บันเทิง

'บอย' ควง 'อาแมนด้า' ฉลองมงคลสมรสชื่นมื่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บอย" พิษณุ นิ่มสกุล พร้อม "อาแมนด้า" ฉลองวิวาห์รอบ 2 เผยตื่นเต้นเป็นสามีภรรยาชีวิตเปลี่ยน ยันภาษาไม่เป็นอุปสรรค ลั่นพร้อมมีทายาททันที


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  หลังควงคู่เข้าประตูวิวาห์ทำพิธีแต่งงานในโบสถ์ไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 สำหรับ "บอย พิษณุ" กับภรรยาสาว "อาแมนด้า" ที่บ้านเกิดของฝ่ายหญิงในโบสถ์ Lund’s Domkyrka เมือง Lund ประเทศสวีเดน โดยวันนี้ (28 ก.ย. 2562) ทั้งคู่ไดัจัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้น ที่ สเปกทรัม เลาจน์ แอน บาร์ ชั้น 29 โรงแรม Hyatt Regency สุขุมวิท 13 พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชน

    การแต่งงานในครั้งนี้เป็นการจัดพิธีในประเทศไทย?
    บอย : "ใช่ครับ จริงๆแล้วจัดไปที่สวีเดนไปแล้วหนึ่งครั้งแล้วก็ครั้งนี้ก็เหมือนจัดให้กับสังคมเราเนาะ อยู่ในกลุ่มเรา เพื่อนๆ คนรู้จัก ผู้ใหญ่ แล้วก็ให้พี่ๆสื่อด้วย"

 

    ยังตื่นเต้นอยู่มั้ย?
    บอย : "ก็ตื่นเต้นอยู่ครับ จริงๆคือเขาก็ตื่นเต้น ผมก็ตื่นเต้นด้วย เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ออกสื่อด้วยกัน แล้วก็ต้องมานั่งสัมภาษณ์อะไรแบบนี้ก็ค่อนข้างตื่นเต้น แล้วงานถามว่าตื่นเต้นมั้ย ตอนแรกไม่ตื่นเต้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มตื่นเต้นล่ะ เพราะก็ใกล้เวลา"

 

    เล่าโมเมนต์ที่จัดในสวีเดนหน่อย เห็นจัดแบบเรียบง่าย?
    บอย : "ใช่ครับ เรียบง่าย เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวของอาแมนดาเขาที่สวีเดน แล้วก็เป็นครอบครัวของผม แล้วก็มีเพื่อนไปนิดหน่อย บรรยากาศที่นั่นก็จะอบอุ่นเป็นกันเอง แล้วก็งานจะเป็นแบบ sit down dinner ถึงเวลาก็จะมีสปีดของแต่ละคน ของคุณแม่ ของคุณพ่อเขา ของผมของคุณแม่ผม ของญาติๆ ก็อบอุ่นแบบง่ายๆ แล้วก็เข้าโบสถ์กันครับ"

 

    โมเมนต์เป็นยังไงตอนที่ให้คำมั่นสัญญา?
 
   บอย : โมเมนต์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นโมเมนต์ที่แปลกประหลาดที่สุดในชีวิตพอสมควร เพราะว่าก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันหนึ่งเราจะได้แต่งงาน แล้วก็ได้มีคนอีกคนหนึ่งเข้ามาในคู่ชีวิต ตอนสวมแหวนยิ่งตอนอยู่ในโบสถ์ยิ่งรู้สึกว่า ทุกอย่างมันเงียบเนอะ เพราะอยู่ในพิธีที่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็รู้สึกตื้นตันเหมือนกันครับ ตอนที่สวมแหวน น้ำตาไหล(ยิ้ม) คือน้ำตาไหลตอนที่เขาเดินเข้ามา"

 

 

'บอย' ควง 'อาแมนด้า' ฉลองมงคลสมรสชื่นมื่น

 

 

 

 

