มุมมองชีวิต-ความรักของ 'เวียร์'

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  ปีนี้ต้องบอกว่าปีทองของตัวพ่อพระเอกวิกหมอชิตอย่าง “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ  เดินสายรับรางวัลจากหลายเวทีในฐานะนักแสดงนำชายจากภาพยนตร์เรื่อง “มะลิลา” รวมทั้งตอนนี้กำลังมีละครเรื่อง “พชรมนตรา” ให้ติดตามกันบนหน้าจอช่อง 7 HD ทุกคืนวันศุกร์-อาทิตย์ หาตัวยากขนาดนี้ วันนี้เราจะพระเอกคนนี้ทั้งเรื่องชีวิต งานในการบันเทิง และความรักกัน 
 

    @@@ เรตติ้งละคร พชรมนตรา พอใจไหม
       “ดี โอเคเลย ตอนถ่ายก็แบบ ตอนเริ่มเลยอะ ก็ยังไม่รู้ว่ามันจะออกมาแบบไหนนะครับ พออ่านบทดูแล้วก็เป็นละครคอเมดี้ซะส่วนใหญ่ เพราะว่าพี่พิงเขาทางนี้ เขาจะมีแบบเส้นเรื่องที่คอเมดี้เยอะ แต่ว่าโดยรวมเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในเรื่องมันก็เป็นเรื่องการตามหาเพชร อาถรรพ์ของเพชร ตามหาลูกสาวดร.อมร เพื่อมารับมรดก ซึ่งก็มีเรื่องราวหลายๆอย่าง แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวล ตัวพระเอกเราก็โอเค เราจะตามหาว่าจะทำอย่างไรให้คำสาปเพชรมันหายไป เพราะว่าพ่อเราป่วย แล้วเราก็ไปเอาโบว์มาอยู่ด้วย เพราะบ้านเขาถูกไฟไหม้ แล้วก็ต่างคนต่างช่วยชีวิตกันไว้ เป็นหนี้บุญคุณกันเลยพากลับมา แล้วก็ เป็นเส้นเรื่องของความรัก เรื่องราวก็สนุกสนาน พลิกไป พลิกมา สนุก เรื่องราวก็มีหลายแบบไม่ได้แบบ ตรงๆ ไป จะเล่าแบบตัวละครหลายตัว ความโลภ กิเลสแตกต่างกันไป กิเลสต่างๆ เรื่องของความรัก ของเพื่อนของครอบครัว มีความคอเมดี้ด้วยนะ เพราะว่าเส้นเรื่องคือตลก”

 

    @@@ กับ "โบว์" เมลดา เจอกันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
       “สนุกสนาน ทุกคนมาทำงานเนอะ เรื่องของานที่ได้ก็ดีอยู่แล้วหละ ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้เขาขากัน กับทีมด้วย กับนักแสดงด้วย ที่จริงผมก็เจอมาหมดแล้วนะ มีโบว์ที่เพิ่งเจอ น้องคนอื่นผมร่วมงานกันมาหมดแล้ว ส่วนที่คนชอบเคมีของผมกับโบว์ จริงๆ เล่นน้อยนะ เพราะด้วยความที่ เราเชื่อไปแล้วว่าตัวละครนี้คือผู้ชาย โบว์เขาก็รับมุกทันนะ ทันบ้างไม่ทันบ้าง เอ๋อบ้าง(ยิ้ม)"

 

