อน เพราะว่ามีช่วงหนึ่งที่งานน้อยลง อย่างที่แตงกวาบอก พอหย่าแล้วงานเยอะขึ้นจริง พอเราแยกลายของการทำงาน เราให้โอกาสเจาในการเติบโต เพราะว่าเขามีไอเดียเยอะ มีโปรเจคเยอะไปหมด อยากจะก้าวไปข้างหน้า เลยทำให้อยู่คนล่ะทีกัน”

เหตุผลหลักที่หย่าเพราะอะไร
 “เหตุผลแตงกวาได้ชี้แจงไปแล้ว คือเหตุผลเดียวกัน เรื่องของการสอดคลองในการใช้ชีวิต ผู้หญิงเก่ง เป็นแม่อย่างเดียวมันก็เป็นการตัดโอกาสเขา เขามีความเชื่อว่า เขามีโอกาสก้าวหน้าไปได้ เมื่อมีเงินก็มีความมั่นคง อนาคตของลูกจะปลอดภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเขามีความเชื่อมั่นว่าเขามีความก้าวหน้าได้ จะแค่ไหนก็ตาม เราก็ต้องให้อิสระในความคิดของเขา”

เรียกว่ามีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง
 “เป็นเรื่องของความก้าวหน้าครับ ไม่ใช่เรื่องเงิน”

อันนี้เป็นความคิดของแตงกวา 
 “ใช่ครับ ผมเคารพในการตัดสินใจของคนในครอบครัวอยู่แล้ว เหมือนกับเขาที่เคารพการตัดสินใจของเรา เราเคยบอกว่าอยู่ไปแบบนี้ ค่อยๆแสวงหาความก้าวหน้า บังเอิญว่าผมอายุมากแล้ว มุมมองของวัยมันก็ต่างกัน”

อายุที่ห่างกันมันมีส่วนไหม
 “อายุห่างกัน 22 ปี เหมือนพ่อลูกป่ะ มันมีส่วนอยู่แล้ว ต่อให้อายุห่างกัน 1 ปี ถ้าทัศนะคติในการใช้ชีวิตต่างกัน ก็ต้องคุยกัน”

ตอนที่เขาตัดสินใจอย่างนั้นเราเฮิร์ตไหม
 “ไม่เฮิร์ต เราเข้าใจ ผมนั่งสมาธิศึกษาธรรมะ เรารู้ว่าจิตใจของคนเรามันเปรียนแปลงได้ตลอด ในเรื่องของเป้าหมาย คำถามในวันนี้ พรุ่งนี้ผมอาจจะตอบไม่เหมือนเดิมก็ได้ เราก็อดทนรอคอยว่าวันนึง เป็นไปได้มั้ยที่ครอบครัวจะกลับมาเหมือนเดิม ถ้าเป้าหมายถูกทำให้สำเร็จแล้ว”

ตอนนี้แยกบ้านกันอยู่
 “ใช่ครับ บ้านหลักก็คือบ้านของลูก บ้านของครอบครัว ซึ่งตอนนี้ผมก็อยู่ เพราะว่าเป็นบ้านที่เราเก็บวัตถุมงคลไว้ด้วย”

มีข่าวออกมาว่าแตงกวาโพสต์เหมือนทะเลาะกัน เราไม่ได้มีทะเลาะกันเลยใช่มั้ย
   "มันเป็นเรื่องของฟีลลิ่งมากกว่า เคยมีแฟนแล้วเลิกกันไปนานๆ แล้วอยู่ๆ แฟนมีคนคุย มีฟีลลิ่งที่มันนิดนึงมั้ย มันเป็นเรื่องของธรรมชาติมากกว่า ถูกจับมาประติดประต่อ"

เรามีหญิงคนใหม่หลังจากเลิกกันแล้วกี่เดือน
   "เราคุยเรื่องเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นปีแล้ว หย่ากันมา 5 เดือน นานมั้ยครับ คือไม่ได้มูฟออนเร็วนะ แล้วที่แยกกันอยู่ในเรื่องของการทำงานก็ 3 เดือน แล้วเราก็มีการคุยกันตลอดว่าอยากให้ป๊ามีคนที่ดูแลนะ เพราะเราก็อายุมาก แตงกวาเป็นคนพูด แตงกวาเป็นผู้หญิงที่เข้าใจชีวิต และค่อนข้างที่จะใจกว้าง ในขณะที่เราเองคือมีหัวใจเดียวกัน เราก็อยากให้เขามีคนที่ดีดูแล"

ต่างคนต่างบอกให้มีคนใหม่
   "ใช่ครับ ก็หย่ากันแล้ว คือเราไม่อยากปิดทาง เพราะโอกาสที่เราจะเจอหรือเขาที่จะเจอคนที่ดีกว่าเรามันมี"

