'คารีสา' ลั่นสภาพจิตใจ 'ปลา' ภรรยา 'ป๊อบ-ปองกูล' ไม่ดีขึ้น

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง "เป้" อารักษ์ และ "คารีสา" สปริงเก็ตต์ ยังคงถูกจับตามองอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่นานมานี้ยังมีทริปฮ่องกงร่วมกันอีกด้วย หลายคนก็ลุ้นว่าทั้งคู่จะขยับสถานะแล้วหรือไม่ วันนี้ (13 มี.ค. 62) "คารีสา" มาร่วมบวงสรวงละครเรื่อง ลวง ฆ่า ล่า รัก ที่ช่อง พีพีทีวี ย่านวิภาวดี เลยต้องถามถึงเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องสภาพจิตใจของ "ปลา" ภรรยา "ป๊อบ" ปองกูล ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ในฐานะที่รู้จักทั้งคู่เป็นอย่างดี

ถามถึงเรื่องที่มีคนจับตามองว่าเราไปร่วมงานแต่ง ป๊อบ ปองกูล กับอาจารย์ปลา ?
   “หนูกับพี่ป๊อบและอาจารย์ปลา เรารู้จักกันตั้งแต่หนูเพิ่งเกิด เรารู้จักกันนานแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่เคยโพสต์รูป ซึ่งถ้าคนติดตามไอจีหนูจะเห็นเลยว่าหนูไปคอนเสิร์ตพี่เขาบ่อย ส่วนหนึ่งก็เพราะแฟนคลับด้วย อีกส่วนก็เพราะความเป็นญาติด้วยค่ะ”
เราเป็นญาติกับฝ่ายไหน ?
   “พี่ป๊อบกับพี่ปลาบ้านเขาอยู่ปราจีนบุรีใช่ไหมคะ แล้วบ้านคุณแม่หนูก็อยู่ที่นั่น นึกออกไหมคะคนต่างตังหวัดทั้งตำบลจะเป็นญาติกันหมด ตอนหนูเข้าวงการแรกๆ หนูก็มาอาศัยบ้านเขาอยู่ด้วยนะคะ คือเขาก็เป็นอีกหนึ่งผู้มีบุญคุณของหนูเลยค่ะ”
เหมือนเป็นเราคนเดียวในวงการบันเทิงที่ได้ไปร่วมงานแต่ง คนก็เลยจับตามอง ?
   “หนูว่าหนูไม่ตกใจอะไร แต่หนูออกประเทศไปเลย เว้นการสัมภาษณ์”
จากนั้นก็มีกระแสข่าวคบซ้อนออกมา ตกใจไหม ?
   “เป็นใคร ใครก็ตกใจนะคะ แต่มันเป็นเรื่องของใครเรื่องของมันค่ะ หนูว่าหนูนับถือเขาในการเป็นญาติผู้ใหญ่ ส่วนในเรื่องความรักต่างๆ มันคือการตัดสินของเขา แต่ถ้าถามว่าสิ่งที่พี่หนูทำเป็นสิ่งที่ผิดไหม มันเป็นสิ่งที่ผิดมากๆ ก็ไม่อยากให้ใครทำตาม เพราะสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมามันไม่ดีหรอกค่ะ แต่ต้องขอบคุณทุกคนที่ยังเข้าใจ พี่ป๊อบอยู่วงการบันเทิงนี้มากับเพลงโดยตลอด แต่วันหนึ่งต้องมาทุกข์เพราะเรื่องส่วนตัว และโดนเยอะมาก อันนี้คือแยกความผิดออกไปก่อนนะ แต่เขาไม่เคยเอากระแสความเป็นตัวเองเข้ามาเป็นความดังในอิทธิพลความดังของการมีงานต่อไปของเขาได้เลย เพราะฉะนั้นให้โอกาสเขาเถอะ หนูเชื่อว่าหนูจะไม่ให้พี่หนูทำอะไรผิดอีกแล้วค่ะ”

