"ตั๊ก" บงกช เบญจรงคกุล ออกมาปกป้องตัวเองหลังถูกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอบอ้างชื่อเพื่อธุรกิจ พร้อมปฏิเสธข่าวลือตัดกระเพาะลำไส้ ลั่นตอนนี้เอวเหลือ 25
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ไม่ค่อยเจอหน้าตา ล่าสุด "ตั๊ก" บงกช เบญจรงคกุล มาร่วมงานกำหนดการงานบูรพาทัศน์ การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ๒๕๖๒ ตอน สืบมรรคา ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เลยถูกถามถึงประเด็นถูกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอบอ้างชื่อเพื่อธุรกิจ ได้ความว่า
กลับมาเอว 25 แล้ว
"กว่าจะได้เอว 25 เหนื่อยมาก (หัวเราะ) ไม่ได้ได้มาง่ายๆ นะ เหนื่อยนะ"
มีแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้ลดน้ำหนักขนาดนี้
"คือตั๊กเคยพูดตอนแม่เสียว่าตั๊กมีลูกชายเนอะ แล้วก็อยากให้เขาภูมิใจในตัวเรา เวลาที่ไปงานโรงเรียนเขาก็จะได้รู้สึกไม่อายที่มีแม่อยู่ข้างๆ คือเราคิดไปเองนะ เขาอาจจะไม่ได้อายก็ได้"
อายเพราะเราอ้วนเหรอ หรือเราคิดไปเอง
"ไม่หรอก แต่เราอยากจะพร้อม อยากจะดูดี"
อะไรมาสะกิดใจให้เราตั้งใจขนาดนี้
"เพราะลูกด้วย สุขภาพด้วยค่ะ เพราะว่าอ้วนมากก็จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ แล้วแรงบันดาลใจก็คือช่วงที่พี่ตูนออกมาวิ่ง ทำให้ตั๊กรู้สึกว่าตั๊กต้องออกมาปฎิวัติตัวเอง เพราะความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสิร์ฐ"
ตอนแรกเราก็ลงมา 30 กิโลแล้ว ตอนนี้ก็ลงมาอีก
"ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็ได้ความกระชับ เราก็ทำไปเรื่อยๆ ก็ได้ความรีน เราก็จะได้รู้กล้ามเนื้อของเรา ได้รู้แฟตของเรา หรือเราจะต้องบำรุงหรือดูแลร่างกายของเรายังไงให้พร้อมที่จะดูแลลูกของเรา"
เราเคยน้ำหนักสูงสุดเท่าไหร่
"สูงสุดคือ 87 ตอนนี้เหลือ 55 ก็ลดไปลง 32 กิโลค่ะ ใช้เวลา 3 ปีกว่าค่ะ แต่ช่วงภาพยนตร์เรื่อง sad beauty ที่ตั๊กกำกับเองช่วงนั้นก็ลงมาแล้ว ก็ยังไม่ได้กระชับหรือมาออกกำลังกายแบบนี้อย่างจริงจัง"
มีช่วงที่เราตั้งใจลดเต็มที่เลยมั้ย
"ตั๊กก็ไม่ได้ลดมาก เพราะว่าลดมากเดี๋ยวเป็นลม (หัวเราะ) คือเอาพอดี เราก็ไม่ได้อด เราก็กินนะ แล้วก็ดูว่าเราพร้อมมั้ย เราพอดีมั้ย ก็ไม่ได้หักโหมอะไรขนาดนั้น เราแค่อยากให้ตื่นเช้ามาเราพร้อมที่จะไปส่งลูกไปโรงเรียน เพราะลูกชายพอเขาเริ่มโตเขาก็เริ่มพลังเยอะ"
จริงๆ สังคมรอบข้างอย่างสังคมที่โรงเรียนลูกกดดันเรามั้ย
"สังคมในโรงเรียนไม่ได้เป็นแรงกดดันเลย แต่สังคมของวงการบันเทิงต่างหากที่กดดัน (หัวเราะ) สังคมโซเชี่ยลก็มีส่วนที่ทำให้ตั๊กปฎิวัติตัวเอง เพราะมีหลายคนเขาคาดหวังว่าตั๊กบงกชต้องดูดี จะต้องไม่เปลี่ยนไป"
