ได้ทำตามฝันแล้ว ปู ไปรยา ประกาศอำลาแคทวอล์ค

 

                ทีมบันเทิง คมชัดลึก - บินกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อคืนผ่านมา นักแสดงสาว "ปู" ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ก็มาร่วมงาน UNHCR ในฐานะทูตสันถวไมตรี ได้เปิดใจถึงชุดสุดวาบหวิวที่สาวปูได้เดินสับขาบนเวทีแคทวอล์คในสัปดาห์แฟชั่นกรุงลอนดอนให้กับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง AADNEVIK (อาดเนวิค) ในคอลเลคชั่น Spring Summer 2020 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า

 

 

 

 

 

                ไปเดินแฟชั่นโชว์มา เป็นอย่างไรบ้าง

                “ใช่ค่ะ เดินแฟชั่นโชว์ เดือนที่แล้วบินมา นี่คือไฟลท์ที่ 17 ค่ะ 17 ไฟลท์ใน 30 วัน ก็ไปเดินที่ลอนดอนมา ไปแคสมา ตัวเตี้ยกว่าคนอื่น (หัวเราะ) แต่ใจสู้ ก็ไม่น่าจะมีการเดินแบบอีกแล้วนะ ปูว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของปูแล้ว เพราะปูรู้สึกว่าได้ทำทุกอย่างที่ตัวอยู่อยากทำแล้ว เดินมิลานแล้ว กับ Dolce&Gabbana แล้ว ครั้งนี้ที่ลอนดอน ปูรู้สึกดีกับตรงนี้แล้ว”

 

                มันท้อหรือยังไง

                “ไม่ท้อ ความฝันปูไม่ได้อยากจะเป็นนางแบบอยู่แล้ว แต่อยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ รู้สึกว่าฉันได้ทำแล้ว ฉันตัวเล็กแล้วได้เดินเปิดและปิดโชว์เขาแล้ว ก็โอเค (หัวเราะ)”

 

                ไม่เสียดายโอกาสเหรอ

                “ถ้ามีโอกาสจริงเดี๋ยวว่ากัน แต่ ณ ตอนนี้อย่างที่บอก ปูมีแผนชีวิตที่แตกต่าง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่ไปลงพื้นที่ มาในจังหวะที่ถูกต้องมาก รู้สึกว่าตัวเองอยากจะทำอะไรที่ใหญ่กว่านี้”

 

 

 

 

                แต่การทิ้งทวนครั้งนี้ดูแซ่บมาก

                “ใช่ (ยิ้ม) ตอนเดินก็แอบห่วงอยู่เหมือนกัน (เราเซฟยังไงกับชุดนั้น?) จริงๆก็แอบคุยเพจใต้เตียงกันสองคน บอกว่าคนถามเยอะมากเลยนะ ปูใส่อะไรข้างใน รักเพจนี้มาก แล้วเพจหนูน้อยก็รักเหมือนกัน ก็คือบอกว่าจริงๆมันเป็นกางเกงในพิเศษค่ะ แต่ชั่วโมงนั้นตอนเดิน ปูไม่เคยคิดว่าตัวเองตัวเล็กหรือสูง เวลาปูเดินปูจะคิดว่าผู้ชายที่ปูชอบมากๆ ยืนอยู่ข้างหน้า แล้วตอนที่หันหลัง เขาจะต้องเดินตามมา (หัวเราะ) ตัวเล็กตัวสูง ไม่สนค่ะ ส่วนผู้ชายที่นึกถึงก็คือแฟนค่ะ (หัวเราะ)”

 

                มั่นใจขนาดไหนกับชุดนั้น

                “ตอนใส่ตอยแรกก็อู้ว เย็นๆ แต่พอฝึกเดินเสร็จแล้ว เขาบอกว่าเดินเปิดกับปิดนะ ปูช็อค เพราะตอนแคสเสร็จ ปูเห็นทุกคนสูงมาก แล้วปูก็มองว่า โอ๊ยตายละ สูงมาก พอบอกว่าเดินเปิดกับปิดนะ เอาอยู่นะ เราก็แบบไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเอาอยู่ไหม แต่ตอบว่าเอาอยู่ไว้ก่อน”

 

