"ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เผยสาเหตุลาออกจากพรรคการเมืองเพราะมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ลั่นมีพรรคการเมืองอื่นตามจีบ ส่วนความรักแฮปปี้แต่ยังไม่แต่ง
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-หลังก่อนหน้านี้ "ฟิล์ม" รัฐภูมิ ออกมาประกาศลาออกจากพรรคการเมือง ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดขึ้นอะไร ล่าสุด หนุ่มฟิล์ม มาร่วมงานคอนเสิร์ตเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน เพื่อนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปมอบให้แก่ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” และ “เป้า ปรปักษ์” ได้ชี้แจงว่า
วันนี้ตั้งใจมาช่วยพี่เมฆด้วย
“ใช่ครับ ตั้งใจมาเลย พอพี่ๆ เขาชวนก็รีบเคลียร์คิวแล้วมาช่วยในงานนี้ครับ เพราะผมเข้าวงการตอนแรกก็คือเป็นเอ็กซ์ตร้าในภาพยนตร์ เรื่องแรกที่ผมเล่นก็คือมีพี่เมฆ วินัย ไกรบุตร เล่นเป็นพระเอกครับ”
ไม่ได้เจอกันนานกี่ปีแล้ว
“นานมากแล้วครับ น่าจะ 15 ปีขึ้นครับ”
พอทราบข่าวว่าพี่เมฆป่วยรู้สึกยังไงบ้าง
“ก็ได้แต่เป็นห่วงครับ ก็ติดตามข่าวว่าโรคที่พี่เมฆเป็นมันเกิดจากอะไร เราก็กลัวว่าตัวเราจะเป็นบ้าง แต่พอตอนหลังรู้ว่าแกปลอดภัยดีแล้ว และมีการรวบรวมศิลปินมาจัดงานตรงนี้ เราก็ยินดีครับ”
ก็เป็นการกลับมาหลังจากที่ลาออกจากพรรคการเมืองด้วย
“ใช่ครับ คือผมก็มีจุดยืนของผมอยู่แล้วว่าอยากเข้ามาเพื่อพัฒนาประเทศ ทุกพรรคผมว่าก็มีมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่ว่าเวลาเราเสนออะไรไปแล้วมันไม่เป็นไปตามอย่างที่เราต้องการอยากให้เป็น บางทีผมก็มองว่าเราอาจจะไม่มีความรู้ความสามารถตรงนั้นหรือเปล่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเขาถึงไม่อนุมัติในโครงการที่เราเสนอไป มันเป็นเรื่องของอุดมการณ์และแนวทางความคิดด้วย เพราะว่าทางเดินมันไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องปกติที่ออกมา ก็มีแต่คนบอกว่าผมบ้าหรือเปล่า เพราะมีแต่คนเขาอยากจะอยู่ในรัฐบาล เพราะมีแต่ผลประโยชน์ แต่ผมไม่ได้มองตรงนั้น”
นี่ออกถาวรหรือว่าชั่วคราว
“ออกถาวรครับ แต่ว่าไม่ทิ้งการเมืองนะครับ แค่ออกจากพรรคเดิม อนาคตยังเล่นการเมืองแน่นอนครับ ตอนนี้ผมก็ทำงานของผมครับ (ยิ้ม)”
มองว่าจะไปอยู่พรรคอื่นแล้วใช่มั้ย
“อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ แต่ว่าในส่วนตัวผมในเส้นทางการเมืองก็คือใช่ตัวเองมากที่สุด ได้มีการเสนอไอเดียความคิด เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เขาแก้ไขกันน่ะครับ มันก็ตรงกับทางของเรา ผมก็มองว่าเวลาเราได้ดีเบท ได้พูดคุย ได้ประชันทางด้านความคิด ได้แก้ปัญหาในแต่ละเวทีที่ผมไป รู้สึกว่ามันเจอตัวตนครับก็รู้สึกชอบ”
มีพรรคอื่นมาจีบหรือยัง
“เยอะมากครับ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจครับ เพราะตอนนี้ก็เป็นช่วงว่างๆ อยู่ แต่ผมก็คิดโปรเจ็คใหม่ อย่างเรื่องฝุ่น PM2.5 ผมก็มีความรู้แนวทางในการแก้ไข เพราะว่าผมก็เป็นบริษัทเดียวเลยที่เอาหน้ากากกันฝุ่นเข้ามา เป็นบริษัทแรกๆ เลยก่อนที่จะมีฝุ่นเข้ามาอีก เพราะผมเดินทางไปประเทศจีน และเดินทางไปเกือบทั่วทุกทวีปของโลกใบนี้ เพราะว่าเราทำทัวร์ เราก็จะรู้ว่าแต่ละทวีปเกิดอะไรขึ้น และได้แนวทางการแก้ไขมา ก็มีหลายๆ พรรคที่สนใจทางนี้ครับ”