เรามีโอกาสได้คุยกับเขาบ้างไหมหลังจากมีกระแสข่าวดราม่าเกิดขึ้น ?
   “คนก็ถามว่า ทำไมไม่ไปบอก ทำไมไม่ไปเตือน คือมันไม่ใช่เรื่องตัวเองอ่ะ อีกอย่างคนอื่นก็วิจารณ์เก่ง พอมันเป็นเรื่องแบบนี้พี่ป๊อบเขาค่อนข้างมีคาแรกเตอร์ที่บางเรื่องพูดได้ บางเรื่องพูดไม่ได้ แต่ถึงมันไม่ใช่พี่ป๊อบ หากเป็นเรื่องความรักถ้าเราพูดมากไปก็หมา เข้าใจไหม จะไปบอกว่า แก คนนี้ไม่ดี เลิกเถอะ แต่วันต่อมามันยังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย เราก็หมา สิ่งที่ดีที่สุดคือให้กำลังใจในวันที่เขาเป็นทุกข์ ส่วนวันที่เขาเป็นสุขเราก็ต้องภูมิใจ ตอนนี้คนตีความว่าความรักเป็นการครอบครองหมดเลย”
ตอนนี้สภาพจิตใจของทั้งคู่ดีขึ้นไหม ?
   “มันคงยังไม่ดีขึ้นหรอกค่ะ เพราะมันเป็นบาดแผลที่ค่อนข้างใหญ่มากๆ ต้องใช้ระยะเวลาค่ะ ก็อยากให้ทุกคนไม่ต้องไปชื่นชมเขาหรอกค่ะ แต่ให้กำลังใจเขานิดหนึ่งก็ดี เพราะสุดท้ายแล้วเพลงเขาก็ยังให้กำลังใจเราในวันที่ผ่านมา”
หลังจากงานแต่งวันนั้น ยังไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยใช่ไหม ?
   “เจอบ้างแหละค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องซัพพอร์ตครอบครัวเรา ก็อย่างที่บอกไม่ต้องไปชื่นชม แต่ควรให้กำลังใจในฐานะการเป็นเพื่อนมนุษย์ หรือในฐานะที่เคยยืมเสียงร้องของเขามาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง”

ได้ดูคลิปที่ เป้ อารักษ์ ออกมาให้สัมภาษณ์หรือยัง ?
   “ยังค่ะ เขาพูดอะไรเหรอ จะได้ต่อถูก (หัวเราะ)”
เขาบอกว่าสถานะความสัมพันธ์ระหว่างคู่เรา เป็นพี่น้องกันดีแล้ว ?
   “ค่ะ ดีแล้วค่ะ ความคิดเห็นตรงกันมาก (เสียงสูง) ตรงกันมาโดยตลอดค่ะ”
บรรยากาศในทริปนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
   “ทริปฮ่องกงเกิดจากที่เราแพลนกันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แพลนว่าจะไปทำบุญเพราะรู้ว่าเดือนนั้นมีพิธีเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิม เราก็อยากไปด้วย เนื่องจากตัวเราก็มีความเชื่อบวกกับความงมงายหน่อยๆ”
คนจับตามองเพราะดูเหมือนเป็นทริปไปเที่ยวกันเป็นคู่ๆ ?
   “อ๋อ... ไม่รู้อ่ะค่ะ เพราะถ้าจะไปถ่ายรูปกับคนอื่น มันก็ยังไม่สนิทขนาดนั้น”
แต่คู่เราก็เป็นแค่คู่พี่น้องที่ไปด้วยกันเฉยๆ ?
   “ใช่ค่ะ เอาจริงๆ หนูก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงรูปให้มันเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งเราก็ค่อนข้างที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง และก็มีรูปที่บรรยากาศข้างหลังมันน่ารัก หรือรูปมันสวย สำหรับเราคือเราอยากลง แต่ที่ผ่านมากลัวว่าคนจะเข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาตีความ เพราะเราทำอะไรไม่ได้นอกจากการโพสต์รูป ส่วนคนดูก็ตัดสินไปแล้ว เซฟเพื่อไปส่งต่อ แคปนู่นนี่นั่น ซึ่งตอนจะลงเราก็โอเค ฮึบไว้แล้วกัน ต่อไปนี้ถ้าหนูอยากลงรูปกับพี่ชายมันก็คงจะไม่เป็นอะไร มันยังมีรูปอีกหลายๆ รูปที่อยากลง แต่มันลงไม่ได้ เพราะถูกคนอื่นตัดสินอยู่ แต่วันหนึ่งเราว่าเราไม่ต้องมาดูภาพลักษณ์อะไรขนาดนั้น มันก็เหมือนเป็นการปลดล็อกตัวเองด้วยที่อยากลงอะไรก็ลง อีกอย่างคนก็เข้าใจในความเป็นหนูมากขึ้นด้วยค่ะ”

