"นงผณี มหาดไทย" หรือ "จ๊ะ" อาร์สยาม เผยยังไม่ได้ความชัดเจนกรณีได้โฉนดที่ดินมาครอบครอง แต่ไม่มีสิทธิ์ ลั่นต้องรออีก 15 วัน
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ช่วงบ่ายวันนี้ (10 ก.ค. 62) นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “นงผณี” มหาดไทย หรือ “จ๊ะ อาร์สยาม" เดินทางมายังห้องประชุมนนทรี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ตึก 5 ชั้น จ.นนทบุรี พร้อม “นายมนตรี” บานเย็น ทนายความ รวมไปถึงตัวแทนลูกบ้านเกือบร้อยเดินทางมาเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีบ้านในโครงการหนึ่งย่านบางบัวทอง ที่ได้ซื้อและได้ผ่อนชำระจนได้โฉนดที่ดินมาครอบครองตั้งแต่ปี 2559 แต่กลับไม่มีสิทธิ์ขาย เพราะที่ดินดังกล่าวติดอยู่ในคดีฟ้องระหว่างโครงการกับเจ้าของเดิม หลังจากที่ทั้งหมดเข้าร่วมประชุมปรึกษานานร่วม 2 ชม. นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก็ได้ให้สัมภาษณ์พร้อมทนายความว่า
ความรู้สึกหลังจากคุยใช้ระยะเวลานานกว่า 2 ชม.
จ๊ะ “เอาความรู้สึกของจ๊ะก่อนจะมาที่นี่ก่อนนะคะ หนูคิดว่าหนูจะได้ยินอะไรที่ชัดเจน เพราะว่าหนูจะต้องกลับไปขายบ้าน แล้วเดือนสิงหาคมหนูจะต้องเอาเงินก้อนนี้เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ แต่ความรู้สึกหลังจากที่ได้ประชุมเสร็จก็คือยังไม่ได้ความชัดเจนค่ะ ทางกรมบังคับคดีขอเวลาอีก 15 วัน ซึ่ง 15 วันก็ยังไม่รู้ว่าจะมาในรูปแบบไหนมาในทางไหนค่ะ”
ทำไมถึงตกลงกันไม่ลงตัว
จ๊ะ “หนูต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากๆ ที่ประชาชนธรรมดาไม่อาจจะเข้าถึงได้เลย ก็อยู่ที่จิตสำนึกแล้วค่ะ”
เจ้าหนี้ 3 รายของเจ้าของหมู่บ้านเขาไม่ยอมเจรจาเลยใช่มั้ย
จ๊ะ “ข้อนี้หนูไม่รู้รายละเอียดเลยค่ะ เพราะว่าท่านก็ยังไม่่ได้พูดถึงข้อนี้”
ทนาย “ผมขอเสริมว่าตัวแทนจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ท่านได้สรุปให้เราแล้วนะครับว่าอีก 15 วันท่านจะไปทำอะไรบ้าง ซึ่งแนวทางในที่ประชุมเราสรุปไปแล้ว 2 แนวทาง 1.ยุติข้อกฎหมายทั้งหมดตามกระบวนการที่ลูกบ้านได้นำเสนอ โดยเสนอข้อกฎหมายแล้วว่าท่านไม่ควรจะเดินต่อไปอีกแล้ว 2.คือไปเจรจากับเจ้าหนี้รายเดิมที่เหลืออยู่ประมาณ 3 ราย ดังนั้นผมมองว่าท่านรับปากเรานะครับ แล้วเราก็น่าจะรู้ผลภายใน 15 วันนี้ว่า ผลของกระบวนการที่ท่านไปดำเนินการนั้นมันจะออกมาในแนวไหน แต่ผมมองว่ามันเป็นไปในทางที่ดีครับ เพราะว่าเจ้าหนี้อีก 3 รายมีมูลค่าหนี้ที่ไม่มากนัก แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องตัวเลขว่าเท่าไหร่นะครับ แต่ไม่มากครับ มันอยู่ในกระบวนการที่พอจะเจรจาได้ครับ”
เป็นเรื่องของทางหมู่บ้านที่ต้องจ่ายใช่มั้ย
ทนาย “เป็นเรื่องของทางกรมบังคับคดีที่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาคุยและเจรจาในส่วนตรงนี้ครับ”
แล้วเจ้าของโครงการมีออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้างหรือยัง
ทนาย “ยังครับ น้องจ๊ะเองก็พยายามอยากจะถามในที่ประชุมว่า อยากจะเรียนเชิญท่านเข้ามาเจรจา แต่การเจรจาส่วนตัวทางน้องจ๊ะเองไม่เจรจาอยู่แล้ว แต่คงจะเจรจาในภาพรวมทั้งหมดอย่างที่น้องบอกว่ารอดคือรอดทั้งหมด ไม่รอดคือไม่รอดอย่างที่น้องบอกนะครับ คงไม่เอาตัวเองรอดคนเดียวครับ”
เห็นว่าทางโครงการก็ยังไม่มีท่าทีจะมาเจรจาเลย