แสดงว่าเรากำลังจะกลับมามีผลงานก็เลยตั้งใจเต็มที่
"ตั๊กก็อยากกลับมาทำงานที่ตั๊กรักค่ะ เพราะว่าห่างหายไปนาน คือถ้าเกิดเราพร้อมเราก็อยากจะกลับมา"
ก็มีหลายคนที่เอาเราไปแอบอ้างว่าเป็นตัวช่วยให้เราลดน้ำหนักได้
"ตั๊กรู้นะ เพราะเรื่องแบบนี้ตั๊กเห็นมานานแล้วกับดาราเกือบทุกคน แต่ที่ตั๊กต้องออกมาพูดเพราะถ้าสมมติว่ายาไม่ได้ผลจริง แล้วเขาไปจับคนนั้น แล้วเขาก็จะมาเรียกเราด้วยหรือเปล่า (หัวเราะ) ตั๊กก็ต้องออกมาพูดก่อนว่าเราถูกเอาภาพไปรีวิวค่ะ"
เรายืนยันว่าเราออกกำลังกายอย่างเดียวใช่มั้ย
"เอาจริงๆ ถามว่าตอนเด็กๆ เคยทานยาดักไขมันมั้ย ดาราทุกคนอาจจะเคยหรือไม่เคยไม่รู้ แต่ตั๊กอาจจะเคยบ้าง แต่เมื่อเรามาพบสิ่งที่ดีงามแล้ว เช่นออกกำลังกาย คุมอาหาร ก็ไม่เคยที่จะเดินย้อนกลับไปหาจุดนั้นค่ะ ตั๊กผ่านมาจุดนี้แล้วตั๊กเลยอยากจะบอกกับทุกคนว่ายาไม่ได้ช่วยให้เราผอมแบบยั่งยืน แต่ความยั่งยืนที่สุดคือการทานอาหารในปริมาณพอดี และการออกกำลังกายในปริมาณที่พอดี เพราะถ้าออกมาเราก็หิวเยอะ หิวเยอะเราก็กลับไปกินเยอะๆ"
แต่เรายืนยันว่าเราไม่ได้ใช้ตัวช่วยอย่างการกินยา
"ไม่ค่ะ ตั๊กกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด มื้อหนึ่งตั๊กกินข้าวเยอะมากนะ"
แต่ก็มีข่าวว่าเราตัดกระเพาะเพื่อให้เล็กลง
"ตัดกระเพาะไม่ได้ค่ะ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายค่ะ เขาจะทำต่อเมื่อช่วยเหลือชีวิตคนเท่านั้น ยิ่งผ่าตัดลำไส้ก็ไม่ทำค่ะ (หัวเราะ) เราจะไม่ทำอะไรที่มันจะเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เราต้องตายไปจากลูกเรา เราจะไม่ทำค่ะ แต่เราลุกขึ้นมาปฎิวัติตัวเองเพราะเราต้องการที่จะอยู่กับลูกไปนานๆ"
รู้ข่าวใช่มั้ยที่มาว่าเราไปตัดกระเพาะตัดลำไส้มา
"ก็เคยได้ยินค่ะ มันเป็นเรื่องที่อเมซซิ่งมากว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ สมมติเราอายุเยอะแล้วเราอยากจะเปลี่ยนร่างกายเราก็ได้เหรอ มันไม่ได้ (หัวเราะ)"
แต่ทำไมเราไม่เลือกไปดูดไขมันอะไรไป
"เป็นเพราะเรามีสามีที่มีสติและบอกเตือนเราเสมอว่าเธอทำไม่ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง เธอจะไปทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ คือเขาอายุมากแล้วนะคะ เขาก็เหมือนเป็นพี่เรา เขาอายุมากกว่าตั๊ก 30 ปี แต่เราก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกัน พี่เขาก็ต้องบอกเราว่าเธอทำอย่างนั้นไม่ได้ (ยิ้ม) เธอไม่ควรไปทำแบบนั้น"
แสดงว่าเขาไม่เคยสนับสนุนให้เราไปทำอะไรแบบนั้น