แต่เหมือนเราเจอคนใหม่ก่อน
   "มันก็ไม่เร็วนะ เจอกันได้ 5 เดือน ขอไม่เรียกว่าคนใหม่ดีกว่า พอมันเจอกระแสสังคมแบบนี้เขามีพ่อแม่ เขามีความคิดเห็นของครอบครัว เขาไม่ใช่บุคคลสาธารณะแบบผม แล้วเจอใครก็ไม่รู้มาตัดสินเขา และตัวตนของเขาค่อนข้างชัดเจน"

สถานะตอนนี้
   "ก็เป็นเพื่อนกัน เรียนรู้กัน ไปทำบุญด้วยกัน กับพ่อเขาเนี่ย เวลามีปัญหาเราก็คุยกันตลอด เพราะคุณพ่ออายุไล่ๆ กับผม คุณพ่อเขาเป็นคนนั่งสมาธิ เราคุยกันถูกชะตา เวลาผมจะคบใคร คบเพื่อนทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผมจะโปร่งใส ไปวัดก็ไปด้วยกัน"

น้องอายุห่างกว่าเรากี่ปี
   "โห ก็น่าจะเยอะเหมือนกันครับ น่าจะประมาณ 20 ปี"

น้องเขาย้ายมาอยู่กับเรามั้ย
   "ไม่ๆ เขาคงยังไม่ตัดสินใจอะไรในช่วงนี้ เพราะเหมือนตอนนี้ชีวิตโดนกระทบเยอะจากสื่อ ซึ่งผมว่ามันก็ไม่แฟร์นะ เพราะถูกตัดสินจากคนที่ไม่รู้จัก"

พอมีข่าวน้องเขาก็โดนถล่มเยอะเหมือนกัน
   "น่าห่วง ก็ให้กำลังใจไป แต่เขาบอกว่าเขามีความสตรองอยู่พอสมควร"

จะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ที่จะคืบหน้าไปมั้ย
   "อยู่ที่เขานะ ต้องบอกก่อนว่าคนที่จะเข้ามาในชีวิตผมเนี่ย ต้องยอมรับอย่างนึงว่าผมเป็นพ่อม่าย มีลูกชาย เขาเป็นคนโสดที่มีครอบครัว มีเป้าหมายที่ต้องดูแลคือลูกชาย ก็ต้องเข้าใจหน้าที่ของการเป็นพ่อเป็นแม่ด้วย ถ้าเข้าใจในตรงนี้ก็จะไปกันได้ เพราะมีหลายครอบครัวที่พ่อแม่ไปมีครอบครัวใหม่ ยังดูแลลูกได้ดีและอบอุ่นกว่าเดิมด้วย"

สถานะที่เรายังอยู่กับอดีตภรรยาและยังมีลูกอีก คนใหม่ที่กำลังจะเข้ามา จะรับได้หรือเปล่า
   "ถ้าสมมติทุกอย่างมันดำเนินไปได้อย่างสวยงาม และไม่ได้ถูกแตะต้องด้วยสื่อที่ไม่เป็นธรรม เมื่อก่อนผมอยู่คอนโดใช่มั้ย คอนโดก็ยังอยู่ มันจะมีทิศทางของการใช้ชีวิตที่เหมาะสมและลงตัวในที่สุดครับ"

เรากับเอิงเอยไปเจอกันได้ยังไง มีคนพูดถึงอาชีพเขาว่าเป็นพริตตี้?
   “ตรงนี้ผมคิดว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง เตรียมตัวไว้เลย พรบ.คอมพิงเตอร์มีอยู่ เรื่องของการปรับ ปรับหมดตัวเลยนะ แล้วสามารถสืบค้นได้ด้วย สิ่งใดก็ตามที่ไม่เป็นความจริง ไม่ชอบธรรม สุดท้ายแล้วจะถูกเปิดเผยออกมา”

เขาไม่ได้เป็นพริตตี้อย่างที่มีกระแสข่าวใช่มั้ย?
   “พริตตี้นี่ไม่ผิดนะ พริตตี้คืออาชีพที่สุจริต พริตตี้ในสังคมที่เป็นคนดีเลี้ยงพ่อแม่ได้เยอะแยะ ฉะนั้นคำว่าพริตตี้เราไปดูถูกเขาไม่ได้”

ล่าสุดเขาไป ปอท เพื่อดำเนินคดีกับคนที่กล่าวเขาใช่มั้ย?
   “อันนี้ผมไม่ทราบครับ เพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้า น้องไม่ได้บอกก่อน แต่เห็นเช็คอินในฟีดเฟสบุ๊ค”