    @@@ ละครเรื่องนี้มีความตื่นเต้นขนาดไหน
       “จริงๆ คนเขียนบทเอง ผกก. เขาก็ไล่เรื่องราว เปิดด้วยความตื่นเต้น แล้วก็เล่าเรื่องราวที่มันจะเกิดขึ้น ปูเรื่อง ปูตัวละครว่ามีใครเข้ามา อยู่ในบ้าน เพราะอะไร พอทุกอย่างมันลงตัวแล้ว คนดูรู้จักเรื่องราว และตัวละครแต่ละตัว เราก็ค่อยๆดำเนินเรื่องไป แบบขึ้นๆลงๆ มีความลึกลับตื่นเต้นเข้าไป ว่าสรุปแล้วใครเป็นลูกของ ดร. อมร แล้วพระเอกรู้เมื่อไรว่าเพชรเป็นผู้หญิง เรื่องของอาถรรพ์ว่าเราจะสามารถหยุดมันได้ไหม มันจะไปฆ่าใครอีก คือมันไม่ได้เล่าแค่ว่า รักกัน มีบุคคลที่สามเข้ามาแล้วงอน คือมันมีหลายมิติ เรื่องของพ่อของเรา ที่ไม่ค่อยอยู่กับใคร เล่นกับซีจี เราเองก็ต้องเล่นกับสาวๆ เล่นกับพี่น้ำ พยายามหาทางช่วยพ่อ หาทางเอาเพชรกลับไปคืนที่เดิม แต่ว่ามันก็มีเหตุการณ์เรื่องราวให้คนดู ลุ้นว่า สรุปใครเป็นยังไง สรุปใครเป็นลูก เรื่องราวมันก็จะชวนให้น่าติดตาม เข้มข้นขึ้น ยิ่งช่วงท้ายสนุกมากๆ เลยนะ”

 

    @@@ คาดหวังเรตติ้งไหม เพราะตอนนี้เรตติ้งขยับค่อนข้างยากนิดหนึ่ง
       "ขยับยากนะแต่ว่าก็เริ่มดี ที่สุดเนอะ ตอนแรก เรตติ้ง 6 เอาจริงๆเคยคุยไว้ว่าอยากเปิดให้ได้สัก 12 เปิดตัว 12 แต่ว่าได้ครึ่งเดียวคือ 6 ตอนนั้นเราก็โม้ไปทุกทีเวลาที่ใครมาถามเรา เราก็บอกว่าละครเรื่องนี้ตอนแรกต้องเปิดสัก 12 เขาก็เลยให้มาครึ่งเดียวก่อน ให้มา6 จริงๆ คาดหวังไหมเราก็คาดหวังนะครับ มันก็ต้องด้วยการโปรโมต ด้วยกระแสทางช่อง ทางค่าย และแฟนๆของนักแสดง แต่ละคน แม้แต่พวกเราเองก็ต้องช่วยกันโปรโมต แล้วเดี๋ยวนี้ก็ อยู่ที่โซเชี่ยลเนอะ ต้องช่วยๆกัน เขาได้รู้ ติดตาม ชวนกันเข้ามาดู อันนี้มันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรตติ้งขึ้น ส่วนละครผมไม่ค่อยหนักใจ เพราะว่าละครสนุกอยู่แล้ว ละครสนุกด้วยตัวของมันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวิธีในการที่จะดึงคนให้เข้ามาดู นั้นคือการเพิ่มคนดู"

 

    @@@ จากเมื่อก่อนที่เล่นละครเรตติ้ง 20 จนวันนี้เรตติ้งขยับยาก เราปรับตัวอย่างไร
       "ก็ไม่นะ ผมว่าคนดูยังดูอยู่เท่าเดิม คนดูยังอยู่เท่าเดิม ไม่ได้หายไปไหน กลุ่มเป้าหมายของเรา เอาแคบๆ แล้วกัน กลุ่มเป้าหมายของช่องเรายังมีเหมือนเดิม คนดูละครก็ยังคงดูละคร เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าบางที อาจไม่ได้ดูสดเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีดูย้อนหลังได้ เราก็เลยไม่ค่อยอะไรกับตรงนี้เท่าไร เพราะว่าเราก็ยังรู้สึก ธุรกิจบันเทิงมันยังไปได้อยู่นะ เพราะมันยังมีคนดู เพียงแต่ว่าเรตติ้งมันอาจไม่ได้เยอะเท่าเมื่อก่อนด้วย"

 

 

 

 

 