นิยามคำว่าพี่น้องของเราสองคน มันคืออะไร ?
   “จะอธิบายยังไงให้มันจบ (หัวเราะ) คือคนพยายามอยากให้คู่เราเป็นมากกว่านั้น แต่อย่างที่หนูบอกการจะเป็นแฟนมันต้องมีอะไรหลายๆ ส่วน อย่าไปตัดแคปแค่ท่อนนี้นะ คือหนูก็รักเขา แต่เราไม่ได้รักแบบอยากจะเป็นแฟน หรืออยากจะได้มาครอบครอง หนูยินดีให้เขาไปมีแฟนใหม่ เขาก็ให้หนูใช้ชีวิตของหนู บางทีคนเราพอได้เข้ามาโคจรเจอกัน และมีความรู้สึกที่ดีให้ต่อกัน เป็นห่วงกัน หนูว่าแค่นั้นมันก็พอแล้วค่ะ บางทีเป็นแฟนกันไป เลิกกัน ทะเลาะกัน แต่ต้องมาเจอกันในวงการบันเทิง มาเหม็นหน้ากันอีก จูนกันไม่ติด แต่พอเป็นแบบนี้เราก็ยังสบายใจอยู่ หนูก็ยังชัดเจนว่าทุกคนอาจจะยังเห็นรูปหนูกับเขา แต่วันหนึ่งที่หนูคุยกับผู้ชายคนใหม่แล้ว และเห็นรูปหนูกับผู้ชายคนใหม่ ก็คือหนูไม่ได้เจ้าชู้นะคะ หนูไม่เคยบอกว่าหนูเป็นแฟนกับพี่เป้ค่ะ (ยิ้ม)”
สถานะเหมือนเป็น เฟรนด์โซน ตัดกันไม่ขาด ใช่ไหม ?
   “ใช่ค่ะ มันเหมือนเราเป็นเพื่อนกันไปแล้ว เป็นเพื่อนที่วัยต่างกันเกือบสิบกว่าปีค่ะ”
คู่เราเคยก้าวข้ามผ่านจุดคำว่าเพื่อนไหม ?
   “โห ไม่รู้อ่ะ หนูก็เพิ่ง 21 เองเนอะ ยังไม่อยากมาปิดกั้นการเปิดโอกาสความสวยของเรา (หัวเราะ) หนูก็ยังอยากจะเรียนรู้ว่าผู้ชายคนโลกใบนี้มีคาแรกเตอร์นิสัยเป็นยังไงบ้าง และแบบไหนที่มันเข้ากับเราได้มากที่สุด คือหนูยังหวังดีและเป็นห่วงพี่เขาแบบสุดยอดมากๆ แต่เขาก็คงจะได้เรียนรู้รูปแบบความรักที่มันเหมาะและเข้ากันได้กับเขา”
สเปกเราชอบแบบไหน ?
   “มันกว้างมาก พูดยากค่ะ แค่อยู่แล้วสบายใจก็โอเคค่ะ หนูไม่ได้เป็นคนง่ายนะคะ แต่ใครอยู่ได้ด้วยก็เก่ง”

มีคนเข้ามาบ้างไหม ?
   “ก็มีค่ะ แต่มันก็อยู่ในช่วงเวลาการศึกษา เอาจริงๆ หนูก็มีข่าวกับผู้ชายบ่อย แต่ผู้ชายที่คุยนานๆ มันก็มีไม่กี่ชื่อ เพราะฉะนั้นเวลาที่หนูคุยกับใคร หนูค่อนข้างจะศึกษานานนิดหนึ่งค่ะ”
พอเราคุยกับผู้ชายคนอื่น พี่เป้รู้บ้างไหม ?
   “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เขาอาจจะมีรู้บ้าง”
เขามีท่าทีหึง หรือไม่อยากให้เราไปคุยกับคนอื่นไหม ?
   “ไม่มีหึงหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่เขาอยู่วงการมาก่อน คนไหนที่เขาดูแล้วมันน่ากลัวไป เขาก็อาจจะมีมากระซิบบอกบ้าง แต่ไม่ถึงกับมากก้าวก่ายหนูขนาดนั้นค่ะ”
เขาช่วยสกรีนทุกคนที่เข้ามาไหม ?
   “ไม่หรอกค่ะ พี่เขาจะมาโฟกัสอะไร สุขภาพเขายิ่งไม่ดีอยู่ (หัวเราะ)”
เวลามีคนคุย เราต่างฝ่ายต่างปรึกษากันก่อนไหม ?
   “ไม่เคยค่ะ โห เขาคงจะมาปรึกษาหนูหรอก (หัวเราะ) เขาไม่เคยมาปรึกษาเลยค่ะ ไม่เคยเล่าอะไรให้หนูฟังด้วยค่ะ นอกจากเพลง หนูอยากเล่นเอ็มวีเขามากเลยนะ หนูเคยบอกเขาไปแล้วแต่หนูว่าเขาคงจะตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงอย่างหนู (ยิ้ม) เลยอาจจะไม่กล้าร่วมงานกับหนู ถ้าเขาสนใจเดี๋ยวหนูลดค่าตัวให้ก็ได้”
ยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์เป็นเพียงพี่น้องเท่านั้น ?
   “ใช่ค่ะ”