บันเทิง

'บี้-ธรรศภาคย์' เคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บี้" ธรรศภาคย์ ชี เปิดใจเคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง ห่างไกล "กุ๊บกิ๊บ" สุมณทิพย์ ไม่มีหึงหวง

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่โกอินเตอร์ไปดังในต่างประเทศ สำหรับ "บี้" ธรรศภาคย์ ทำให้หนุ่มบี้ต้องห่างกับครอบครัว เพราะต้องเดินทางอยู่ตลอดๆ ล่าสุด หนุ่มบี้ ได้เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ถึงเรื่องดังกล่าวว่า

 

ช่วงนี้มาอยู่เมืองไทยได้กี่เดือนแล้ว?
บี้ : อยู่ไทยมาประมาณเกือบ 8 เดือนแล้วครับ ล่วงนี้กลับมาอยู่นานครับ คือกลับมาทำธุรกิจเบื้องหลังบ้าง แล้วก็มีหลายอย่าง

เห็นว่ากลับมาครั้งนี้มีแพลนปั๊มลูกคนที่2?
บี้ : จริงๆ ก็ปั๊มอยู่ตลอด แต่จริงๆ เราก็เรื่อยๆ เราไม่มีแพลน แล้วแต่เลย แต่ก็มีคิดนะว่าถ้ามีลูกคนที่2 เราจะแบ่งความรักกันให้ดีที่สุด 

กับพ่อที่เปารักเหลือเกิน รักขนาดที่ว่าหึงพ่อกับแม่?
บี้ : คือถ้าเขาหึงพ่อกับแม่ไม่ค่อยมี แต่ผมเนี่หึงลูกกับกิ๊บ พวกเราค่อนข้างที่จะตัวติดกันมาก นานๆ บี้จะกลับมาไม่ว่าทำอะไรเราจะอยู่ด้วยกันตลอด

ตอนนี้เป่าเปาเริ่มโตแล้ว อยากเข้ามาเป็นส่วนร่วมในโรงเรียนปีแรกหรือเปล่า?
บี้ : คือบี้ไปรับ-ส่งลูกทุกวันอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าถ้าไม่ติดอะไรจำเป็นจริงๆ เราก็ไป คือเราเองตอนเด็กเราไม่มี พ่อแม่เรายุ่ง แล้วทุกครั้งที่เราเดินออกจากโรงเรียน แล้วเพื่อนมีพ่อ แม่ มารับบ้าง เราเดินจากโรงเรียนกลับบ้านตั้งแต่ ป.2 คือตั้งแต่ไม่มีเปาเราก็บอกตลอดว่าถ้าเราเป็นพ่อขึ้นมาจริงๆ เราต้องพยายามไปรับลูกให้ได้ มันเป็นเซอร์ไพรส์ที่มีความสุข

แต่บี้ก็มีความรู้สึกผิดต่อเป่าเปา ต่อกุ๊บกิ๊บ รู้สึกว่าตัวเองยังบกพร่องอยู่ มันคืออะไรที่ทำให้เรารู้สึกไปถึงตรงนั้น?
บี้ : จริงๆ มันเริ่มตั้งแต่ไปทำงานที่จีนแล้ว ตั้งแต่บวชด้วย ตั้งแต่เป่าเปา 4 เดือน แล้วบี้ตัดสินใจไปบวชเดือนกว่า แล้วบี้รู้สึกว่าบี้ไม่ได้ช่วยกิ๊บเลย หรือเราไปทำงานที่จีน เราก็ไปถ่ายที 2 เดือน เสร็จแล้วต่ออีก 3 เดือน ต่ออีกเรื่องนึง ผมมีช่วงนึงที่เกือบ 10 เดือนไม่ได้กลับบ้านครั้ง 2 ครั้ง แล้วบี้รู้สึกว่าไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อที่ดีที่อยู่กับลูกตลอดเหมือนคุณพ่อคนอื่นๆ อันนี้เป็นสิ่งที่บี้รู้สึกผิดตลอด ซึ่งบี้จะบอกกิ๊บตลอดว่า ขอโทษนะ ขอบคุณนะ ที่เราไม่ได้อยู่ตั้งแต่ที่ลูกเดินเป็นครั้งแรก บี้รู้สึกเสียดาย

