บันเทิง

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 'เง็ก-กัลยา' ถูกพรากลูกนานนับ 10 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เง็ก" กัลยา นักแสดงมากฝีมือออกมาเล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่ยิ่งกว่าในละคร หลังถูกอดีตสามีพรากลูกชายไปตั้งแต่ลูกอายุแค่ 2 ขวบครึ่ง 

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - โลดแล่นอยู่ในวงการมานานพอสมควร สำหรับ นักแสดงมากฝีมือ อย่าง "เง็ก" กัลยา ที่เธอนั้นเคยแต่งงานมาแล้ว แต่น้อยครั้งที่เจ้าตัวจะพูดถึงเรื่องครอบครัว ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มี "หนิง" ปณิตา และ "ธัญญ่า" ธัญเรศ เป็นพิธีกร 
 

    อยู่วงการมานาน เคยแต่งงานมาแล้ว แต่ไม่เคยพูดเรื่องครอบครัวเลย?
 
   "ใช่ค่ะ ส่วนมากจะไม่ค่อยพูดเรื่องครอบครัวสักเท่าไหร่ คือมันผ่านมานานมาก เพราะตอนนี้ลูกชายก็ 20 ปีแล้ว ซึ่งตอนที่แต่งก็แต่งกันเงียบๆไม่ได้หวือหวาหรือมีพิธีใหญ่โตอะไร ไม่ได้ถึงขั้นปิดข่าวนะคะ คือช่วงที่เรามีสามี มีครอบครัว ก็เลี้ยงลูกใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่ด้วยผ่านมาสักระยะ เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลยต้องแยกทางกันไป ใช้ชีวิตคู่ได้สักประมาณ 4 ปีกว่าค่ะ"
 

   เหตุผลหลักที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับสามีคืออะไร?
    "เหตุผลหลักๆเลยก็คือ การที่ผู้ชายเจ้าชู้อะไรแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วเรื่องมันก็จบ แต่ในความรู้สึกลึกๆของเราแล้ว เรารู้สึกได้เลยว่าอันนี้มันไม่ใช่ แล้วพอมันเริ่มรู้สึกเยอะๆ เราก็จะเป็นคนที่แบบว่าตัดออกเลย ก็ปล่อยเขาไป วันที่เรารู้สึกแบบไม่ไหวแล้ว แล้วเราเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ มันรู้สึกแบบจี้หัวใจ คิดแล้วรู้สึกมันเจ็บ ก็เลยตัดสินใจไม่เอาแล้วดีกว่า น่าจะแยกทางกัน"

 

    หลังจากแยกทางกัน ก็ไม่ได้เจอลูกอีกเลย เกิดอะไรขึ้น?
    "ช่วงแรกๆมีการตกลงว่าเราจะจัดการดูแลลูกคนละอาทิตย์ ผ่านไปสักพักเขาก็พาลูกย้ายโรงเรียนหนีเราไปเลย ตอนนั้นเราตกใจมาก เราก็ตามหาไปจนทั่วนะคะ แต่ก็ไม่เจอ ก็หามาเรื่อยๆ จนได้มีการพูดคุยกับตัวเขา แล้วเขาก็ขอเอาลูกไปเลี้ยงเอง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอลูกอีกเลย สาเหตุที่ไม่ให้เราเจอลูก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเหตุผลของเขาคืออะไร ตอนที่ตัดสินใจแยกทางกันจบกันไม่ดีเท่าไหร่ มันมีเรื่องเข้ามา อาจจะมีเรื่องผู้หญิงหรือมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วเราก็ตัดสินใจออกมาจากตรงนั้น"

 

 

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 'เง็ก-กัลยา' ถูกพรากลูกนานนับ 10 ปี

 

 

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 'เง็ก-กัลยา' ถูกพรากลูกนานนับ 10 ปี

 

 

    ปล่อยให้ลูกไปอยู่กับแม่เลี้ยง รู้สึกลำบากใจไหม?
    "เราบังคับมันไม่ได้ ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ และสุดท้ายเราก็ต้องปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงเราจะเสียใจร้องไห้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องอยู่ไป คือต้องบอกว่าเรื่องลูกเป็นอะไรที่เซนซิทีฟมาก เวลาไปกองถ่ายเจอใครที่พาลูกมา ก็จะร้องไห้ตลอดเลย"

 

    เสียใจกับการที่ไม่ได้เจอลูกนานแค่ไหน?
    "ผ่านมาสักพักหนึ่ง แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างที่จะได้เจอเขา แล้วได้เขากลับมาอยู่กับเรา ก็โดนแกล้ง โดนหลอกอยู่ตลอด บางทีโทรหาเราว่าลูกอยู่ที่นั่นที่นี่ เราก็รีบตามไปเพื่อจะเจอ แต่พอไปถึงปรากฏว่าไม่มี ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาต้องการอะไร ทำไปเพื่ออะไร เวลาลูกไปโรงเรียนงานกีฬาสีอะไร เราก็ได้แต่ไปแอบดู ก็เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ จนวันหนึ่งก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาบอกว่า เดี๋ยวเวลาผ่านไปเราจะได้เจอลูกเอง เวลาเขาโต เขาก็จะมาหาเราเอง ซึ่งมันก็คือเรื่องจริง"

 

 

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 'เง็ก-กัลยา' ถูกพรากลูกนานนับ 10 ปี "เง็ก-ลูกชาย"

 

    และวันที่ได้เจอลูกจริงๆ ก็มาถึง เล่าให้ฟังหน่อย 
    "อย่างที่บอกค่ะ เราก็ได้เล่าให้ผู้ใหญ่ท่านนี้ฟัง แล้วเขาก็ช่วยพูดให้ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆผ่อนลง ให้เราได้มีโอกาสเจอลูกบ้าง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นมา ความรู้สึกที่เจอกันคือเหมือนเราเจอแฟน เหมือนรักแรกพบ เจอแล้วตื่นเต้น หัวใจมันเต้นแรง มันดีใจมาก หัวใจเรามันพองโต ก็ร้องไห้เลยค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาอาจจะยังไม่โตมาก และยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไร แต่เราก็ดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการแต่ละช่วงวัยของเขา หลังจากนั้นเราก็เจอกันบ่อยขึ้น"

 

    อยากจะบอกอะไรถึงลูกชายไหม?
    "รักเขาอยู่แล้วค่ะ เพราะถึงยังไงก็เป็นลูกของเรา อยากให้เขาดูแลตัวเองดีๆ ตั้งใจเรียนหนังสือ ถึงยังไงแม่ก็รักลูกนะ"
    ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ รู้สึกยังไงบ้าง ยังโกรธอดีตสามีอยู่ไหม
    "มันก็ผ่านมานานแล้วนะ ซึ่งตอนนี้เราก็ดีต่อกันแล้ว ตามความรู้สึกของเรา คือเรื่องมันก็ผ่านไปแล้วนะ เราก็รู้สึกโอเคขึ้น อีกอย่างก็ไม่ได้ไปยึดติดอะไร เหมือนฟ้าเขาลิขิตมาเป็นแบบนี้ เราก็ต้องก้าวเดินต่อไปคิดว่าคงไม่นานหรอก มันเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแหละ"

 

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 'เง็ก-กัลยา' ถูกพรากลูกนานนับ 10 ปี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