    @@@ ตอนนี้ตกใจไหม เห็นเรตติ้งน้อยลง
       "ไม่นะ ไม่สนใจ เพราะว่าเขาก็บอกอยู่แล้วว่า เดี๋ยวเราจะปรับไปเป็นดิจิตอลนะช่องเยอะขึ้น ผมไม่รู้ว่าเขาวัดกันอย่างไรด้วยซ้ำ อยู่มาตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าเวลาเขาวัด เขาวัดกันเท่าไร บางทีมีล่มเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงล่ม ล่ม เพราะอะไร เพราะมีข้างในมีจ่ายตังหรือเปล่า ใครจะไปรู้ บางทีมีคนบอกเราว่าเรตติ้งไม่ออกนะวันนี้เพราะว่าล่ม มันล่ม แล้วพอออกมาอีกที เรตติ้งน้อยๆ ผมว่ามันต้องมีอะไร แต่ว่าเราไม่พูด เราไม่พูดไม่ได้ เอาเป็นว่าเราไม่ยึดติดที่ตัวเลข เพราะว่าเราผ่านมาเยอะแล้ว เจอมาหลายเหตุการณ์ แปลกๆมาเยอะ เลยรู้สึกว่าเด็กๆนักแสดงใหม่เขาก็อยากให้ตัวเลขมันดี มันก็เป็นกระแสของเขาเอง ยอดคนติดตามมากขึ้น อย่างตัวผม ก็ดูนี่แหละรอบๆ ว่ามีคนพูดถึง เท่านี้ก็ดีใจ เพราะว่าเราจะใช้แบบ สมัยก่อน เราจะรู้ว่าสมัยก่อนเราจะเจออะไรในสมัยที่ละครเราเรตติ้งดี แล้วตอนนี้เรายังเจอแบบนั้นอยู่ ก็แสดงว่ามันดี เราเอาของจริงๆดีกว่า ที่เราไปเจอคนจริงๆ ที่เราสัมผัสได้ งานที่เข้ามาต่างๆมันก็ตอบเราว่า งานที่เราทำออกไปตั้งใจ แล้วคนดูแล้วชอบ"

 

    @@@ ตอนนี้กี่เรื่องที่ถ่าย
       “1 เรื่อง ยอดรักนักรบ เพราะว่าผู้บ่าวอินดี้ถ่ายเสร็จไปแล้ว อันนั้นน่าจะนาน ปี 2564 มั้ง”
    @@@ ทำไมนานขนาดนั้น
       “ไม่เห็นจะต้องรีบอะไร ละครก็มีเยอะแยะ หมายถึงละครช่อง 7 นะ ไม่ใช่ละครผม (หัวเราะ) แต่ว่าผมว่ายอดรักนักรบน่าจะนาน เพราะว่าบทมันไม่มีบท บทยังไม่มา เดี๋ยวนี้ละครไม่แน่ไม่นอน บทไม่มา หลายๆ อย่าง บางทีมันต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าบทมาแล้วถ่ายได้เลย เหมือนเมื่อก่อน มันต้องมีการส่งมาดูแก้ไขให้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนส่งแฟกซ์ เขียนมือเปล่าก็ต้องเล่นแล้ว”

 

    @@@ ส่งบทน้อยก็เตรียมตัวได้น้อย
       "ใช่ ทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวนี้มันเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ผกก. ทีมงาน นักแสดงชอบมากเวลาที่มีบทในมือ แล้วทำอะไรได้ทีเดียว มันสมบูรณ์แบบ อย่างตอนนี้ใครก็ทำละคร ทำซีรีส์ แล้วคนเขียนบทมีกันอยู่ไม่กี่คน ที่เก่ง ไม่ทัน เราก็ไม่อะไร แต่ว่าเราโดนบังคับให้ต้องเปิดกล้อง เราก็ต้องทำ ถ้าเราไม่เปิดกล้อง กองถ่ายก็ไม่มีเงิน มันเป็นวัฏจักร"

    @@@ คิวรวนไหม
       “นิดหน่อย แต่ผมไม่ซีเรียส บทมาเมื่อไรก็ถ่ายเมื่อนั้น แต่ว่าเรามีโครงเรื่องใหญ่ในมืออยู่แล้ว เรื่องราวทั้งหมดมาแล้ว เรารู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดมันจะเกิดอะไร เพียงแต่ว่าในส่วนยิบย่อยเรายังไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร ณ ปัจจุบันการทำงานของเรา ไม่ใช่ว่าก่อนถ่ายจะได้ถ่ายเลยนะ ต้องมานั่งดิสคัทกัน หน้าเซท ว่าจะเล่นยังไง มันเหมือนละครจานด่วนแต่ว่ามันไม่เหมือนเมื่อก่อน มันคนละแบบ เมื่อก่อนมันด่วนเพราะต้องการออน ไม่มีใครมาออนแล้ว ต้องรีบ แต่ตอนนี้คือบทไม่มา ในส่วนที่เราต้องการมันน้อย ส่วนที่มันเพิ่มขึ้นมันไม่ทันไง แต่เราเข้าใจ ไม่เร่ง ไม่ว่า เพราะว่าถ้าเร่งก็ไม่ดี”
 