    ถึงคำมั่นสัญญา?
    บอย : "คือมันเป็นแค่คำที่แบบว่าจะรับเขาเข้ามาในชีวิตเรามั้ย แล้วเราจะรับเขาเข้ามาในชีวิตมั้ย ในช่วงนั้นก็เราเคยดูแต่ในหนังนะ แล้วก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งคนยั่งผมจะมีภรรยาเป็นต่างชาติ(หัวเราะ) เพราะว่าภาษาอังกฤษผมโคตรยากเลย แล้วพอมันมาถึงวันนี้ก็แบบ เออ...มันเป็นจริง แล้วเราดูแต่ในหนังไง ที่แบบอยู่ในพิธีแต่งงานในโบสถ์ แล้ววันหนึ่งมันเป็นของเรา เราก็รู้สึกว่ามันก็แปลกๆนิดนึง แต่ก็มีความสุขสึกแบบประทับใจ"

 

 

    อาแมนด้าล่ะรู้สึกยังไง?
    อาแมนด้า : "รู้สึกดีที่มีโอกาสได้ไปแต่งงานที่บ้านเกิด เพราะตัวเราเกิดที่สวีเดน"
    ใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีภรรยามา 3-4 เดือนแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง
    บอย : “ก็ดีนะครับ จริงๆแล้วผมก็ว่าการเป็นสามีภรรยามันก็ดี เราก็ต้องห่วงคนที่อยู่ข้างกายเรามากขึ้น แล้วอะไรที่เรารู้สึกสนุกสนานลั๊ลลาเกินไป ก็หายไป แล้วก็ไม่ได้มีความต้องการหรือว่าอะไร แต่จริงๆเป็นคนชอบอยู่บ้านอยู่แล้วด้วย เป็นคนชอบกลับบ้านอยู่แล้ว ไม่ชอบไปลั๊ลลาที่ไหน เสร็จงานก็กลับบ้าน ใช้ชีวิตกันปกติ ทำกับข้าวทานกัน ตื่นเช้าเราก็ไปทำงาน เขาก็อยู่บ้าน”

 

 

    ชีวิตเปลี่ยนไหม
    บอย : “มันก็เปลี่ยนนิดหนึ่งนะ แต่ผมไม่รู้ว่าที่มันเปลี่ยน มันเปลี่ยนเพราะว่าเราแต่งงานกัน หรือว่าเปลี่ยนเพราะผมอายุ 40 เพราะผมก็มีความรู้สึกว่าวัย 30 กับวัย 40  เราเคยผ่านมา มันก็โคตรแตกต่างเลย ความรู้สึกถึงคิดทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ยิ่งวันที่มีครอบครัวมันอาจจะถึงเวลาแล้ว ก็ถือว่าเป็นชีวิตแต่งงาน 3-4 เดือนที่มีความสุขดี”

    ตัวอาแมนด้าต้องย้ายกลับมาอยู่ไทยไหม หรือบินไปบินกลับเรื่อยๆ
    บอย : “ก็ตอนนี้เขาก็บินไปบินมาไปหาครอบครัวเขานะครับ แต่หลักๆจะอยู่เมืองไทยครับ”

 

 

 

 

'บอย' ควง 'อาแมนด้า' ฉลองมงคลสมรสชื่นมื่น

    ตอนเป็นแฟนกับตอนเป็นสามีภรรยามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
    บอย : “มันแตกต่างพอสมควรเลย ก็คือเป็นแฟนเราจะดูแลกันมากหน่อย พอเป็นสามีภรรยาเราก็ดูแลกันน้อยลง (หัวเราะ) พูดเล่น ไม่แตกต่างนะ เพราะยังไงถ้าเรายังเหมือนเดิมอยู่ ความรู้สึกมันก็ยังเหมือนเดิม ที่แบบไม่ต้องไปปรุงแต่งอะไรมันมาก ให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องงานพูดคุยกันหน่อยหนึ่ง อย่างที่บอกผมก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาก แต่ก็เข้าใจเขาค่อนข้างเยอะพอสมควร ถ้าไม่งั้นก็จะไม่แต่งงานกับเขา แต่ก็มีบางโมเมนต์ที่แบบว่าอยากอธิบายมากเลย มันติดตรงปาก แต่มันอธิบายไม่ได้ มันจะทำยังไงดี เดินหนีแล้วกัน(หัวเราะ)”