                ทำไมเขาถึงให้เกียรติเราเดินเปิดและปิด

                “ไม่รู้ค่ะ แต่ตอนเดินก็คิดในใจ คือต้องเข้าใจอารมณ์คนไปแคส พอเราเห็นคนสูง เราก็แบบมีเท่าไหร่ใส่เท่านั้น คิดในใจว่าเราไม่ต้องให้เขาเห็นนะ ว่าจริงๆแล้วเฟลมาก เพราะคิดว่าไม่น่าจะได้ แต่พอได้รู้ว่าได้เปิดกับปิดก็โอเค รู้สึกว่าเอาเหอะ นานๆทีแล้วกันเนอะ  แรงกดดันสูง”

 

 

 

 

                บรรยากาศตอนแคสติ้ง ต้องแข่งขันกันขนาดไหน ถึงจะได้ไปอยู่จุดนั้น

                “ช่วงหลังสังเกตดู ปูจะไม่พูดแล้วว่าไปไหน เพราะตอนนี้รู้สึกว่าชีวิตปูตอนนี้กดดันมาก ปูพาตัวเองไปในสถานการณ์ที่ปูไม่คิดว่าปูจะอยู่ และทุกครั้งที่ปูอยู่ ครั้งหนึ่งที่ปูประสบความสำเร็จ 99 ครั้งปูเฟลไปก่อนหน้านั้น เลยจะบอกว่าทุกครั้งปูเอาใจและศักดิ์ศรีตัวเอง และพยายามพิสูจน์คุณค่าตัวเองต่อหน้าคนอื่น บอกว่าเนี่ยเลือกฉันเถอะ ฉันกราบล่ะ แล้วทุกครั้งที่ทำแล้วผิดหวังกลับมา คนจะเห็นแค่ตอนที่เราทำได้ แต่ร้อยทั้งร้อยไม่ได้”

 

                ตอนแคสติ้งจากกี่คนเหลือกี่คน

                “มันก็เหมือนเมืองไทยอะ เมืองไทย ปู ไปรยา คือ ปู ไปรยา แต่มีผู้หญิงที่ไปแคสโฆษณาแล้วไม่ได้เหมือนกัน เลยบอกเมืองนอกเมืองไทย ก็แข่งขันเหมือนกัน เข้าใจอารมณ์คนที่มีความฝัน เราบอกว่าที่โน้นยากกว่าที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่เองก็ยาก ปูยังนึกถึงสมัยก่อน ที่พี่เอพาปูไปเจอ คุณแดง สุรางค์ ตอนนั้นปูไปแคสโฆษณาผม ปูตัวคล้ำมาก พอเข้าไปเขาบอกคนนี้เหรอ ไม่เอา (หัวเราะ) ยังจำความรู้สีกได้เลยนะ พี่เอพาไปเจอคุณแดงจนได้ แล้วคุณแดงเซ็นกับปู ปูยังงงเลย ว่าเลือกฉันจริงเหรอ เลยอยากจะบอกว่ามันไม่ต่างกันกรอกค่ะ”

 

                ย้อนกลับไป ตอนเห็นชุดผ่าสูง เราตกใจไหม

                “เขาให้เปิดกับปิด ชั่วโมงนั้นไม่เลือกเยอะเรื่องชุดแล้ว คือจะหน้าผม เครื่องสำอางยังไง ลุยค่ะ หนูตาไม่เท่ากันแต่หนูสู่ค่ะ (หัวเราะ) ตอนเห็นชุดก็นึกในใจ ว่าถ้าหลุดนะ ประเทศไทยสนุกแน่ (หัวเราะ) ถามว่าเรากลัวจะหลุดไหม ก็กลัวค่ะ แต่คิดในใจว่าโห...สิ่งสักสิทธิ์คุ้มครองนะ แล้วลูกจะเดินเต็มที่ (หัวเราะ)”

 

 

 

 

                มีการเซฟอย่างไรบ้าง

                “จะมีทีมงานแบล็กสเตจ ก็หยิบกล้อง บอกคุณคะ เปิดกล้องเรคคอร์ดค่ะ ดิฉันจะเดิน เป็นไง งั้นหมุนๆ เห็นไหมคะ เขาก็แบบไม่เห็นอะ แล้วยูจะซ้อมกี่ทีเนี่ย เราก็แบบซ้อมจนกว่ามันจะเห็นอะค่ะ แต่ก็ไม่เห็นๆ”

 