'บี้-ธรรศภาคย์' เคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง



บี้ก็ไม่ได้เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้คนเดียว วันเกิดที่ผ่านมาได้พูดกับกิ๊บด้วย ว่าตัวเองรู้สึกบกพร่อง?
บี้ : จริงๆ บี้ว่าสำหรับคำว่าขอบคุณกับขอโทษมันเป็นคำที่พูดได้บ่อยอยู่แล้ว สำหรับชีวิตคู่ แล้วบี้ก็ไม่ได้เขินอายที่จะกูดกับเขา แต่ว่าอยากจะขอบคุณเขา ก็คือเหมือนเขาดูแลลูกแทนเรามาเยอะเราก็ต้องขอบคุณเขามากๆ 

ที่ผ่านมากุ๊บกิ๊บเคยรู้ว่าว่าเขาเหนื่อย หรือเข้าบ่นท้ออะไรให้บี้ฟังบ้างไหม?
บี้ : ไม่เคยครับ มีแต่บี้ถามเขาว่าเธอโอเคเปล่า เธอไหวเปล่า เธอไม่ไหวเดี๋ยวบี้ทำเอง

เรื่องการหึงหวงมีบ้างไหม?
บี้ : ไม่ค่อยนะ หึงหวงเรื่องลูก คือเขาเชื่อใจ เขาไม่เคยเช็กโทรศัพท์ เขาไม่เคยถามว่าเธออยู่กับใคร ทำอะไร ที่ไหน มีแต่บี้คอยบอกเขา คือด้วยความที่อายุมันมากขึ้น แล้วเรารับผิดชอบเยอะขึ้น เราทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เราทำอยู่ตลอดเวลานั่นคืองานอย่างเดียว เราแทบจะไม่มีเวลาไปคุยอะไรกับใครหรือทำอะไรกับใครได้

แล้วบี้หึงกุ๊บกิ๊บบ้างไหม?
บี้ : มีนะ คือต่างคนต่างไม่ว่าจะแต่งงานแล้วมันก็จะต้องมีคนเข้ามาอยู่แล้ว คือเราเองเราจะรายงานอยู่แล้ว จะบอกว่าผู้หญิงคนนี้เขาคิดอะไรกับเราก็จะเล่าให้กิ๊บเขาฟังบ้าง หรือกิ๊บมีคนเข้ามาเขาก็จะบอกว่านี่เธอมีคนไลน์มานะ บลาๆ ก็จะเล่ากัน ถามว่าจี้ดไหม ไม่นะเพราะเขาเป็นคนของเราอยู่แล้ว 

บี้ไปเป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่ต่างแดน อยากรู้จังเลยว่าถ้าเกิดเราเป็นพระเอกในระดับนี้ไปเดินตลาดไปเดินห้างต่างๆ ในประเทศจีน เสียงตอบรับจะเป็นยังไง?
บี้ : ดีนะ ตอนที่เดินข้างทางคนก็จะเรียกชื่อเรา 

'บี้-ธรรศภาคย์' เคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง

 

คือเราก็จะสูญเสียความเป็นส่วนตัวเหมือนตอนอยู่ในไทยเหมือนกัน?
บี้ : ครับ แต่ในจีนยังไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มี อย่างล่าสุดบี้เดินเข้าไปในช้อปนึงแล้วมันมีพนักงานเรียกชื่อเราแล้วสักพักเขาหายไป พอเขาหายไปคนในร้านก็หายไปด้วย คือเขากันคนออกหมดเลย 

เมืองจีนทำงานโหดไหม?
บี้ : ไม่นะ ทำงานทุกอย่างเป็นเวลา ทุกอย่างชัดเจน ทำงานกี่ชั่วโมง เกินแล้วกลับบ้านได้ แต่จะมีช่วงนึงที่อัดหนักๆ ถ่ายไม่หมดก็ถ่ายทั้งวันไป