กลัวคนใหม่กับคนเก่ามีปัญหากันมั้ย?
   “กับแตงกวา ผมเชื่อว่าไม่มีปัญหาใดๆเลย เพราะเมื่อเราบอกว่าเป็นเพื่อน เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน เรายังเป็นพ่อ เป็นแม่ ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องของหน้าที่ แต่เป็นความรักที่มีต่อลูกชาย สุดท้ายเขาจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและสวยงาม เพราะผมก็เติบโตมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ที่แยกทางกัน แต่ผมก็มีความสุข มีความอบอุ่น ไม่เคยขาดตรงนี้”

วางแผนไว้มั้ยว่าจะอธิบายให้ลูกฟังตอนไหน?
   “ผมเชื่อในความแข็งแกร่งของลูก เพราะลูกจะมีส่วนผสมของผม อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ว่าผมมีความสุขุม ใจเย็น ผมก็ยึดมั่นและเชื่อในความดีที่ผมทำไป ความจริงต่างๆจะปรากฏในไม่ช้า คนจะได้เห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นยังไง คนที่เข้าใจผิดกฌไม่เป็นไร ให้อภัยไป ส่วนความเด็ดเดี่ยวของแตงกวา ความน่ารัก ไปที่ไหนคนก็เมตตาก็มีอยู่ในตัวของลูกชายอยู่แล้ว ฉะนั้นการผสมผสานของ 2 คนก็จะเกิดความบาลานซ์”

วันหนึ่งถ้าใครเปิดตัวคนใหม่ก่อนจะมีผลต่อลูกมั้ย?
   “ไม่มีผลแน่นอน ทุกวันนี้ลูกยังถามว่าป๊ะป๊าพริตนี้อยู่ไหน หนูอยากไปหาพริตตี้ คือเขาพูดเล่นๆนะครับ เขาชอบผู้หญิงสวย”

เขาเคยเจอกันแล้ว?
   “ไม่ๆ ไม่เคยเจอ เขาเห็นพริตตี้ตามงาน เขาถึงถาม แต่ไม่ได้เจ้าชู้ได้ผมนะ”

แตงกวาพูดว่าเขาไม่มีอารมณ์ทางเพศ ทำให้เราต้องอดทนถึง 3 เดือน?
   “อันนี้เกิดจากการถามคำถามในรายการ ซึ่งบางทีไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง และบางอย่างก็ไม่ใช่เรื่องจริง จริงๆเขาก็เป็นคุณแม่แล้วก็ทำธุรกิจ เวลาเจอคำถามบางอย่าง ไม่ตอบก็ได้ แล้วคำตอบบางอย่างก็ไม่จริงในเรื่องของเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยว ผมก็ปกติดี”

คนที่จะเข้ามาใหม่ต้องมีส่วนที่เข้ากับลูกเราได้?
   “แน่นอนครับ ผมบอกอยู่แล้วว่าผมมีลูกเป็นศูนย์กลางของหัวใจผม”

ได้คุยกับเอิงเอยมั้ย เขาเข้าใจหรือเปล่าว่าเราเป็นพ่อหม้าย มีลูกติด?
   “เข้าใจครับ ผมเป็นคนที่หลายๆคนติดตามอยู่แล้ว ความเป็นจริงของชีวิตก็อยู่ในโซเชียล ซึ่งเขาก็โอเค”

เขาเองก็แต่งงานมีลูกแล้ว?
   “ใช่ครับ นั่นเป็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เราเข้าใจหรือมีวิสัยทัศน์ที่คุยกันได้มากขึ้นถึงตัวตน เพราะผู้หญิงไม่เคยผ่านการมีครอบครัวมาก่อน การที่เราจะคุยกัน ยากนิดนึง”

ต่างฝ่ายต่างมีลูกทั้งคู่?
   “ใช่ครับ ก็ต้องดูปลายทางว่าถ้าไม่ถอยไปซะก่อน ช่วงนี้ต้องใช้สติมากๆในการใช้ชีวิต ก็ลองดูว่าเมื่อทุกอย่างกระจ่างและผ่านช่วงนี้ไปได้ เราอาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ก็ได้”

ยืนยันว่าเอิงเอยไม่ใช่มือที่สาม?
   “ไม่แน่นอน ด้วยไทม์ไลน์ ด้วยอะไรก็ตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความสงบสุข ความเข้าใจผิด แต่ความเข้าใจผิดทำให้เกิดความวุ่นวายแบบนี้”

คาดหวังยังไงกับความรักครั้งใหม่มั้ย?
   “ไม่ว่าความรักครั้งใหม่จะยืนยาวหรือไปได้ไกลแค่ไหนก็ตาม อยากให้รู้ว่าเป้าหมายในชีวิตของผม ไม่ใช่การมีคนใหม่ แต่คือการดูแลลูกให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นคนที่เข้ามาเป็นครอบครัว ต้องเป็นครอบครัวของลูกผมด้วย”