'แทค' แจงไม่ลงรูปครอบครัวเพราะเห่อลูก

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เป็นพ่อลูกอ่อนที่ดูท่าทางเห่อลูกมากสำหรับ ”แทค” ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ที่ลงภาพเลี้ยงลูกบ๊อยบ่อย แต่ดันไม่เคยลงรูปครอบครัวเลย ได้พูดคุยกับนักแสดงหนุ่ม ในงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “Who? Why? Where?” ณ มูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ป่านพวงศ์) ถึงการเป็นพ่อลูกอ่อนเต็มตัว ได้ความว่า

   “ตอนนี้ก็ดี ลูกออกมาเรียบร้อยแล้ว แข็งแรงดี น้ำหนัก 3,366 กรัม คลอดเวลา 11:11 น. ห้อง 2509 นะ (ยิ้ม) วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูก ตอนนั้นก็ตกใจ ความคิดเหมือนเราเรียนวิทยาศาสตร์มาว่า 1 สเปิร์มสามารถเป็นตัวได้ มันก็แปลกประหลาดดีครับ ส่วนความตื่นเต้นมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ จะเป็นลมเลย ผมได้เข้าไปในห้องคลอดด้วยแต่แป๊บเดียวก็ออกเพราะจะเป็นลมจริงๆ คือด้วยบรรยากาศ ด้วยกลิ่น ด้วยเครื่องมือต่างๆ และความกดดันหลายๆ อย่าง มันก็จะทำให้เป็นลม ผมก็ต้องเดินเข้าๆ ออกๆ แทน (เป็นการคลอดโดยธรรมชาติ หรือผ่าคลอด) ผ่าตามฤกษ์ เพราะถ้าคลอดเองแล้วเขาอยากมาตอนตี1 ตี2 เราก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เดี๋ยวมันจะคลอดกันตรงนั้น พอได้เลี้ยงเองรู้สึกดีมาก มันรู้สึกว่าเราผูกพันธ์กับเขา ตอนแรกผมยังเข้าแขนไม่เป็น แต่พอเริ่มได้ก็เริ่มโอเคแล้วครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่ทำเลยคือการอาบน้ำลูกครับ ผมกลัวน้ำเข้าหูเข้าปากเขา และอีกอย่างที่กลัวก็คือซุปฟักทองของเขา (หัวเราะ)​ กินแล้วออก กินแล้วออก ซึ่งผมก็เคยเจอกับตัวมาแล้ว เลอะเต็มตัวไปหมดเลย (รูปร่างหน้าตาพอจะดูออกหรือยังว่าคล้ายใคร) อยากจะบอกว่าเด็กจะเปลี่ยนหน้าตลอดเวลานะครับ ตอนนี้เรายังไม่รู้หรอกครับ แต่จมูกนี่ของผม ยอมรับว่าผมเห่อลูกมากจริงๆ อย่าลืมว่าเป็นลูกคนเดียวมันก็จะต้องเห่อ เวลาลงรูปก็มีแต่รูปลูกอย่างเดียวเลย ไม่เอาใครทั้งนั้นครับ รูปครอบครัวพักไปก่อน มีแต่รูปลูกอย่างเดียว บอกเลยว่าผมเห่อมาก ลูกอย่างเดียวเลย ใครจะให้ลงนู่นลงนี่ผมไม่ลง ผมเอาลูกก่อนเลย เพราะผมมีปม เมื่อก่อนพ่อแม่ผมแยกทางกัน เขาก็จะไม่ค่อยมีรูปผมไว้ดู แต่พอผมได้เป็นพ่อคน ผมก็ถ่ายยับเลย (แล้วรูปภรรยาไม่ค่อยได้เห็นเลย) เอาไว้ก่อน พักก่อนเลย ทุกคนต้องพักก่อน รอคิวเลย พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พักก่อน ตอนนี้ของภารัน”

เมื่อถามต่อว่าลูกชายเลี้ยงง่ายไหม นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า
   “เขากินแล้วก็นอนตอนนี้ก็จะเริ่มติดมือแล้ว มันจะยากก็ตอนกล่อมเขาแค่นั้นเองครับ แต่เราโชคดีอย่างที่มีพี่เลี้ยงตอนกลางวันและตอนกลางคืน มันก็เลยสบาย เพราะเขาจะกิน 3 ชั่วโมง 1 ครั้ง และ 2 ชั่วโมง 1 ครั้ง ตอนดึกๆ จะมีพี่เลี้ยงคอยเอาเขาเข้าเต้า พอให้ดูดเสร็จก็กล่อมนอน ส่วนสุขภาพคุณแม่ก็แข็งแรงดี ดีทุกคน แฮปปี้ดี สุขภาพคุณพ่อก็โอเค ผมเลยบอกทุกคนไงว่าตอนนี้ผมหาเงินหนักมาก เข้าใจความรู้สึกแล้วเมื่อก่อนผมเคยด่าพี่ป๋อง (กพล ทองพลับ)​ นะว่าทำไมมีแต่รูปลูกบนมือถือหน้าจอ แล้วก็พูดแซวพี่มิค (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ)​ แต่พอเรามี เราก็รู้เลยว่ามันเป็นยังไง เพราะตอนนี้รูปทั้งโปรไฟล์ ทั้งไลน์ คือรูปผมกับเขาอย่างเดียวเลยครับ แต่ไม่ได้อวดเพื่อนนะครับ ส่วนมากถ้าจะอวดก็จะอวดแต่หำลูก (มีของรับขวัญให้กับลูกชายคนแรกไหม) ตอนนี้ผมยังไม่มี แต่อยากจะขอบคุณคนที่มาและรับขวัญภารัน ซึ่งผมก็ไปขายหมดแล้ว (เห็นว่าคุณตาจัดรีโรเวทบ้านใหม่หมดเลย) ให้เขาจัดการเลย มันคือของเขา ผมไม่มีค่อยมีอะไรหรอก เพราะผมนอนไหนก็ได้ ตอนนี้ก็ให้ลูกอย่างเดียว (อยากมีคนต่อไปเลยไหม) โห พักอู่ก่อน รู้ไหมว่าการมีลูกมันลำบากมาก ถามว่าหลังมีลูกชีวิตเปลี่ยนไปไหม ผมก็ไม่เปลี่ยน แค่มีเขาเข้ามาในชีวิต และทำให้ดีที่สุด เลี้ยงเขาให้ดีที่สุด (ถามถึงที่เราชอบโพสต์ว่าคุณพ่อมีรอยสักก็เลี้ยงลูกได้) คือบางคนชอบมองว่าพ่อมีรอยสักและจะทำให้ลูกอะไรหรือเปล่า แต่บางครั้งมันไม่ใช่ ความเป็นพ่อเป็นลูกมันไม่ได้เกี่ยวกับรอยสักหรือสิ่งแวดล้อมของพ่อ มันเกี่ยวกับการที่เราเลี้ยงลูกมากกว่า ที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาพูดบ้าง เข้ามาคอมเมนต์บ้าง ผมแค่อยากชี้แจงให้คนเข้าใจว่า บางครั้งคนที่เจาะหูหรือสักก็เลี้ยงลูกได้ และเลี้ยงลูกดีด้วย อย่ามองคนที่ภายนอก”