                ชุดนี้เราเห็นตอนจะก่อนจะขึ้นรันเวย์ทีเดียวเลยไหม

                “เห็นก่อนขึ้นเลย เราไม่ได้ฟิตติ้ง มีไปฟิตติ้งแค่ 2 ชุดสุดท้าย ชุดขาวที่ฟิตติ้งคือชอบมาก แต่ชุดแรกเห็นก่อนเดิน คือไม่กล้าเรื่องเยอะอะ ตอนนั้นคิดในใจ โอเค จะทำอะไรก็โอเค จะได้เดินก็โอเค แล้วก็มาพิจารณาว่าตายแล้ว ตอนกล้องยิงแฟลชบางไหม คำถามขึ้นมาเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ออกมาสวย โอเค”

 

 

 

 

                พอคนวิจารณ์เยอะถึงชุดนี้ เราได้ดูไหม

                “ปูดีใจมาก คนไทยนอกจากชื่นชมแล้ว มีความน่ารักในเชิงสงสัยว่าเซฟยังไง คนให้ความสนใจเยอะมาก แล้วให้กำลังใจว่าปูตัวเล็ก แต่ก่อนจะถามว่าทำทำไมปูตาไม่เท่ากัน ตอนนี้จะเห็นทุกเพจๆก็จะบอกว่าเพราะปูมั่นใจในแบบที่ตัวเองเป็น ซึ่งปูก็เชื่อมาตลอด เพราะปูไม่อยากทำศัลยกรรม เพราะเวลาเราไปลงพื้นที่ เราจะเห็นคนที่จำเป็นต้องทำจริงๆ แต่สำหรับปู ถ้าต้องทำจริงๆ ปูถึงทำ แต่ตาปูโอเคแหละ ไว้แบบนี้แหละ ก็ถือจิ๋วแต่แจ๋วค่ะ แต่จริงๆแล้วข้างในคือหวั่นมาก (หัวเราะ)”

 

                ได้คุยกับดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ไหม

                “ก็ขอบคุณเขา ก็ถามว่าชอบไหม เขาก็บอกว่าชอบ เดินสวย”

 

                ตอนเดินเรากลัวไหม ว่ากระโปรงจะเปิด

                “ตอนนั้นไม่กลัวเลยค่ะ ตอนเดินออกมา คิดในใจโอเค เพื่อประเทศไทยค่ะ เพราะรู้ว่าถ้าตัวเองพลาดนะ กลับมาคือสนุกแน่ แล้วคิดในใจนะ ว่ามาขนาดนี้ แล้วเสนอหน้าไปเองนะ เธอห้ามพลาดเด็ดขาด (หัวเราะ)”

 

 

 

 

                แฟนหนุ่มของเราเขาคอมเมนต์ว่าอย่างไรบ้าง

                “ปกติเขาจะดุเรื่องชุดนิดหนึ่ง แต่ครั้งนี้เขาบอกว่า ฉันเห็นเธอตัวเล็กกว่าคนอื่น ฉันรู้นะว่าใจเธออะหวั่นมากเลย เราก็บอกขอบคุณ เขาก็บอกฉันรู้ เรื่องชุดก็เลยช่างมันเถอะ เขาบอกเดินสวย บางครั้งฉันก็ภูมิใจนะ เขาบอกว่าตัวเล็กไม่น่าจะอยู่ในกลุ่มนั้นได้ แต่เดินมั่นนำเขาไปเลย เขาไม่ตกใจเรื่องชุดเลยนะ เพราะปูบินไปลอนดอนแค่ 24 ชั่วโมง จากแอลเอ แล้วเขาก็พูดกับปูว่า ยูบินเยอะขนาดนี้จะใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ เขาบอกพักผ่อนๆ”

 

                เขาไม่หวงเหรอ

                “ช่วงหลังไม่ค่อยแล้ว ทำไมไม่รู้ เขาก็รู้สึกว่าปล่อยวาง ปูทำงาน เหมือนเดือนที่แล้วเราเพิ่งมาเจอกันที่โคลัมเบีย หลังจากไม่ได้เจอกัน 1 เดือน แล้วเดือนนี้ก็ไม่ได้เจอกันอีก 1 เดือน ห่างกันเพราะทำงานเยอะมาก เขาก็ปูว่าเธอควรจะพักบ้าง กลับมาครั้งนี้ปูน้ำหนักลงเยอะ แล้วปูไม่เคยโรยขนาดนี้ ก็ยอมรับว่าอิดโรยนิดหนึ่ง เขาเลยบอกว่าพักนิดหนึ่งก็ดี”