 

 

    ช่วงเวลาที่ทะเลาะกันหรือไม่เข้าใจกันทำอย่างไร
    บอย : “ก็นี่แหละ ก็จะเป็นการอธิบาย ใช้เหตุผลมากกว่า เขาเป็นคนค่อนข้างมีเหตุผลเยอะมาก เยอะจนบางทีเราก็งง (หัวเราะ)”

    ภาษาเป็นอุปสรรคสำหรับคู่เราเยอะไหม
    บอย : “ผมว่าไม่เยอะมากครับ ไม่เยอะ เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆเท่านั้นเอง ที่เราจะแบบติดเรื่องของการอธิบายเท่านั้นเอง”

 

 

    ต้องไปเข้าคอร์สภาษาไหม
    บอย : “เข้าคอร์สอยู่(ยิ้ม)”
    เขาเรียนรู้ภาษาไทยมั้ย?
    อาแมนด้า : ตอนนี้ฉันกำลังเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อที่จะพูดภาษาไทย และฉันก็กำลังเรียนรู้ที่จะอ่านและะขียนภาษาไทยด้วย 

 

    เราประทับใจอะไรในตัวเขา ถึงเลือกเขาเป็นคู่ชีวิต
    บอย : เหตุผลหลักๆเลยคือเขาเป็นคนรักครอบครัว เขาให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวค่อนข้างเยอะพอสมควร เขารักเรา รักครอบครัวเรา เขาเป็นคนรักสัตว์ ค่อนข้างมีจิตใจดี ที่สำคัญเขาเป็นคนค่อนข้างมีเหตุผล หลายครั้งที่เรามีปัญหากัน พอเราตัดสินใจที่จะคุยกันว่าปัญหาเกิดจากอะไร มันคือการใช้เหตุผลคุยกันมากกว่าใช้ความรู้สึกตัดสิน ส่วนใหญ่คนเราจะใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาแล้วมันไม่เคลียร์ สุดท้ายปัญหานั้นก็จะกลับมาในชีวิตอีก ถ้าเราทะลาะกันโดยไร้เหตุผล อาแมนด้าเขาจะเป็นคนถ้าเขาไม่พอใจหรือติดใจอะไรเขาก็จะถามก่อนจะเคลียร์ให้จบตรงนั้นเลย ไม่เก็บสะสมหรือเอามาพูดอีก จุดนี้เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าเคลียร์ดี น่าจะไปด้วยกันได้ดี”


    คิดว่าบอยคือเนื้อคู่ของคุณมั้ย ทำไมถึงรักเขา?
    อาแมนด้า : ใช่ค่ะ เขาเป็นคนที่จิตใจดีที่สุดในชีวิตคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก เขาเป็นคนใส่ใจคนรอบข้าง ให้เกียรติทุกคน เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก
    บอย : โอ๊ย น้ำตาจะไหล เอาจริงๆเขาก็พูดหวานๆ บ้าง แต่ไม่ได้พูดบ่อย ถ้าไม่มีใครถามก็ไม่พูด แต่ก็จะบอกเรื่อยๆ บอกเลิฟยูก่อนจะวางสายโทรศัพท์หรือก่อนจะออกจากบ้าน

 

 

'บอย' ควง 'อาแมนด้า' ฉลองมงคลสมรสชื่นมื่น

 

 