"เวลาเราจะทำอะไรเขาก็ต้องบอกอยู่แล้วค่ะ เราก็ต้องปรึกษากัน เราจะหายไปไหน ทำอะไรสามีภรรยาก็ต้องบอกกันค่ะ ไม่ใช่เราหายไปเฉยๆ แล้วสามีไม่ถาม"
เคยท้อว่าออกกำลังกายหนักจนอยากไปใช้ตัวช่วยบ้างมั้ย
"ตั๊กมุ่งมั่นมากนะตั้งแต่แม่เสีย เพราะตั๊กอยากทำให้แม่ตั๊กภูมิใจ ตั๊กอยากให้แม่รู้ว่าฉันไม่อยู่แล้วเธอยังมีที่ยืนในสังคม และแม่พูดเสมอว่าแม่อยากให้ตั๊กกลับมาผอม กลับมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยากให้ตั๊กกลับมามีพลังดูลูก ก่อนแม่ตั๊กป่วยแม่จะพูดเสมอ"
เขาอยากให้เรากลับมามีงานด้วยหรือเปล่า เลยผลักดันเรา
"คนเป็นแม่น่ะค่ะ เวลาเจอเขาก็จะบอกว่าเมื่อไหร่จะลดความอ้วน (หัวเราะ) เขาก็อยากจะให้ลูกสาวเขาดูดี ตั๊กว่าพ่อแม่ทุกคนคิดอย่างนั้น ตั๊กเองก็เป็นแม่แล้วตั๊กก็รู้"
ได้บอกแม่มั้ยที่วันนี้เรามีเอว 25 แล้ว
"แม่อาจจะไปสวรรค์แล้ว (หัวเราะ) คือตั๊กอยากจะบอกว่าสุขภาพตั๊กดีขึ้นกว่าเก่า ไม่รู้สึกมึนหัว เวียนหัว หรือไม่กลัวว่าจะมีโรคอะไร เวลาไปเช็คที่โรงพยาบาลเราก็มั่นใจมากขึ้นว่าเราไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร"
สามีว่ายังไงบ้างที่ได้ภรรยาหุ่นแซ่บกลับมา
"คือเราก็แต่งงานกันมานานแล้วนะ ลูกก็ 6 ขวบแล้ว เขาก็เหมือนให้กำลังใจเราแหละค่ะ เขาเป็นคนไม่อวยใคร"
เขาทึ่งในความตั้งใจของเรามั้ย
"เขาบอกว่าเธอแข็งแรงขึ้นเยอะ เพราะเห็นเธอปีนป่ายเหมือนลิงอยู่ (หัวเราะ) เห็นเธอออกกำลังกาย เธอแข็งแรง เขาก็ดีใจจะได้มีกำลังดูแลลูก"
หลังจากนี้มีเป้าหมายมั้ยว่าเราจะออกกำลังกายไปถึงไหน หรือจะไปวิ่งกับพี่ตูนมั้ย
"ตั๊กก็คงจะออกกำลังกายแบบพอดีในส่วนของเราค่ะ"
ตอนนี้พร้อมจะกลับมาทำงานแล้วใช่มั้ย
"ค่ะ กำลังจะมีละครเร็วๆ นี้ค่ะ"
ฝากถึงคนที่เห็นเราเป็นไอดอลในการลดน้ำหนักหน่อย
"คือเริ่มจากการเอาเลือดไปตรวจ แล้วก็ดูเรื่องของการเผาผลาญว่าร่างกายขแงเราเผาผลาญอะไรมากแค่ไหน และพอเราไปตรวจปุ๊บสิ่งใดที่เราทานเข้าไปแล้วไม่เผาผลาญเลย เขาก็จะลิสต์มาว่าอะไรที่เราทานไม่ได้บ้าง แล้วจะทานอะไรได้บ้างที่จะเผาผลาญพลังงานเราดีขึ้น พอทำไปประมาณ 8 เดือนระบบเผาผลาญเราก็จะเปลี่ยน พอเปลี่ยนแล้วน้ำหนักเราก็จะลงคือไม่จำเป็นต้องอดค่ะ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-'ตั๊ก-บงกช' แจงปมเดือดญาติไม่ดูแลยาย
-'ตั๊ก-บงกช' ร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ "โอซาก้า"
-'ตั๊ก-บงกช' ชี้แจงหลังถูกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอบอ้างชื่อ
-'ตั๊ก' ยันเจอแหวนเพชร 5 กะรัตแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง