บันเทิง

ละเมิดเพลงเดียว.. "นักร้องดัง" ชีวิตเปลี่ยน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  มายาประเทศ   โดย...   นิตี้  fb/nitylive 

 


          บทเรียนชีวิต ใครไม่เคยเจอกับตัวก็คงไม่รู้หรอกว่า รสชาติความทุกข์ที่รบกวนจิตใจอยู่มันเป็นยังไง ดูเหมือน “หนุ่ม กะลา” ณพสิน แสงสุวรรณ นักร้องคนดังกำลังพบวิบากนั้นอยู่ ซึ่งว่ากันว่า ศิลปินแกรมมี่ที่ออกจากค่ายเก่าเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงดัง โดนเหมือน “หนุ่ม กะลา” ก็มีหลายราย

 


          แต่อยากจะพูดถึง “หนุ่ม กะลา” เพราะสิ่งที่เขาเล่าให้สื่อฟังถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจ “นักร้อง” ทั้งที่ดังหรือไม่ดัง และรวมถึงรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ด้วย เพราะถ้าไม่ระวัง วันดีคืนดีอยากร้องเพลงบนเวทีแต่ไม่ได้เคลียร์ค่าลิขสิทธิ์ไว้ก่อนก็อาจจะทุกข์ร้อนแสนสาหัสอย่างนักร้องรายนี้ก็ได้


          ใครจะไปคิดว่า “เพลงยาม” ที่หนุ่มเอามาร้องบนเวทีคอนเสิร์ตทั่วประเทศจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ลองคิดดูว่าถูกแจ้งความดำเนินคดีถึง 44 คดี 44 ท้องที่ ซึ่งครั้งหนึ่งถูกรวบหลังลงจากเวทีจนกลายเป็นข่าวดังมาแล้ว


          จาก 44 คดี เดินสายขึ้นศาลทั้งหมด 17 แห่ง บางคดีเรื่องอยู่ที่อัยการ อยู่ที่ตำรวจก็มี ต้องทยอยไปรายการตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าลืมจากหมายเรียกพลิกเป็นหมายจับจะยุ่งยากไปใหญ่


          “17 ที่ที่ผ่านมาใช้เวลานานแค่ไหน ใช้เวลาหลายเดือนครับ เดินทางไปขึ้นศาลทั่วประเทศ ขั้นตอนมันเยอะมาก ที่ใส่กุญแจมือจริงๆ มันเป็นขั้นตอนของทางอาญา ทุกคนที่ไปขึ้นศาล โดยทางอาญาก่อนจะขึ้นศาลต้องโดนล็อกกุญแจมือ บางศาลจะมีห้องกักกันตัว หลายๆ ศาลก็จะเป็นคุกจริงๆ ซึ่งผมก็จะโดนคุกบ้าง โดนห้องกักกันตัวบ้าง โดนใส่กุญแจมือล่ามกับคนอื่นๆ บ้าง”


          แน่ละ ปุถุชนคนทั่วไป คงไม่มีใครอยากเดินเฉียดไปใกล้คุกใกล้ตะราง แต่นี่เป็นนักร้องดังแค่ร้องเพลงที่ไม่ได้ขออนุญาตก็ตาม แต่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องเจอแบบเดียวกันกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ


          “ตอนเราเดินเข้าไปในคุก แล้วมีนักโทษอยู่ในคุกจริงๆ คือพี่ในคุกที่จำเราได้ เขาพยายามทักทาย มันคือสถานที่ที่เขาทักมาแล้วเรายิ้มระรื่นไม่ได้ หรือโบกมือมันไม่ได้ ผมไม่โอเคเลย แล้วคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิต..เราลุ้นว่าขอให้ศาลนี้ไม่ต้องล็อกกุญแจมือ และพ่วงกุญแจมือเรากับคนอีก 5 คน เดินฝ่าฝูงชนไปขึ้นศาล เราก็ลุ้นแบบนั้นทุกครั้ง..ยิ่งเห็นเลยว่าเราเหมือนอาชญากรเลย ล่าสุดผมไปเข้าคุกมา ผมต้องไปติดอยู่ร่วมกับพี่ๆ หลายคนที่ถูกโทษตัดสิน 28 ปี คดีร้ายแรงหนักๆ เลย ผมมองตัวเองแล้วรู้สึกว่าละเมิดลิขสิทธิ์มันร้ายแรงขนาดนี้จริงๆ เหรอ”


          นอกจากเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางแล้ว ยังต้องชดใช้ค่าละเมิดประมาณ 20 กว่าล้าน คดีแพ่งอีกกว่า 40 ล้าน ซึ่งต้องหาเงินใช้หนี้หัวโต


          “ผมขึ้นศาลใหญ่ๆ มาแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่มีการลดค่าเสียหาย ก็ยังเป็นทีละ 5 แสน รวมแล้วน่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน แล้วมีคดีแพ่งที่ฟ้องผมอีก 40 กว่าล้าน ซึ่งก็ต้องเคลียร์กันต่อไป ถามว่ามันเลยจุดไกล่เกลี่ยมาแล้วใช่มั้ย มันเลยมาแล้ว”


          บทเรียนชีวิตของ “หนุ่ม กะลา” ถือเป็นเรื่องที่เขาอยากบอกคนในวงการว่า ใครที่กำลังละเมิดอยู่ ขอให้ทำถูกดีกว่า ถ้าเจอแบบแบบนี้มันวุ่นวายจริงๆ..!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