    เรื่องทายาทบ้าง?
    บอย :  เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ผมต้องอธิบายให้เขาฟังว่าวัฒนธรรมของเราแตกต่างกัน ของเขาจะรู้สึกว่าเรื่องลูกเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าคนไทยคือความรู้สึกใส่ใจกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันว่าจะมีลูกเมื่อไหร่
    ผมก็อธิบายให้เค้าฟังว่าเราใส่ใจกันนะถึงได้ถามสารทุกข์สุขดิบว่ามีลูกเมื่อไหร่ จริงๆตอนนี้ก็พยายามเลยก่อนหน้านั้นเคยไปเช็คสเปิร์มบอกตัวเองว่ามันยังโอเคอยู่หรือเปล่า 40แล้วนะ ได้หรือเปล่า(หัวเราะ) ก็ยังได้อยู่ ก็ลองไปเรื่อยๆลองธรรมชาติไปเรื่อยๆ ผมอยากเสกเข้าท้องตอนนี้เลยแต่มันไม่ได้ ก็ต้องธรรมชาติไป(หัวเราะ)

 

    ใช้ชีวิตคู่อยู่ที่ไทยส่วนใหญ่หรือเปล่า
    บอย :  อยู่ที่ไทยครับ เค้าก็บินไปบินมาครอบครัวเค้าอยู่ที่โน่นด้วยปีนึงกลับสวีเดน2-3ครั้ง
    ตั้งเป้ามีลูกกี่คน?
    บอย :  จริงๆผมคิดว่าหนึ่ง แต่เค้าบอกว่าสอง เพราะผมคิดว่าดับเบิ้ลค่าใช้จ่ายคูณสอง ตายๆ งาน 3000 5000 ก็ต้องรับแล้ว เค้าบอก2คนดีกว่า เค้าจะได้เป็นเพื่อนกัน ส่วนใหญ่คนสวีดิชครอบครัวหนึ่งจะมีลูกสองคนไว้ให้เป็นเพื่อนกัน ผมว่ามันก็ดี ถ้าได้สองคนก็โอเค ชายคนหญิงคน วันหนึ่งเค้าโตแล้วมีอะไรไม่บอกเรา จะได้ไปแอบถามอีกคนได้

 

    อาแมนด้าล่ะมีลูกชายคนหญิงคนโอเคไหม?
    อาแมนด้า :  ฉันโอเคหมดขอให้ลูกแข็งแรง แต่ฉันมีพี่น้องผู้หญิง2คน และฉันก็รักพวกเขามาก เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีพี่น้องโตไปด้วยกัน เลยอยากมีลูกซักสองคน 

 

 

    อแมนด้าพร้อมจะเป็นแม่หรือยัง
    อาแมนด้า :  พร้อมค่ะ เมื่อถึงเวลาก็คิดว่าน่าจะมีลูก 1 หรือ 2 คน
    ได้ไปฮันนีมูนหรือยัง?
    บอย :  “ไปมาแล้วครับ ไปฮาวายมา แต่ไม่ได้น้องฮาวายกลับมา น้องไฮแอท รีเจนซี่นี่ล่ะ (หัวเราะ)”

 


    ไปฮันนีมูนเรื่อยๆเปลี่ยนบรรยากาศไหม?
    บอย :   บอกว่าพยายามไปเรื่อยๆ ก็ต้องลองดูไป ก็พยายามอยากให้ได้เร็วที่สุดเพราะตัวผมก็41 แล้ว อาแมนด้าเค้า32เค้ายังมีโอกาส ตอนแรกเค้าแพลน 35 โอ้โหช่วยดูลุงด้วย ตอนนั้นเราก็45 ตอนนั้นถ้าลูกเดิน เราคงคลานแล้ว ก็จะพยายามให้เร็วที่สุด”

 

 

    ถ้าปีนี้ลูกยังไม่มาจะพึ่งการแพทย์ไหม?
    บอย : “ตอนแรก ที่คุยกับอาแมนด้าผมอยากพึ่งการแพทย์เลยแต่อาแมนด้าไม่อยากกดดันตัวเอง เลยขอธรรมชาติไปก่อนซัก3-4เดือน ค่อยลองไปหาหมอ ช้าสุดไปหาหมอน่าจะปีหน้า

 

 

 

 

'บอย' ควง 'อาแมนด้า' ฉลองมงคลสมรสชื่นมื่น

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