    @@@ ปีนี้จะรับละครอีกไหม
       "ไม่รับแล้ว รอเรื่องยอดรักถ่ายให้จบ รอดูละครพชรามนตรา ดีแล้วจะได้มีเวลาช่วยๆ กัน โปรโมตละคร"
    @@@ ตอนนี้ถ่ายรายการซุเปอร์เวียร์
       “ออกอากาศ ปีละ 9 เทป รายการนี่เราไปขอเขาทำ ขอเขาทำเขาก็ให้ทำ มันสบายอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้พอแล้ว แค่นี้ก็เต็มแล้ว”
    @@@ ตอนนี้เป็นเจ้าพ่อธุรกิจ
       “ทำไปสนุกๆ ไม่เยอะครับ แค่ดูแลได้”

 

    @@@ เรียกป๋าได้ยัง
       “เรียกเฮียไปก่อน อย่าเรียกป๋าเลย ป๋าดูแก่”
    @@@ แบ่งเวลาอย่างไร
       “เหมือนเดิมเลย เหมือนที่เคยตอบ เราให้ความสำคัญในการลำดับความสำคัญ แบ่งเวลาให้ตัวเอง เน้นสุขภาพมาตั้งแต่แรก เน้นสุขภาพก่อนแล้วค่อยมาเรื่องงาน ถ้านอนน้อยก็ไม่อยากทำงาน ถ้าไม่ออกกำลังกายก็ไม่อยากทำงาน ก็พยายามแบ่งว่า สุขภาพก่อน 2 เรื่องของหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ 3 ก็เรื่องของตัวเองแล้ว ไปเที่ยว พักผ่อน ธุรกิจ หลักๆที่ทำก็ไทรอัม รังสิต ที่เหลือก็มีคนดูแลกันไป ไม่ต้องอะไรมาก เพราะว่าค่อนข้างที่อยู่ตัวนิ่งๆ สบายๆ”

 

 

 

    @@@ ถามที่ไปมอบของให้เด็กๆทริปล่าสุด ช่วงนี้ ซีเอสอาร์ สังคมตลอด
       “ทำอยู่ทุกปี พยายาม เพราะว่ารายการก็ทำอยู่แล้วเนอะ ก็เป็นเหมือนของเรา ของบริษัท เราซื้อเวลาช่อง คือไม่ได้กำไรสักบาทเลย เป็นรายการที่ไม่ได้ตังนะ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมากกว่า”

 

    @@@ คืนความสุขให้สังคม
       “ใช่ เพราะรายการเราเช่าเวลา หาโฆษณาไม่ค่อยได้เพราะว่า เราติดพรีเซนเตอร์เยอะ แล้วเป็นพิธีกร นอกจากโฆษณาที่เราเป็นพรีเซนเตอร์ เขาซื้อ ซึ่งเขาซื้อ”
    @@@ ความสุขที่ได้จากการเป็นผู้ให้
       “ไม่มีอะไร ก็เห็นอยู่ ให้ปุ๊บมีความสุขปั๊บ ง่ายๆ เป็นความรู้สึกที่เรารู้เองอยู่แล้ว”
    @@@ อยู่วงการมา กี่ปี
       “เริ่มถ่ายปี 2548 15 ปี”

 

