'ซีดี' พร้อมทำหน้าที่รับใช้ชาติ

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ตัดสินใจลุ้นจับใบดำใบแดงในการเป็นทหารกองเกณฑ์เมื่อวันก่อน ทำให้ “หนุ่มซีดี เดอะสตาร์” จับได้ใบแดง ต้องรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร ทบ.ผลัด 2 ในเดือนพฤศจิกายน ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหนุ่มซีดีจึงถามถึงเรื่องนี้กับการตัดสินใจครั้งนี้ทำไมถึงตัดสินใจที่ลุ้นจับใบดำใบแดง
 

    "ตอนแรกจะผ่อนผัน ผมคิดว่าขี้เกียจผลัดไปเรื่อยๆ แล้ว วันใดวันหนึ่งก็ต้องจับอยู่ดี ก็จับไปเลยแล้วกัน พอผลออกมายังไงค่อยว่ากันใหม่ ตอนนั้นก็คิดว่า 50-50 เลย เพราะตอนนั้นมีคนเหลือประมาณ 30 คน ใบแดง 5 ใบ ถ้าเกิดผมโดนมันก็คงใช่ของผมแล้วล่ะ คงมีคนขีดมาให้ผมเป็นแล้วล่ะ เขาอาจจะเห็นว่าผมขี้เกียจจัด ไม่มีวินัยเลย ต้องเป็นแล้วนะ ถ้าถามว่าอยากเป็นหรือไม่อยากเป็น อันนี้ผมขอไม่ตอบว่าอยากเป็นหรือไม่อยากเป็นแล้วกัน ผมขอตอบว่ามันเป็นหน้าที่แล้วกัน มันเป็นหน้าที่ที่ผู้ชายทุกคนต้องทำอยู่แล้ว ถ้าโชคชะตาให้เป็นแบบนั้น เราก็ต้องเป็นอยู่แล้ว จัดการเลย เราจะได้เคลียร์ให้จบ สบายใจ”

 

    ต้องเคลียร์งานไหม
    "ไม่ต้อง เพราะอีก 6 เดือนกว่าผมจะเข้าไป ผมผลัด 2 ตอนนี้ผมมีแต่หางานให้เพิ่มขึ้นก่อนเข้าไป จะบอกว่างานทุกงานที่ผมรับตอนนี้ผมไปแน่นอน ผู้จ้างทุกคนไม่ต้องห่วงเลยนะครับ สภาพจิตใจผมโอเคมาก"
    มีการจัดการวางแผนเรื่องงานเรายังไง 
    "ผมเริ่มวางแล้วตอนนี้ ตั้งแต่ผมได้ใบแดงปุ๊บ ก็คิดว่าจะทำยังไงดีตอนที่เราเข้าไปให้คนได้ฟังเพลงเราตลอด  ให้เราไม่หายไป ผมวางแผน แล้วผมมีแผนเยอะมากที่อยากทำ เพราะในใจลึกๆ เราก็คิดไว้แล้วว่าอาจจะจับได้ใบแดง ก่อนออกจากบ้านย่าก็บอกว่าให้จับไปเลย ถ้าเกิดมันใช่ของเราก็ต้องใช่แล้ว ถามว่ารู้ก่อนไหมคือรู้ตอนที่ป้าขายน้ำแดงที่อยู่ข้างๆ เขาบอกว่ามีประมาณ 40 คนที่เขาจะเอา เราก็รู้ตอนนั้นแหละ แล้วมารู้อีกทีก็คือตอนที่นั่งแล้ว"

 

   พร้อมที่จะไปทำหน้าที่แล้วหรือไม่ 
    "ผมได้หมดเพราะผมรู้สึกว่าคนเรามีหลายบทบาทมีหลายหน้าที่ เราควรทำหลายๆบทบาทให้มันดี ทำหลายหน้าที่มันยิ่งดีกว่าอยู่แล้ว เราจะได้เก่งขึ้นไง จริงๆในใจลึกๆผมเคยคิดอยากเป็นทหารในตอนที่เป็นเด็กมากๆ เพราะผมเคยไปบ้านทหารท่านหนึ่งแล้วผมรู้สึกว่าเขาเท่มาก ก็เคยคิดนะตอนนั้น แต่พอเราได้มาทำงานในวงการเราก็ชอบตรงนี้แล้วไง ก็เลยไม่ได้มีโอกาสไปศึกษา ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้ศึกษาชีวิตลูกผู้ชาย"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    แต่แฟนเรา (“กรุ๊ป” จุฑารัตน์) ร้องไห้หนักมาก 
    "ที่กรุ๊ปเขาร้องไห้เพราะเขาตกใจเพราะมันตั้ง 2 ปีซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เพราะตอนแรกที่คุยกันคือผมจะผ่อนผันไง คือผมเองก็ปรึกษาเขาแหละว่าจะจับดีไหมซึ่งเขาก็พูดว่าจะไปเหอะยังไงก็ต้องจับอยู่แล้ว ตอนแรกคือเขารู้ว่าผมผ่อนผันจนมาถึงตรงหน้างานแล้ว ผมก็ถามเขาว่าจับดีไหมเขาก็ถามกลับมาว่าเอายังไงอยากจับหรอ ผมก็บอกเขาไปตรงๆว่าผมขี้เกียจที่จะผ่อนผันแล้วเขาก็เลยโอเคจัดเลย

      คือที่เขาร้องไห้เพราะเขาตกใจ และส่วนตัวเขาเป็นคนละเอียดอ่อนอยู่แล้วเขาเป็นคนอ่อนไหวกับทุกเรื่อง ตอนที่เราเห็นเขาร้องไห้เราก็ซึ้งคือตอนแรกผมเองก็ไม่ร้องนะแต่จะมาร้องตอนที่คนรอบข้างเป็นห่วงเรามากๆ มันทำให้เราซึ้งเพราะความจริงแล้วผมไม่ได้กลัวอะไรเลย ไม่ได้กลัวการไปฝึกหรืออะไรผมพร้อมหมดผมได้ทั้งหมด แต่ผมซึ้งที่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแฟนหรือใครรอบข้างเขาเข้ามาปลอบเรา มาให้กำลังใจเราต้องขอบคุณทุกคนทุกคอมเม้นท์ทุกๆอย่างเลยจากพี่ๆทุกคนที่ให้คำปรึกษา ผมซึ้งใจตรงนี้มาก"

 

 

 

    ครอบครัวคุณพ่อดูตกใจกับการตัดสินใจของเราครั้งนี้
    "พ่อเขาตกใจแต่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนที่มีอิสระทางความคิด เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร คือตอนแรกที่เราคุยกันกับพ่อก็คือจะผ่อนผันแหละจนพอมาถึงบริเวณที่ตรวจเกณฑ์ทหารเราก็เปลี่ยนใจแบบกระทันหัน"
    งานตอนนี้ยังมีค้างไหม 
    “งานผมเดือนหน้าก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว คงจะเป็นเรื่องของการเข้าสตูดิโอวางแผนว่าก่อนเข้ากรมจะทำอะไร แล้วเข้าไปแล้วจะมีอะไรให้คนที่รอเราอยู่ข้างนอกได้ดู ผมสนุกกับตรงนี้”