ทิศทางโรงหนังต่อจากนี้

          เรื่องโรงหนัง เขียนกี่ที หรืออ่านอีกที ก็จะวกไปวนมาอยู่ 2 ประเด็น คือโรงหนังถูก Disruption โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ กับปัญหาสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง ส่งผลให้คนดูหนังในโรงน้อยลง

          หากเป็นในอดีตคำถามเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะการดูหนังคือความบันเทิงราคาถูก ในยุคที่บ้านเรือนประชาชนทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อโทรทัศน์เพราะราคาแพงมาก ไม่ต้องพูดถึงการฟังเพลงจากแผ่นเสียงที่เครื่องเล่นและตัวแผ่นเสียงแม้ราคาจะไม่แพงเท่าโทรทัศน์แต่ก็หาซื้อยาก ซื้อมาได้ก็ฟังซ้ำไปซ้ำมาไม่นานก็เบื่อ

          หนังสือหรือนิตยสารก็ถือเป็นความบันเทิงราคาถูกเช่นกัน แต่ความตื่นตาตื่นใจไม่อาจเทียบได้กับการดูหนัง แม้กระทั่งวิทยุก็เถอะมีแต่เสียงให้จิตนาการเหมือนที่ต้องจินตนาการตามตัวหนังสือที่อ่าน

          แต่หนังที่กินความถึงหนังใหญ่ ละครร้อง หนังตะลุง มโนราห์ ลิเก ลำตัด คอนเสิร์ตลูกทุ่ง หมอลำ และรำวง รำฟ้อน โดยเฉพาะหากพูดถึงหนังแล้วหลายคนนึกถึงโรงภาพยนตร์ถือเป็นความบันเทิงราคาถูกอย่างแท้จริง แม้ต้องเดินทางออกจากบ้านไปดู แต่เป็นการเติมเต็มจิตนาการด้วยประสาทสัมผัส ตาดูหูฟัง โดยเฉพาะบรรยากาศเสียงหัวเราะร่วมกัน

          แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากแต่วัฒนธรรมการดูหนังยังคงตัวอยู่ที่เดิม คือต้องเดินทางไปดูที่โรงจึงจะได้อรรถรส

          แต่ในระยะหลังการมาถึงของอุตสาหกรรมหนังออนไลน์ หรือ Streaming Movie ที่อาศัยความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมไปทุกหย่อมย่าน ทำให้มีส่วนแย่งชิงคนดูหนังจากโรงไปมากพอสมควร โดยเฉพาะเว็บดูหนังทั้งเถื่อนและไม่เถื่อน หรือ YouTube

          เห็นได้จากหากไม่มีโปรแกรมหนังใหญ่จริงๆ ก็ยากที่โรงหนังจะเก็บกำไรจากค่าตั๋วอย่างเป็นกอบเป็นกำเหมือนสมัยก่อน บางโรงบางรอบที่ผมไปดูนั้น มีผมนั่งดูอยู่คนเดียว เปิดแอร์เต็มเหนี่ยว ฉายทั้งโรงมีแต่เก้าอี้เปล่า เปลืองค่าไฟ และต้นทุนอื่นๆ อีกจำนวนมาก แลกกับค่าตั๋ว 100 กว่าบาท

          เป็นเรื่องยากครับสำหรับธุรกิจโรงหนังในยุคนี้ ยิ่งบ้านเราประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง

          อย่างไรก็ดี ถ้าถามว่ายังมีคนชอบดูหนังโรงหลงเหลืออยู่มั้ย ก็ตอบได้เลยว่ามี และมีมากเสียด้วย แต่คนเหล่านั้นเขาเอือมระอากับการจัดโปรแกรมฉายของค่ายโรงหนังยักษ์ใหญ่ที่ปูพรมเฉพาะหนังทำเงิน ยัดเข้าไปทุกรอบทุกโรง โรงหนังภูธรก็ติดเชื้อโรคนี้ไปด้วย

          โรงหนังทางเลือกยังมีที่ทางอยู่ ดูอย่างกลุ่ม Documentary Club ที่ปัจจุบันลงหลักปักฐานที่ “ลิโด้” เป็นตัวอย่าง มีฐานคนดู มีแฟนคลับที่เหนียวแน่น ชี้ให้เห็นว่านอกจาก Streaming Movie ยังมีปริมาณคนดูหนังคุณภาพอยู่ไม่น้อยเลยในบ้านเราครับ