แต่กว่าจะเป็นบี้แบบนี้ เขาเคยเป็นบี้ที่ไม่มีเงินเก็บเลยสักบาท ท้อด้วย ถึงขั้นคิดหันหลังให้กับวงการ?
บี้ : ในช่วงนั้นคือช่วงที่กลับมาจากเกาหลี ประมาณ 5-6 ปี มาแล้ว หลังจากบี้ไปเกาหลีตอนนั้นบี้ไม่เหลืออะไรเลย ตอนนั้นเราอยู่ในวงการแล้วก็ฝันอยากเป็นศิลปินเกาหลี ก็เลยตามฝันไปเกาหลี ตอนนั้นไปฝึกซ้อมมันไม่มีเงินเดือนสักเท่าไหร่ ทุกอย่างมันก็ใช้เงินบริษัทบ้าง เงินตัวเองบ้าง จนตอนหลังบริษัทเขาล้มแล้วเราต้องกลับมา แล้วตอนที่กลับมา ตอนนั้นมีซื้อคอนโด คอนโดนึง แล้วไม่มีตังค์เราต้องขายทิ้ง พอขายทิ้งเสร็จเงินเหลือติดตัวอยู่ 30000 บาท แล้วก็กลับมาเคลียร์ค่าห้องที่ไม่ได้อยู่ เหลือตังติดตัวหลักพัน ตอนนั้นไม่มีงาน ต้องยืมตังค์ไต้ฝุ่น เขาเป็นเพื่อนสนิท เขาช่วยมาก เรายืมเขาหลักหมื่นมาหมุนก่อน แล้วก็บอกตัวเอง บอกแม่ว่าไม่เวิร์ก ตรงนี้มันไม่ไหวแล้ว บี้บอกว่าขอเวลาอีกครึ่งปีเดี๋ยวถ้ามันล้มแล้วจริงๆ เดี๋ยวบี้ก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ กลับไปหางานทำที่หาดใหญ่ ที่บ้านก็ทำสวนยาง กลับไปเป็นเด็กสวนดีกว่า ผ่านไปไม่ถึงเดือน พี่เอส พี่ฉอดโทรมาว่ามีละครจะให้เล่น แต่เล่นเป็นชายรักชายนะ ก็เลยตัดสินใจไปเล่น ฟีดแบ็คดีมาก 

'บี้-ธรรศภาคย์' เคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง



ความรู้กสึกชายแท้ต้องไปเล่นบทชายรักชายรู้สึกยังไงบ้าง
บี้ : เอาจริงๆนะปากมันนิ่มไม่ได้ต่างจากผู้หญิงนะ แค่กลิ่นกับความรู้สึกที่ไม่ใช่ผู้หญิง

การกลับมาครั้งนี้คือทำให้เรามีงานเลย 
บี้ : ใช่ครับ มีงาน มีอีเว้นต์เข้ามาเลย 

หลังจากนั้นมีงานชายรักชายเข้ามอีกมั้ย
บี้ : ไม่มีหลังจากนั้นพิช (พิช วิชวิสิทธิ์ หิรัญวงษ์กุล) ก็แนะนำให้รู้จักกับกิ๊บ บี้อยากจีบกิ๊บเลยบอกให้เค้าติดต่อให้รู้จักหน่อย

เห็นกุ๊บกิ๊บจากที่ไหนแล้วเกิดความประทับใจ
บี้ : บี้เล่นละครกับพิชแล้วไปออกรายการของพี้วู้ดดี้ กิ๊บเคเาเป็นพิธีกรแล้วมีโมเม้นท์ที่เซลฟี่แล้วมองตาเค้าแล้วร฿สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารัก แล้วบี้อยากได้รูปเลยขอไลน์กิ๊บ

คิดมั้ยว่าจากวันที่มองตาจะยาวถึงวันนี้
บี้ : คิดนะ ตอนนั้นรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าค้นหา แล้วบี้ดป็นคนชอบผู้หญิงยิ้มสวย เค้าเป็นคนยิ้มสวย ตอนนั้นก็คิดว่าอยากมีชีวิตคู่ดีๆ เลยเดินหน้าจีบเค้า

'บี้-ธรรศภาคย์' เคยคิดหันหลังให้วงการบันเทิง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