เมื่อถามต่อว่ามีวิธดูแลภรรยาหลังคลอดอย่างไร แมคกล่าวว่า

   “เขามีคอร์ส การนวดนม การอยู่ไฟ ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่สันทัด พอเขาทำ ผมก็อยู่กับลูก ต้องบอกก่อนว่าผมโชคดีที่มีพี่เลี้ยงทั้งหลางวัน และกลางคืน มันเลยง่ายสำหรับเราทั้งสองคน คือเราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องมีพี่เลี้ยง เพราะว่าผมทำงานไม่เป็นเวลา ดังนั้นต้องมีคนมาช่วยดูเขา ทั้งตอนเช้า และตอนกลางคืน เพราะว่าเด็กตื่นทุก 3 ชั่วโมง เขาต้องเข้าเต้า บางครั้งผมก็ต้องนอนแยกห้อง เพราะเราทำงานตรงนี้เราต้องหลับให้เพียงพอ (เป็นห่วงเขามั้ยในเรื่อง มาม่าบลู ของคุณแม่หลังคลอด) ตอนแรกก็เป็นห่วงแต่ดูจากการที่เขามีคนมาดูแล มีโน้นมีนี้ ทุกอย่างโอเคครับ ถามว่าใส่ใจเขามาขึ้นไหม คือโชคดีอย่างเขาไม่มีอาการมาม่าบลู เขาสนุกกับการเลี้ยงลูก (เขามีถามไหม ทำไมเธอลงแต่รูปลูก แล้วรูปเขาล่ะ) ผมบอกคำเดียวเลยว่าเพราะว่าผมเห่อลูกมาก ผมมีประสบการณ์พ่อแม่แยกทางกัน แต่ไม่มีรูปผมตอนเด็กเลย อาจจะมีใบ สองใบ ผมเลยอยากมีรูปลูกเยอะๆ ให้เขาได้เห็นช่วงชีวิตของเขา รูปเรา 3 คน มีถ่ายไว้ แต่ตอนนี้ผมเห่อลูกมาก เอาลูกก่อน (ส่วนใหญ่ทีาเห็นลูกเพิ่งคลอด เขาจะลงรูป 3 คนพ่อแม่ลูกสักรูปนึงทำไมเราไม่มี) ตอนนั้นผมเตรียมมือถือไว้ 2 เครื่องเพื่อจะไปถ่ายข้างใน แต่ชีวิตจริงไม่ได้ พอเข้าไปข้างในมันตื่นเต้นมือไม่สั่น จะทำอะไรก็ทำไม่ถูก ได้ยินเสียงเครื่องมือแพทย์ก็ใจสั่นแล้ว แล้วได้กลิ่นโรงพยาบาล คือคนข้างในห้องคลอดมีเยอะมาก แล้วมีที่กั้น ผมจะเป็นลม ตอนแรกตั้งใจไว้แล้วว่าเดี่ยวจะต้องถ่ายตอนลูกคลอด จะไลฟ์สดด้วย สักพักเข้าไปมือไม้อ่อน พยาบาลถามว่าจะเอายาดมมั้ย พอได้ยาดมปุ๊บ ผมเดินออกก่อนเลย เพราะว่าผมจะเป็นลม มันทั่งตื่นเต้น และมีความกังวนว่าลูกเราคลอดมาจะร้องมั่ย จะครบ 32 มั้ย มันมีความกดดันมากมาย จนไม่รู้ว่าเราจะต้องทำอะไร ขนาดคลอดออกมาแล้ว ผมเดินประกบนางพยาบาลเลยนะ ว่าลูกอยู่ตรงไหน แล้วติดแท็กเลยนะ เพราะกลัวโดนสลับลูกเหมือนในละคร ภรรยาตอนนั้นผมลืมไปเลย นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ได้ลงรูปครอบครัว ภรรยาก็ไม่นอยด์นะ ตอนนี้ผมเห่อลูกอย่างเดียว ลงรูปลูกอย่างเดียว ไม่รู้ว่าจะลงรูปครอบครัวเมื่อไหร่ เอาไว้ก่อน”