    @@@ อายุงานทำเบื้องหลังได้แล้ว
       “ได้ทำได้ แต่ว่าไม่รู้จะไปทำอะไรตอนนี้ ดูจะเหนื่อยๆ น่าจะเหนื่อย แต่ว่าจริงๆไม่มีอะไรไม่เหนื่อยเลยนะ เราไม่รู้จะไปเหนื่อยทำไม ตรงนี้ก็โอเคอยู่นะ สนุก ทำงานก็สนุก เอาจริงๆผมมีคอนเนคชั่นหมดทุกอย่างแล้วนะครับ เพียงแต่ว่า มึงจะพร้อมหรือยัง บอกตัวเองว่ามึงพร้อมยัง ถ้ามึงพร้อมพรุ่งนี้เช้าก็แค่โทรไปบอกว่าพร้อมแล้ว เริ่มได้เลย คือเราพร้อมนะ เรามีทีม ทุกอย่าง พร้อม เพียงแต่ว่าตัวเรายังไม่อยากทำ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเรายังเต็มที่กับงานเบื้องหน้าได้ เพราะเรายังคงต้องเต็มที่กับเบื้องหน้าก่อน ยังไม่ควร ถ้าไปเบื้องหลังคงไปเลย”

 

    @@@ ตอนนี้เรายังขายได้
       “ไม่รู้ได้ปะนะ มันไม่เป็นสิ่งที่ผมควรจะพูด ไง ต้องให้คนอื่นชม”
    @@@ 15 ปีในวงการมองว่านานหรือยัง
       “จริงก็เพิ่งเริ่มนะ เพิ่งเริ่มต้น จริงๆ 5 ปี คือเพิ่งจะมีคนรู้จัก หมายถึงสิ่งที่คิดเราควรจะคิดนะ คนรู้จัก 1 แสน คนไม่เรียกมีคนรู้จักนะ ต้องหลักล้าน ขึ้นไปในประเทศไทย อันนั้นถึงเรียกว่ามีคนรู้จัก ไม่ใช่มีคนรู้จักแค่ กลุ่มเดียว บอกว่ามีคนรู้จัก ส่วนตัวผมคิดนะ สัก 10 ปี ก็ต้องแบบมีผลงานเด่นๆสัก 1-2 เรื่อง ที่สำเร็จ 15 ปีเนี่ยต้องเริ่มไปทำอย่างอื่นด้วย พร้อมทำงานบันเทิงด้วย และยังประสบความสำเร็จอยู่ ยังไปต่อได้อีก ผมรู้สึกว่า 15 ปี ผมยังเพิ่งเริ่มไง”

 

 

 

    @@@ 20 ปีมีลูก
       "นั่นแหละ เราเริ่มแล้วอะ เรายังไปได้อยู่ ยังสนุก ยังได้อยู่ ไม่อยากให้คนมองว่าอายุงานในวงการบันเทิงมันสั้น จริงๆมันสั้นหละ แต่ว่าเขาต่อระยะเวลาให้พวกเราแล้ว โลกโซเชียลต่อให้เรา ช่องอื่นก็มากขึ้น ก็ต่อเวลาให้พวกเรา เมื่อถ้าสมัยก่อนมีอยู่ 3 ช่อง ป่านนี้เป็นพ่อแล้ว เพราะว่ามันก็ซ้ำหน้ากันอยู่อย่างนั้น อันนี้คือเขาต่อเวลาให้เรา แล้วคนที่อายุ 40 ก็ยังเป็นพระเอกได้ ยังเล่นบทเด่นได้ แต่ว่าจะไม่ใช่พระเอก ก็มีข้อดีข้อเสียไงถึงบอก นักแสดงก็มีโอกาสได้โชว์ฝีมือ มากขึ้น เปิดโอกาสให้พวกเรา ต่อชีวิตพวกเรา ตอนนี้เราน่าจะอยู่ได้ถึง 40-50 ถ้าคน ดูแลตัวเองดีเป็นพระเอกได้นะ"

 

    @@@ มองภาพอนาคตว่า จะเล่นละครไปเรื่อยๆ
        "คงเล่นนะ แต่ว่าคงไมได้เล่นเยอะแบบสมัยก่อน แต่ไม่ใช่ว่าเหนื่อยนะ แต่ว่าเราต้องทำอย่างอื่น เราก็ไม่ได้เลือกด้วยนะ ไม่ได้เลือกว่าจะเล่นเรื่องนี้ ไม่เล่นเรื่องนี้ ขอเราช่วงว่าถ้าถ่ายขอถ่ายสัปดาห์ละคิว ก็ประมาณ 3-4 วัน ไม่ได้อัดแบบ 7 วันต่อสัปดาห์ พักผ่อนบ้าง เดี๋ยวป่วยตายไป ไม่ได้ใช้เงิน"
    @@@ วางตัวอย่างไรบ้างอยู่เป็นรุ่นพี่แล้ว
       “จริงๆ ก็ไม่ค่อยนะแต่ผมว่าถ้าเราโอเค หมายถึงว่าถ้าเราเป็นนักแสดงจริงๆ และรักที่จะอยู่ในวงการบันเทิง แล้วถ้าเป็นตัวของตัวเองจริงๆถ้าเด็กมันชอบก็ชอบถ้าเด็กไม่ได้ชอบแบบผมก็อาจจะชอบแบบอื่น คือเราก็ไม่ได้บังคับใครเขาเราก็เป็นแนวเรา เราเองก็ไม่ฝืนตัวเอง”

 

    @@@ เขินไหมคนมองเป็นตัวพ่อของช่อง 7
       "ไม่นะไม่เขิน เราเองก็ไม่ได้ซีเรียสแต่คนค่อนข้างจะคาดหวังเยอะ จนทำให้นะรู้สึกว่านี่ต้องไปคาดหวังกับเราด้วยป่ะเนี่ย (ยิ้ม) นึกออกไหม"
    @@@ พอมีละครออกมาใหม่ทุกคนก็จะจับจ้องว่า ละครเวียร์มาแล้ว
       "นั่นแหละ เหมือนเขาส่งความเครียดมาให้เรา แล้วถ้าออกมาแล้วมันไม่ดีผมถามว่าคุณจะว่าผมไหม จะว่าใครคุณจะโทษใคร ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้กะเอาพี่บีออกมาช่วยกู้หน้าเรตติ้งไม่ขึ้น กลายเป็นว่าไอ้เ_ย ผิดหรอวะ เป็นแพะหรอไม่ดูอย่างอื่นด้วยหรอ แต่มันก็ดีนะมันทำให้ผมต้องแสดงแบบตั้งใจ แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่รู้นะก็ลองไปดูในละครละกันว่าผมแสดงดีหรือเปล่า ถ้ากูเล่นดีแล้วก็ให้อภัยแต่ถ้าเล่นไม่ดีจะทำให้ละครมันแย่ เออ ยอมรับผิดเลย อย่างที่บอกคนกลัวไง พอยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว มันทำให้เราต้องคัดเลือกอะไรมากขึ้น ละเอียดขึ้นในการที่จะทำอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ขนาดนั้นนะ ผมว่าถ้าเราทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เราได้รับ คนมองเห็นนะถ้ามันดีมากๆแล้วเรตติ้งดีอันนี้คือเสมอตัวนะ ไม่มีใครมาบอกว่า เวียร์ สุดยอดเจ๋งว่ะเก่ง เท่าตัวเสมอตัวเลย แต่พอแป๊กเหยียบกูเลย ผมเลยบอกว่าอย่าให้ความสำคัญหรือคาดหวังอะไรกับเรามาก เราก็มีหน้าที่ของเรา เราเต็มที่ของเราอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหรอก ช่วยๆ กันมันต้องดี"

 

    @@@ แบบนี้ต้องเลือกเยอะขึ้น
       “ผมไม่ได้เลือกเลยนะ ถ้าเลือกได้ผมคงเลือกอะไรที่มันพร้อมถ่ายได้เลย ผมจะมานั่งบ่นว่ารอบท ทำไมล่ะ ถ้าผมเลือกได้จริงๆผมจะเลือกบทที่มาครบแล้ว เล่นที่อยากเล่นจริงๆตามที่คิวผมขอ ขอเปิดกล้องคืออันนี้ผมเลือก แต่อย่าไปพูดรอบทเยอะเดี๋ยวคนเขียนบทว่าว่าผมไปว่าเขา จริงๆผมไม่ได้ว่าอะไร ผมเข้าใจเพราะเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ละเอียด ช้าได้ แต่ต้องสนุก”
    @@@ เต็มที่เรื่องความรักไหม
       “ผมต้องคุยเรื่องนี้ไหม ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะว่ารู้กันอยู่แล้ว เลยขี้เกียจพูดบ่อยๆ ก็เห็นกันอยู่เนอะ ในโลกโซเชียลว่ามันเป็นอย่างไร พูดอะไรเยอะแยะ พูดเยอะก็เหนื่อย”

 

 

    @@@ คาดหวังกับความรัก แพลนไว้อย่างไรบ้าง
       “โห พูดยาก พูดยากเหมือนกัน เอาเป็นว่าอย่างที่เคยบอก ตามธรรมชาติแล้วกัน เมื่อไรเมื่อนั้น คือเราจะต้องพร้อม จะต้องไม่มีหนี้สิน ถ้าผมจะแต่งงาน เมื่อไรผมต้องไม่มีหนี้ ต้องเป็นคนไม่มีหนี้ ถ้ามีหนี้ แล้วแต่งงาน มันไม่พร้อมจะทำอะไรต่อแล้ว ก็เต็มที่ หาเงินมาได้ก็ต้องเก็บไว้ สร้างฐานะ สร้างอาณาจักร”

 

    @@@ เหมือนทั้งคู่ต่างซึมซับไลฟสไตล์ของแต่ละคนมากขึ้น
       “ผมว่าไม่น่าใช่ ผมว่าพวกคุณไม่รู้อะไรหรอก จริงๆ ก็บางทีเราก็เรียรนรู้ซึ่งกันและกันไปเท่านั้นเอง ต่างคนต่างมาจากต่างครอบครัว ต่างสังคม พอเวลาได้เรียนรู้ เราก็ได้สังคมใหม่ๆจากเขานั้นแหละ ซึ่งก็เปิดโลกให้เราพอสมควรเท่านั้นเองก็ไม่ได้มุ้งมิ้งอะไร มันก็มีอะไรที่เราให้ความสำคัญมากขึ้น แบบเมื่อก่อนอะเนอะในมุมมองผู้ชาย อย่างเขาก็ต้องมาเรียนรู้จากเรา แต่เราไม่เคยบอกว่าต้องมาทำเพื่อให้เรารู้สึกดี ก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องบอก ไม่มีใครเขามาพูดกันหรอกว่าเธอต้องปรับ ตัวให้เข้ากันนะ ถ้าพูดก็ไม่ดีนะ ถ้ามีคำพูดนี้ ออกมา แปลว่ามันเริ่มไม่ดีแล้ว ถ้าไม่มีใครพูด มันจะรู้ด้วยตัวของแต่ละคนเอง ว่าต้องอยู่ยังไง ทำอะไร อะไรควรไม่ควร มันต้องมีสมองที่จะคิดเองได้ ถ้าวันหนึ่งมาบอกว่าเธอต้องปรับนะ คือแบบนี้ไม่ได้อะ เหมือนเรามีเพื่อนอะ ถ้าเรารู้ว่าเพื่อนเราไม่ชอบแบบไหน เราก็ไม่ทำอย่างนั้น คล้อยตามกำลังดี สิ่งที่เราคุยกัน เป็นสิ่งที่คนนอกไม่ออก คนในเท่านั้นที่พูดแล้วจะฟัง มันจะมีแค่ไม่กี่คนที่เราฟังไง ซึ่งอย่างผมกับเขาก็จะฟังซึ่งกันและกัน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเตือนเราได้ เพราะว่าเราค่อนข้างเก๋า ทุกคนก็เก๋าหมดแหละ”

 

    @@@ วางแผนชีวิตยังไงบ้าง
       "คงเต็มที่ทำให้ดีที่สุด มีความสุขด้วย สนุกด้วย ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆเกินไป ไม่อินดี้เกิน ต้องแบ่งๆกับสังคมบ้าง คนรอบข้างบ้าง ไม่เดินก้มหน้าคนเดียว พอบางคนเริ่มโต เจออะไรมา จะขัดไปหมด แต่บางทีถ้าเรามองคนนั้นคนนี้ บ้าง เดินไปข้างหน้าไปกันเยอะๆดีดึงเพื่อนกันไป นั้นแหละ มันเป็นเวลาที่เราทำให้ตัวเองมาประมาณหนึ่งแล้ว ถ้ามีเวลาก็เผื่อแผ่คนอื่น”
    ความสุข สนุกกับชีวิตในแบบ "เวียร์" ศุกลวัฒน์