ทนาย “ยังไม่มีเลยครับ ก็อยากร้องขอให้ท่านไปเจรจาที่กรมบังคับคดีกับเจ้าหนี้รายเดิม ผมคิดว้าเงินไม่มากนี่มันจะได้ใจกับลูกบ้านอีกพันกว่ารายนะครับ”
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ทางโครงการยังไม่ออกมารับผิดชอบอะไร
จ๊ะ “หนูไม่รู้เรื่องรายละเอียดกับหน่วยงานอื่นๆ แต่ในความรู้สึกของหนูคือกับโครงการเลย เขาไม่ออกมารับผิดชอบอะไรเลย ซึ่งความรู้สึกแรกที่ซื้อโครงการนี้ เพราะคิดว่าโครงการดี แต่ในวันนี้หนูหมดความเชื่อถือ หมดศรัทรากับโครงการนี้ไปเลย เพราะเขาไม่ออกมาพูดอะไรกับเราเลย นอกจากส่งจดหมายให้กับลูกบ้านทุกคน เป็นจดหมายที่กลางๆ ไม่มีอะไรชัดเจน แล้วในวันนี้ ที่ประชุม เขาควรที่จะมาด้วย เพราะว่ามันเป็นการคุยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายลูกบ้าน กับฝ่ายโครงการ แต่วันนี้มีแต่ฝ่ายลูกบ้านที่นั่งคุยกัน หนูเลยมองว่าอย่างนี้ประชุมที่หมู่บ้านก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องมาให้เสียเวลา”
จดหมายที่ส่งมา เขาเขียนว่าอย่างไรบ้าง
จ๊ะ “โอ้โห จดหมายยาวเลย เขายืนยันว่าเขาดำเนินการถูกต้อง ซื้อมาโดยชอบธรรม ยินดีชดใช้ทั้งสิ้น เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกี่ปี”
ถ้ามีการยกเลิกการพิทักษ์ทรัพย์ บ้านเราก็ขายได้เลย
จ๊ะ “ขายได้เลย แต่ใครจะซื้อ ณ ตอนนี้ ถ้าหนูกลับไป อาจจะโพสต์รูปบ้าน แล้วบอกว่าขายบ้านนะคะภายใน 15 วันนี้ได้แน่ๆ ที่ดินตรงนี้ไม่ติดคดีแน่ๆ มีใครจะซื้อมั้ยคะ วันนี้โอนได้ ทุกอย่างทำได้หมด แต่คนที่ซื้อหนูไปต้องทำใจยอมรับนะคะว่าวันข้างหน้าอาจจะมีคดีแบบนี้อีกในพื้นที่ตรงนี้อีก”
ถามทางด้านทนาย เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์บังคับให้ทางเจ้าของโครงการเข้ามาพูดคุยมั้ย
ทนาย “เรื่องบังคับคงไม่ ผมมองว่ามันเป็นการไกล่เกลี่ย เรื่องของคุณธรรม เรื่องของความรับผิดชอบ เรื่องของการให้ใจกับลูกบ้านทั้งหมด พันกว่าหลังคาเรือน ท่านเปิดช่องไว้แล้ว เพราะว่าผู้ที่ไม่ยินยอม เหลืออยู่ประมาณ 3 ราย ซึ่งเงินจำนวนไม่มาก กับมูลค่าของโครงการท่านที่เป็นหมื่นล้าน ผมว่ามันน่าจะจบคดีได้ แนวทางการไกล่เกลี่ยน่าจะจบลงด้วยดี ร้องขอไปทางท่านว่าลูกบ้านรอความหวังจากเจ้าของโครงการที่จะเข้าไปเจรจากับคู่กรณีครับ ถ้าไม่จบก็เป็นเรื่องของกรมบังคับคดีต่อทุกอย่างมันต้องจบที่กรมบังคับคดีก่อน ขบวนการของเราถึงจะเริ่มต้น ในส่วนของความเสียหายของเราคืออะไร กระบวนการที่เขาทำรู้มาก่อนหรือเปล่า หรือว่ารู้แล้ว ยังมาขายให้กับประชาชน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายพอสมควร รู้แล้วไม่แจ้ง ว่าที่ดินแปลงนี้มีการถูกบังคับขอเพิกถอน อันนั้นเป็นกระบวนที่ไปต่อไม่ได้แล้ว”
จะฟ้องร้องใช่ไหม
ทนาย “อันนั้นเป็นอนาคตถ้ามีช่องทาง มีกระบวนการของกฎหมายที่เราจะทำในฐานะเราประชาชนที่ได้รับความเสียหาย”
สำหรับจ๊ะ คนที่จะซื้อบ้านเรา ที่คุยกันไว้ ตอนนี้เขาว่าอย่างไรบ้าง
จ๊ะ “น้องไม่ซื้อแล้วค่ะ เดี๋ยวจะอัดคลิปน้องลงไอจีเลยว่าความรู้สึกน้องที่ไม่ซื้อเพราะอะไร หนูอยากจะฝากไปถึงโครงการเลยว่า อยากให้ท่านมาคุย มาเจรจากับหนู และลูกบ้าน เหมือนตอนที่ท่านขายบ้าน ตอนที่ท่านเจรจาขายบ้านให้เรา ท่านโทรเช้าโทรเย็น แต่วันนี้เราโทรไปท่านยังไม่รับเลย ตรงนี้หนูอยากให้สังคมมอง หนูจะไม่พูดว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่อยากให้คนเสพข่าวนี้อยู่ พิจารณากับโครงการนี้ค่ะ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง