คุกคามทางเพศช่วงสงกรานต์

          ปีใหม่ไทย 2562 กำลังจะมาถึงกับประเพณีสงกรานต์ การสาดน้ำสนุกดับร้อนแต่แฝงเรื่องการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าชายหรือหญิงอาจถูกลวนลามได้ ซึ่งเคยมีให้เห็นเป็นข่าวทุกปี เพื่อป้องปรามไว้ดีกว่าแก้ ทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ “ซินดี้” สิรินยา บิชอพ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2539 จึงออกมาเคลื่อนไหว

          “ซินดี้” พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายเด็กและเยาวชน และตัวแทนกลุ่มผู้เคยถูกคุกคามทางเพศช่วงสงกรานต์ กว่า 30 คน ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมี พ.ต.อ.สมชาย ว่องไวเมธี นายตำรวจหัวหน้าเวรอำนวยการประจำวันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับหนังสือ (3เม.ย.)

          มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2539 เผยในฐานะตัวแทนของ Don’t tell me how to dress และประชาชน เพื่อจะมาฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ ในเรื่องการคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศ จากปีที่ผ่านมาตนเองและมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้เร่งรณรงค์ในเรื่องการคุกคามทางเพศมาโดยตลอด อีกทั้งอยากให้ตำรวจพิจารณาเพิ่มโทษในเรื่องดังกล่าว และหามาตรการดูแลความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น อยากให้สงกรานต์เป็นไปด้วยความปลอดภัย และเป็นไปตามประเพณี

          “จรีย์ ศรีสวัสดิ์” หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เผยว่า จากข้อมูลผู้ที่เคยถูกลวนลามในช่วงสงกรานต์ เกิดจากคนเมาสุรา นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ จึงแสดงให้เห็นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมที่สำคัญ ในการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยพบว่ากว่าร้อยละ 40 ของจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ดังนั้น จึงอยากจะเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยเฉพาะในเรื่องการห้ามขายให้กับคนเมา การขายให้เด็กและเยาวชน เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ทั้งการกระทำการคุกคามทางเพศ และความรุนแรงในครอบครัว อุบัติเหตุ รวมถึงการทะเลาะวิวาท ตลอดจนร่วมกันดำเนินการเฝ้าระวังในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ให้ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง

          จะว่าไป! ปีที่แล้ว ผบ.ตร. ออกมาตรการสืบสานประเพณีไทย จึงลงพื้นที่ตรวจถนนข้าวสารแห่งนี้ถือเป็นจุดที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสุภาพ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยว “ไม่โป๊ ไม่ลวนลาม ไม่ขายปืนฉีดน้ำแรงดันสูง” หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมาย อาทิ หากแต่งตัวโป๊ มีความผิดตาม ป.อาญา ม.388 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หากลวนลามทำอนาจาร มีความผิดตาม ป.อาญา ม.278 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หากจำหน่ายปืนฉีดน้ำแรงดันสูง มีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท เป็นต้น

          ขณะที่ ข้อมูลลงพื้นที่สำรวจทัศนคติผู้หญิงไทยต่อเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล โดยสำรวจผู้หญิง 1,650 ราย อายุ 10-40 ปี พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง หรือร้อยละ 59.3 เคยถูกฉวยโอกาส ถูกลวนลามคุกคามทางเพศ สำหรับรูปแบบพฤติกรรมการถูกลวนลาม คือ ถูกจับแก้ม

          ร้อยละ 33.8 เบียดเสียด จับมือ จับแขนและใช้สายตาจ้องมองแทะโลม ร้อยละ 18.0 ถูกสัมผัสร่างกาย ล้วงอวัยวะอื่นๆ ร้อยละ 9.6 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เช่น ถูกก่อกวนจากคนเมาสุรา บังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาอุบัติเหตุ

          และที่สำคัญเมื่อถูกลวนลามคุกคามทางเพศ มีเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่เลือกจะแจ้งความดำเนินคดี สำหรับพื้นที่ยอดฮิตที่นิยมไปเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด คือถนนข้าวสารและสีลม รองลงมาสยามและเซ็ลทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ในกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เล่นสงกรานต์ให้เหตุผลว่า เพราะเคยถูกแต๊ะอั๋งจึงไม่อยากเล่นสงกรานต์ กลัวถูกฉวยโอกาสลวนลาม ร้อยละ 28.10

          ดังนั้น.. เมื่อเห็นข้อมูลอย่างนี้แล้ว หากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันดูแลป้องกัน เท่ากับเป็นการดูแลรักษาประเพณีให้น่าเที่ยวอันเป็นวัฒนธรรมช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงดูดชาวต่างชาติจากทุกมุมโลกมาไทย จับจ่ายใช้เงินให้

          ชาวบ้านร้านตลาดได้คึกคัก จึงต้อง “จัดหนัก” พวกคุกคามทางเพศช่วงสงกรานต์ อาจช่วยเตือนสติเตือนใจไม่มากก็น้อยว่ามั้ย!!