 

                มีแพลนพักบ้างหรือยัง

                “ไม่มีค่ะ”

 

                คิวงานเราตอนนี้ไปถึงปีหน้าเลยไหม

                “คิวยาวนะ ถึงปีหน้า แต่พยายามวางแผนชีวิตอยู่ ว่าสเต็ปต่อไปคืออะไร เป็นภาวะที่เหมือนเราเดินทางเยอะขนาดนี้ มันจะมีเรื่องค่าใช้จ่าย มีแรงกดดัน มีกระแสถึงประเทศไทย มีหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ มีหลายอย่างที่ปูห่างหายจากวงการไม่ได้ ด้วยความที่กลัวว่าความนิยมมันจะตกลง แล้วรายได้เราจะหาย แรงกดดันตรงนี้เลยหนักมาก บินไปบินมา”

 

                เราเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งไม่ได้ใช่ไหม

                “ไม่ได้ เพราะรายได้อยู่ตรงนี้ ความฝันอยู่ที่โน่น”

 

                แล้วตอนนี้เป้าหมายเราคืออะไร

                “ปูเป็นคนไม่บอก่อนทำ ก็เหมือนเดินแบบอะเนอะ ถ้าวันไหนปูถึงเป้าหมายปูจริงๆ วันนั้นปูจะบอกเอง ว่าถึงแล้วนะ ขออนุญาตถอยออกมาทำงานมนุษยธรรม”

 

 

 

 

                ล่าสุดมีชื่อเข้าชิงรางวัลบนเวที People's Choice Awards

                “ใช่ มีน้องออกแบบ ชุติมณฑน์ ด้วย เป็นสาขา “The Most Inspiring Asian Woman of 2019” ผู้หญิงเอเชียที่สร้างแรงบันดาลใจในกับโลกในปี 2109 ตอนที่เอเจนซี่ส่งอีเมลนี้มา จำได้เลย จริงๆปีนี้เป็นปีที่ชงของปูนะ คนอื่นอาจจะไม่รู้ ปูอาจจะไม่ได้บอกับใครว่าปูเจออะไรบ้าง แต่จริงๆปีนี้บางเรื่องก็เพราะกระทำเอง บางเรื่องก็เพราะโดนกระทำ บางเรื่องก็เพราะความประมาท แต่ปีนี้เป็นปีนี้ชงรอบด้านจริงๆ แล้วพอปูได้ยินว่าได้รับรางวัลนี้ คือปูกรี๊ดลั่นร้านอาหารเลย ตอน 5 ทุ่ม แล้วตั้งใจเด็กปูดูรายการนี้ตลอด แล้วพอเห็นชื่อปู ชื่อน้องออกแบบ คนใดคนหนึ่งได้ก็ Yes Go Thailand! ก็รู้สึกดีใจ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประกาศค่ะ เป็นนอมีนีอยู่ ซึ่งแต่คนใหญ่หมดเลยค่ะ มีดาราเกาหลี มีดาราอินเดีย ประชากรเขาเยอะ ก็ต้องทำใจ ว่าโหวตเขาน่าจะเยอะกว่าฝั่งเรา แต่แค่ได้เข้าชิงก็ดีที่สุดแล้ว ไม่เป็นไรจริงๆ แค่นี้ก็ปลื้มใจจะขาด แล้วก็ฝากโหวตให้ทั้งน้องออกแบบ แล้วก็ปูด้วยนะคะ ตัวน้องเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ปูมองว่าเป็นแรงบันดาลใจมาก เพราะทั้งประสบความสำเร็จด้านภาพยนตร์ ทั้งในเชิงแฟชั่น ถ้าโหวตได้ก็วันละคนก็ได้ (หัวเราะ)”

 

                จะไปร่วมลุ้นเองไหม

                “ไม่รู้ค่ะ ต้องถามเอเจนซี่ว่าเขาอยากให้ไปหรือเปล่า เพราะอันนี้ต้องผ่านเขา”

 

                ส่วนตัวเราลุ้นขนาดไหน

                “จริงๆตอนแรกก็ลุ้นมาก แต่นิสัยคนอะ ตอนแรกเราก็กดโหวตตัวเอง กดน้องออกแบบ แต่พอ 1 เดือนผ่านไปก็กดโหวตไม่ไหวแล้ว เหนื่อย (หัวเราะ) อยู่ที่ดวงชะตาแล้วกันเนอะ”