กลัวคนมองว่าที่ลาออกเพราะน้อยใจหรือเปล่า ที่เราเสนออะไรไปแต่ผู้ใหญ่ไม่สนใจ
“จริงๆ ผมมองว่าเส้นทางการเมืองของแต่ละคนมีแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ของผมจะชัดเจนในเรื่องที่ว่าจะทำอะไรให้ใครมากกว่า คือผมมองว่าเสนอไปแล้วแต่ละอย่างมันไม่ตรงตามคำพูดที่เราได้ไปพูดกับประชาชนไว้ คือไปพูดไว้เต็มไปหมดเลย นั่นคือรูปแบบการเมืองในสมัยก่อนที่ดีแต่พูด แต่พอคุณได้รับเลือกไปแล้วคุณไม่ทำอะไรสักอย่างเลย แต่ในส่วนของผมมองว่าเราพูดไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ทำ พอไม่ทำผมก็ออกดีกว่า เพราะว่าเราคงทนดูเวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตหรือเวลาเราไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนแล้วเขามาถามเราว่า ไหนสัญญาไว้บนเวทีวันนั้น ไหนบอกจะแก้เรื่องข้าว เรื่องประมง เรื่องเกษตร เรื่องอะไรต่างๆ ไม่เห็นจะแก้ได้เลย แล้วผมจะไปพูดยังไง เพราะพวกคุณไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในแสงสว่าง เขาจำหน้าพวกคุณยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จำชื่อยังไมได้เลยด้วยซ้ำ แต่คุณไปรับปากเขาเต็มไปหมด แต่คนที่โดนคือผมไง แล้วพอไม่ทำผมก็ต้องออกอยู่แล้ว”
กลัวจะมีปัญหายืดเยื้อกับพรรคเดิมของเรามั้ย
“ไม่มีแน่นอนครับ ทุกคนทำงานเป็นมืออาชีพพอ คือการเมืองที่ผมบอกไม่ใช่ว่าพรรคไม่ดี แต่แค่ว่าบางอย่างนั้นแต่ละแนวทางการบริหาร เราก็เป็นแค่ตัวเล็กๆ คนนึงที่อยู่ในคณะบริหาร เราไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว คณะบริหารก็ไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว ฉะนั้นไม่มีใครผิดในเรื่องนี้ แต่แค่ว่ามันไม่ตรงตามอุดมการณ์ผม ผมไม่ชอบ”
แสดงว่าที่ผ่านมาเราก็เสนอไปเยอะเหมือนกัน
“มันต้องเสนออยู่แล้วครับ เพราะว่าทุกคนต้องมีความคิดอยู่แล้วในการจะเข้าไป ไม่ใช่เข้าไปใช้ชื่ออย่างเดียว ก็คงไม่มาถึงขนาดนี้”
ตอนนี้ก็กลับมาวงการบันเทิงเต็มตัวอีกครั้ง
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้ทิ้งไปไหน ก็ยังอยู่ แต่วันนี้เป็นงานที่ดี เป็นกึ่งการกุศล นำรายได้ส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือพี่น้องในวงการบันเทิง”
จุดยืนของเราตอนนี้เรียกว่านักแสดง นักการเมือง หรือนักธุรกิจ
“จริงๆ จุดยืนของผมก็เป็นฟิล์มคนเดิมครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าทุกท่านจะให้คำจำกัดความผมว่าอะไร แต่ผมทำอะไรก็ได้ครับที่ทำเพื่อประชาชนและเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมเพราะธุรกิจของผมก็ยังทำ การเมืองผมก็ทำ เพราะได้รับโอกาสที่ดีมาจากประชาชน เราก็อยากจะตอบแทน งานในวงการมีโอกาสที่ดีเราก็ทำ เอาเป็นว่าเน้นว่าปีนี้มุ่งเน้นอะไรมากกว่าดีกว่า มันก็แล้วแต่ช่วง ปีที่ผ่านมาก็การเมือง ปีนี้พักช่วงการเมืองเว้นว่างอยู่ก็จะเป็นธุรกิจและช่วยเหลือด้านการกุศลต่างๆ”
หรือจะพักแต่งงานเลย
“ยังครับ (หัวเราะ)”
หวานใจเป็นยังไงบ้าง
“ก็ดีครับ ยังคบกันปกติครับ”
เปิดตัวไปเขาดูชีวิตวุ่นวายขึ้นมั้ย เพราะมีคนจับตามอง
“ก็ไม่วุ่นวาย เพราะผมก็ไม่ได้ไปเน้นอะไรมาก ก็ใช้ชีวิตปกติครับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง