'เกรท-มินนี่' ชวนเริงร่า ที่คาเฟ่น้องหมาใจกลางเมือง

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-กระแสภาพยนตร์กำลังมาแรง สำหรับ “แสงกระสือ” ที่นำแสดงโดย 3 นักแสดงเลือดใหม่ ได้แก่ “โอบ” โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ “เกรท” สพล อัศวมั่นคง และ “มินนี่” ภัณฑิรา พิพิธยากร ที่ตอนนี้รายได้ภาพยนตร์กำลังทะยานสู่ 100 ล้าน วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” เลยขอพา 2 นักแสดงนำของเรื่องอย่าง “เกรท” สพล และ “มินนี่” ภัณฑิรา มาดับอารมณ์ความสะพรึงของหนังเรื่องนี้ด้วยกิจกรรม “พักยก” มุ้งมิ้งสไตล์คนรักสุนัขกันซะหน่อย

   โดยกิจกรรมที่จะพาไปทำนั้นคือ การไปตะลุยคาเฟ่น้องหมาที่ร้าน “Dog in Town Ekkamai” ร้านคาเฟ่ชื่อดังย่านใจกลางเมือง ซึ่งนัดหมายกันช่วงเที่ยงๆ กำลังท้องร้องเลย โดยทั้งหนุ่มเกรท-สาวมินนี่มาตรงเวลาเป๊ะ เมื่อมาถึงทั้งคู่ก็กล่าวทักทายทีมงานอย่างน่าเอ็นดู และด้วยคาเฟ่เน้นเรื่องของความสะอาดเป็นสำคัญ ก่อนที่จะเข้าร้านก็ต้องมีการถอดรองเท้า พร้อมทั้งล้างมือด้วยเจลล้างมือก่อนเข้าไป ซึ่งทั้งคู่ก็ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด

   ทันทีที่ไปถึงสาวมินนี่ดูจะตื่นเต้นแบบสุดๆ ส่วนเกรทที่เลี้ยงสุนัขที่บ้านอยู่แล้วเลยไม่ดูไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับการเจอน้องหมาเท่า “หนูเคยเลี้ยงหมาแล้วเขาเสีย หนูเอาไปฝัง ร้องไห้อยู่หลายวัน จากนั้นก็ไม่ได้เลี้ยงอีก เพราะกลัวจะทำใจไม่ได้ที่เขาจะจากไป” มินนี่เล่าขึ้น “ที่บ้านเกรทมีน้องหมาชื่อจิโร่ พันธุ์ชิบะ อายุขวบกว่าแล้ว” 

   พอเขาไปในร้านมีน้องหมาหลายสายพันธุ์คอยต้อนรับ แต่ที่ทำให้เกรทสะดุดก็คือน้องหมาสายพันธุ์เดียวกับเจ้าจิโร่ น้องหมาของพระเอกหนุ่ม “ชื่ออะไรครับ” เกรทถามขึ้นทันที่เห็นน้องหมาที่เหมือนของตัวเอง “ชื่อพหล” พนักงานที่ร้านบอกขึ้น ก่อนจะชี้ไปที่น้องหมาอีกหนึ่งตัวว่า “ตัวนี้ชื่อปุณณวิถี, ตัวนี้ชื่ออารี, ส่วนตัวนี้ชื่อทองหล่อ” มินนี่เลยพูดขึ้นชื่อเหมือน บีทีเอชเลย พนักงานตอบกลับว่า “ใช่ เราตั้งชื่อตามเส้นทางของบีทีเอชค่ะ” 

   จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มสนุกกับการเล่นน้องหมา แต่ดูเหมือนบรรดาน้องหมาจะไม่หลงในความหล่อของเกรทสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะออกแนวเมินมากกว่า ยกเว้นกับน้องหมาพันธุ์ปั๊กตัวสีดำที่ชื่อ “ปุณณวิถี” ที่ดูจะชอบเล่นกับเกรทมาก ส่วนน้องหมาพันธุ์ชิบะที่เหมือนกับน้องหมาของหนุ่มเกรทกับติดสาวมินนี่อย่างมาก แต่ที่ทั้งสองคนชื่นชอบคงเป็นน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียน อัสกี้ที่ชื่อชิดลม ที่ทั้งคู่ทั้งกอดทั้งหอม ซึ่งเล่นๆ อยู่เจ้าชิดลมตัวดีก็หันไปจูบปากหนุ่มเกรทอวดให้สาวๆ ได้อิจฉากันซะหน่อย 

   หลังจากเล่นเพลิดเพลินในบริเวณร้านแล้ว ทางเจ้าของร้านก็ปิ๊งไอเดียให้ทั้งคู่เป็นเล่นกับน้องหมาที่สนามหญ้าหน้าร้าน ซึ่งทั้งสองคนได้พาสมาชิกคู่ใจไปด้วยคือ เจ้าพหลกับเจ้าปุณณวิถี โดยทั้งน้องหมาและสาวมินนี่หนุ่มเกรทดูจะสนุกสนานกันมากๆ โดยเกรทได้ขว้างลูกบอลเล่นกับเจ้าปุณณวิถี ส่วนสาวมินนี่ก็วิ่งไล่จับกันกับเจ้าพหล แต่ด้วยอาการที่ค่อนข้างร้อน ทำให้  คนกับ 2 ตัวเล่นได้แปบเดียวก็เหนื่อย ต้องมานั่งจุ่มปุ๊กกันทั้งคนทั้งน้องหมา 

   งานนี้ช่างภาพก็เลยขอเก็บภาพความน่ารักของทั้ง 2 คนและ 2 ตัวซะหน่อย โดยทีมงานก็บอกให้ยิ้มหน่อย งานนี้เกรทแซวว่าให้น้องหมายิ้มหรือให้เกรทยิ้ม แล้วที่ชมว่าน่ารักเนี่ยน้องหมาหรือคน พูดจบทั้งทีมงานและสาวมินนี่ต่างหัวเราะในมุขของหนุ่มเกรทกันยกใหญ่ เล่นที่สนามหญ้าพอหอมปากหอมคอ ทั้งหมดก็เข้ามาตากแอร์เย็นๆ ข้างในต่อ พร้อมทั้งสั่งอาหารมาทาน พร้อมด้วยเล่นไปกับน้องหมาด้วย ช่วงระหว่างรอเลยถือโอกาสถามถึงภาพยนตร์เรื่อง “แสงกระสือ” เสียหน่อย 

   “กระแสตอบรับดีมาก ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ในส่วนของนักแสดงและทีมงาน เกรทว่าการที่มีคนดูหนังเรา แล้วพูดทั้งติทั้งชมล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องดีทั้งนั้น อย่างเรื่องแางกระสือเป็นการตีความกระสือแบบใหม่ มีเรื่องราวใหม่ๆ ให้คนได้ติดตามกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังยึดไว้คือเรื่องของความเชื่อของคนในเรื่องของกระสือ ถามว่าการทำงานสนุกแค่ไหน ต้องบอกว่าเป็นการทำงานที่อึดกันมากๆ (หัวเราะ) เพราะด้วยโลเกชั่นที่เราไปถ่ายค่อนข้างไกล และเวลาที่ถ่ายก็จะเป็นเวลาช่วงกลางคืน เราต้องทำงานแข่งกับเวลา และปัจจัยอย่างอากาศ ยุง แมลงที่จะมาร่วมด้วยช่วยกันตลอด ส่วนการทำงานกับคุณโอบ-โอบนิธิ คือเกรทได้ติดตามผลงานของเขามาก่อน และรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีฝีมือการแสดงที่ดีมาก เราก็จะกังวลว่าเราจะทำให้เขาช้าหรือเปล่า แต่คือโอบเป็นคนที่น่ารักมากก็จะคอยช่วยส่งอารมณ์ให้ตลอด” เกรทเผย

   ด้านมินนี่บอกว่าในกองสองหนุ่มจะมีมุมของตัวเอง คือพอไม่ได้ถ่ายปุ๊บก็จะหลับเอาแรงทันที ซึ่งก็จะมีเก้าอี้ของตัวเอง “พี่โอบจะไม่มีเก้าอี้สนามของตัวเอง เขาก็จะมานอนเก้าอี้สนามของหนูบ้าง ของพี่เกรทบ้าง แล้วคือพี่โอบสามารถหลับได้รวดเร็วมาก เรียกว่าเราก็จะต้องยอมสละเก้าอี้ให้เขาไป (หัวเราะ) คือกับพี่เกรทเคยเล่นละครเรื่องเดียวกัน แต่ไม่เคยเข้าฉากด้วยกัน เพราะฉะนั้นเพิ่งมาสนิทกันจากเรื่องนี้ ส่วนพี่โอบคือเราไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เรารู้แค่ว่าเขาคือโอบนิธิ ก็จะรู้สึกเหมือนพี่เกรทว่าจะทำให้เขาลำบากไหม ซึ่งพี่โอบก็จะคอยช่วยในเรื่องของการแสดงตลอด เพราะฉะนั้นการทำงานในเรื่องนี้คือถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุข ก็อยากให้ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้กัน เชื่อว่าคนดูจะมีมุมมองในเรื่องของกระสือในอีกแบบหนึ่ง”

   เป็นจังหวะที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี ทีมงานเลยให้ทั้ง 2 คนได้ลองลิ้มชิมรสอาหารกัน ก่อนจะยกมือบอกลาเพื่อไปดู “แสงกระสือ” ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในทุกโรงภาพยนตร์

เรื่อง ; ณัฏฐิรา หลอดแก้ว

ภาพ : วรวิทย์ พุ่มพวง